เกม แบล็คแจ็ค วิธีเล่น และเทคนิคก่อนวางเดิมพัน

สวัสดีครับทุกๆ ท่านที่ติดตาม Stakehow วันนี้ผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับ เกม แบล็คแจ็ค ไม่ว่าจะเป็น วิธีการเล่นเกมแบล็คแจ็ค กฎกติกาในการเล่นต่างๆ สำหรับท่านใดที่ยังไม่ทราบลักษณะของการเล่นเกม กฎกติกา และรูปแบบของการลงเดิมพันต่างๆ วันนี้ผมมีคำตอบมาให้ทุกท่านได้ศึกษากันอย่างละเอียด เนื้อหาจะมีอะไรบ้างนั้นเชิญอ่านได้ที่ด้านล่างนี้เลยครับ

 

เกม แบล็คแจ็ค

เกม แบล็คแจ็ค ออนไลน์ หรือเกมไพ่ 21 ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักเดิมพันชาวไทย อัตราจ่ายสูง คืนทุนไว โดยเป็นเกมคาสิโนสุดคลาสสิกที่เปิดให้บริการบนเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ แบล็คแจ็คออนไลน์ หรือ blackjack เป็นเกมไพ่ที่ใช้เวลาเล่นต่อรอบการเดิมพันสั้น รู้ผลเร็ว เล่นง่าย ได้เงินจริง และเป็นเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมจากนักเสี่ยงโชคทั่วโลก เพราะไพ่แบล็คแจ็คไม่ได้เป็นเกมการพนันที่ใช้ดวงในการเสี่ยงโชคเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องอาศัยทักษะและการฝึกฝน รวมถึงมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการเรียกไพ่เพิ่มเพื่อให้ผลรวมของแต้มออกมาในแบบที่ต้องการ

 

กติกา เกม แบล็คแจ็ค

กฎการเล่นแบล็คแจ็คพื้นฐานสำหรับนักเดิมพันมือใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก โดยแบล็คแจ็ค หรือเกม ไพ่21 แต้ม มีวิธีเล่นที่ตรงตัว นั่นก็คือรวมแต้มหน้า ไพ่ 21 ให้ได้ ใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากที่สุด โดยนักเดิมพันจะต้องเรียนรู้วิธีการอ่านแต้มหน้าไพ่ การนับไพ่แบล็คแจ็ค กติกาการเล่นต่างๆ และรูปแบบการเดิมพัน เพราะสำหรับนักพนันมือใหม่ นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะรู้ก่อนลงสนามเล่นจริงครับ

การนับแต้มไพ่แบล็คแจ็ค

การนับแต้มของไพ่แบล็คแจ็ค นั้นก็จะคล้ายๆ กับการนับแต้มไพ่ในเกมคาสิโนเกมอื่นๆ แต่จะมีความแตกต่างกันแค่ไม่กี่อย่าง ดังนี้ครับ

  • หน้าไพ่ 2 – 10 มีแต้มตามเลขหน้าไพ่ ตัวอย่างเช่น ไพ่ 3 มีค่าเท่ากับ 3 แต้ม ไพ่ 9 มีค่าเท่ากับ  แต้ม เป็นต้น
  • หน้าไพ่ J – Q – K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
  • และหน้าไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11 แต้ม ขึ้นอยู่กับตามสถานการณ์ของไพ่ที่ได้รับ ตัวอย่างเช่น หากผู้เล่นได้รับไพ่ A กับไพ่ K จะนับเป็น 21 แต้ม แต่ถ้าหากได้ไพ่ A กับไพ่ 6 ก็จะนับแต้มเป็น 7 แต้ม เป็นต้น

ตัวอย่างการนับแต้มไพแบล็คแจ็ค

  • เมื่อได้ไพ่ A กับไพ่ Q เท่ากับว่านับแต้มได้ 11+10 = 21 แต้ม
  • หรือหากได้ไพ่ 4 , 4 , 9 เท่ากับว่า มีแต้มทั้งหมด 4+4+9 = 17 แต้ม

หลักในการจั่วไพ่จะไม่นิยมจั่วให้ใกล้เคียง 21 แต้ม มากกว่าการจั่วให้ได้ 21 แต้มครับ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเรียกจั่วไพ่แล้วได้ 17 – 18 แต้ม คุณสามารถหยุดได้เพราะยังมีโอกาสชนะได้มากกว่าที่จะเสี่ยงในการจั่วต่อเพื่อให้ลุ้นได้ 21 แต้ม

เกม แบล็คแจ็๕
แต้มไพ่แบล็คแจ็ค

 

การแยกไพ่ เกม แบล็คแจ็ค

หากไพ่ในมือของคุณมีแต้มเท่ากันใน 2 ใบแรก ยกตัวอย่างเช่น คุณได้ไพ่ 5 – 5 หรือ 6 – 6  หรือ 7 – 7 คุณจะสามารถเลือกแยกไพ่ออกเป็น 2 มือ หรือ 2 กองได้ โดยเงินวางเดิมพันจะต้องเท่ากับเงินเดิมพันหลักของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณวางเดิมพันไว้ที่ 100 บาท เมื่อแยกไพ่แล้ว คุณจะต้องวางเดิมพันขาละ 100 บาทเท่ากันนั่นเองครับ และเมื่อแยกไพ่แล้ว คุณก็จะสามารถเล่นได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการจั่วไพ่ การหยุดจั่ว และรูปแบบต่างๆ

 

การเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่า

หากเจ้ามือเปิดไพ่ 2 ใบแรกแล้ว เจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค คุณจะสามารถเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่าได้ เมื่อคุณคิดว่าไพ่ในมือของคุณจะมีโอกาสชนะเจ้ามือ ทั้งนี้คุณจะใช้ตัวเลือกนี้ได้หลังจากได้รับไพ่ 2 ใบเท่านั้น  และเมื่อคุณเลือกวางเดิมพันเป็น 2 เท่าแล้ว ดีลเลอร์จะแจกไพ่ให้คุณเพิ่มอีกเพียงแค่ 1 ใบเท่านั้น คุณจะไม่สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้อีกครับ

 

การประกัน

เมื่อดีลเลอร์หงายไพ่ใบแรกคือไพ่ A เกมจะมีระบบประกันขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นสิ่งประกันความเสี่ยง เพราะถ้าหากเจ้ามือนั้นมีแต้ม 21 แต้ม หรือแบล็คแจ็ค เงินรางวัลของการประกัน ก็เท่ากับครึ่งหนึ่งของเงินที่คุณนั้นได้วางเดิมพันเอาไว้ หากเปิดไพ่ขึ้นมาแล้ว เจ้ามือไม่ได้แต้ม 21 หรือแบล็คแจ็ค เกมก็จะดำเนินต่อไป หากแต้มเสมอกันคุณก็จะสามารถรับเงินของคุณคืนได้นั่นเอง

 

รูปแบบของการเดิมพันแบล็คแจ็ค

ในการวางเดิมพันของเกมไพ่แบล็คแจ็คนั้น คุณสามารถเลือกที่จะทำการวางเดิมพันได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น 21+3 , Perfect Pair หรือจะเป็น Bet Behind ซึ่งผมจะมาอธิบายการเดิมพันอย่างละเอียด เพื่อที่จะทำให้คุณนั้นรู้จักกับรูปแบบของการเดิมพันมากขึ้นครับ

การวางเดิมพัน Perfect Pair

เป็นการแทงไพ่คู่แรก ตัวอย่างเช่น ไพ่ 3 – 3 , 4 – 4 หรือ K – K โดยสีจะต้องเหมือนกันด้วย อาจจะเป็น 2 โพแดง 2 ข้าวหลามตัด อัตราการจ่ายก็จะขึ้นกับเว็บไซต์แต่ละเว็บด้วยว่ามีอัตราการจ่ายเงินรางวัลเท่าไหร่

การวางเดิมพัน 21+3

เป็นการที่ไพ่ในมือของคุณนั้นมีโอกาสที่จะเกิดการตองเหมือน , สเตรทฟลัช , ตอง , สเตรท , ฟลัช และหากคุณนั้นชนะในรูปแบบที่พูดมานี้ก็จะมีอัตราการจ่ายที่เยอะมากเลยทีเดียวครับ

  • ตองเหมือน คือ การที่มีไพ่ 3 ใบเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น 9 โพดำสามใบ
  • สเตรทฟลัช คือ การเรียงกันตามลำดับ และมีไพ่ดอกเดียวกันเช่น 9 โพแดง , 10 โพแดง , J โพแดง เป็นต้น
  • ตอง คือ การที่มีไพ่ 3 ใบนั้นเหมือนกัน แต่สามารถมีสี และดอกที่ต่างกันได้ ตัวอย่างเช่น 5 โพดำ , 5 ข้าวหลามตัด , 5 โพแดง
  • สเตรท คือ ไพ่ในมือนั้นเรียงกันตามลำดับ แต่สามารถมีสี และดอกของไพ่นั้นแตกต่างกันได้ ตัวอย่างเช่น 6 โพแดง , 7 ดอกจิก , 8 โพดำ
  • ฟลัช คือ การที่ไพ่ในมือนั้นมีดอกเดียวกันสามใบ ตัวอย่างเช่น 4 โพแดง , 6 โพแดง , 7 โพแดง

การวางเดิมพัน Bet Behind

เป็นการเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่น โดยที่คุณนั้นจะสามารถอ้างอิงการชนะจากไพ่ของผู้เล่นคนอื่นได้ แต่คุณจะสามารถกำหนดเงินเดิมพันได้เอง และไม่สามารถบอกให้เขานั้นจั่วไพ่เพิ่ม หรือหยุดเรียกไพ่เพิ่มได้ นั่นก็คือ หากคุณนั้นวางเดิมพันตามใครแล้ว คุณจะไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลย นอกจากวางเดิมพันนั่นเองครับ

 

กติกาในการเล่นแบล็คแจ็ค บนเว็บคาสิโนออนไลน์

โดยทั่วไปแล้วกติกาในการเล่นแบล็คแจ็คจะใช้พื้นฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นตามบ่อนคาสิโน วงไพ่ในบ้าน หรือว่าเว็บคาสิโนออนไลน์ เพียงแต่อย่างหลังอาจมีการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วแต่เจ้ามือ ดังนั้นก่อนเล่นผู้เล่นควรจะศึกษา กฎกติกาตรงนี้ให้ดีให้เข้าใจก่อนครับ จะได้ไม่ต้องมาโวยวายกันทีหลังว่าโดนเจ้ามือโกง สำหรับกฎกติกาพื้นฐานที่ใช้เล่นกันเป็นมาตรฐานสากล มีดังนี้ครับ

  • ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องจั่วไพ่เพิ่มแล้วรวมแต้มไพ่ในมือให้ได้ใกล้เคียง หรือเท่ากับ 21 แต้มให้มากที่สุด
  • หากผู้เล่นจั่วไพ่แล้วรวมแต้มออกมาเกิน 21 แต้ม จะถือว่าแพ้ในเกมนั้นทันทีครับ โดยจะไม่สนใจว่าเจ้ามือจะมีแต้มมากน้อยแค่ไหน เพราะกฎเหล็กของเกมนี้คือ อย่าให้เกิน 21 แต้มเด็ดขาด
  • ในกรณีที่เจ้ามือรวมแต้มไพ่แล้วได้น้อยกว่า 17 แต้ม จะถูกบังคับให้จั่วไพ่เพิ่มเรื่อย ๆ และจะหยุดจั่วได้ก็ต่อเมื่อแต้มรวมของไพ่อยู่ระหว่าง 17 – 21 แต้มเท่านั้นครับ
  • ฝั่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะจั่วไพ่ หรือไม่ก็ได้ และไม่จำกัดจำนวนครั้งในการจั่ว และไม่สนใจด้วยว่าในมือผู้เล่นจะรวมไพ่แล้วได้กี่แต้ม
  • หากผู้เล่นไม่ทำการจั่วไพ่ในเวลาที่กำหนด ระบบจะถือว่า อยู่ โดยอัตโนมัติ

 

สูตรแบล็คแจ็ค เทคนิคการเล่นแบบอ่านเค้าไพ่ บวกกำไรอย่างต่อเนื่อง

สูตร หรือ เทคนิคการเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คที่เราจะมาแนะนำกันนั่นก็คือ การอ่านเค้าไพ่ ซึ่งเทคนิคนี้ถือได้ว่าเป็น เทคนิคพื้นฐานของความสำเร็จในการเล่น เกมไพ่ 21 เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งหากผู้เล่นท่านใดเข้าใจสูตรนี้แล้ว รับรองได้เลยว่าบวกกำไรต่อเนื่องอย่างแน่นอน โดยวิธีการใช้สูตรแบล็คแจ็ค เทคนิคเล่นไพ่แบล็คแจ็ค นี้จะมีขั้นตอนการอ่านเป็นอย่างไร มาดูกันเลยดีกว่าครับ

1. ก่อนการเริ่มต้นเล่นเกมแบล็คแจ็คออนไลน์ ให้ผู้เล่นทุกท่านทำการศึกษา และทำความเข้าใจเกี่ยวกับ คำศัพท์แบล็คแจ็คกันก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้ทำการอธิบายเกี่ยวกับคำศัพท์ต่างๆ เอาไว้แล้ว สามารถอ่าน และทำความเข้าใจกันก่อนได้เลยครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อลดความเสี่ยง และแก้ปัญหาการเดิมพันแบบงงๆ ได้นั่นเอง

 

2. เมื่อผู้เล่นได้ไพ่ 10 หรือ 11 ให้ทำการเลือก Double down หรือ ทำการเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่า ทุกครั้ง ซึ่งจะสามารถทำได้ดีที่สุดในจังหวะที่เจ้ามือมีไพ่ 2 – 6 แต้มอยู่ในมือ และถึงแม้ว่าจะเป็นการเพิ่มเงินเป็น 2 เท่า แต่ควรเลือกดูหน้าไพ่เจ้ามือให้ดีด้วย เพื่อโอกาสในการได้รับเงินเป็น 2 เท่า

 

3. หากผู้เล่นได้ไพ่คู่ 10 ไม่ควรทำการ SPIT หรือ แยกไพ่เป็นอันขาด เพราะแต้มที่ผู้เล่นได้นั้นถือว่า สูงอยู่แล้ว โอกาสที่จะชนะเจ้ามือมีสูงมาก หากเจ้ามือไม่ได้แต้มไพ่รวมกัน 21 แต้ม ก็ไม่มีทางชนะผู้เล่นได้อย่างแน่นอน

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกมไพ่แบล็คแจ็คค่อนข้างได้รับความนิยม ไม่เพียงแต่ในหมู่นักเดิมพันชาวไทยเท่านั้นแต่ยังได้รับความนิยมจากนักเดิมพันทั่วโลก เป็นเพราะรูปแบบ และวิธีการเล่นที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย นักเดิมพันมือใหม่ก็สามารถเล่น และทำกำไรได้โดยง่าย ซึ่งเกมไพ่ 21 หรือเกมไพ่แบล็คแจ็ค ยังเป็นเกมไพ่ที่สามารถเอาชนะได้ด้วยการฝึกฝนอีกด้วย