สวัสดีครับทุกๆ ท่านที่ติดตาม Stakehow วันนี้ผมจะมาอธิบาย กติกาเกมแบล็คแจ็ค โดยเนื้อหาในบทความนี้จะเป็นการอธิบายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น กติกาพื้นฐาน รูปแบบการวางเดิมพัน ขั้นตอนการเล่น ซึ่งผมจะอธิบายตั้งแต่ทางเข้าสู่เว็บไซต์อย่างละเอียด ส่วนเนื้อหาจะมีอะไรบ้างเชิญอ่านได้ที่ด้านล่างนี้เลยครับ
แบล็คแจ็ค เกมไพ่ที่ได้รับความนิยมมากในคาสิโน
เกมำพ่แบล็คแจ็คเป็นหนึ่งในเกมคาสิโนที่จะสามารถเอาชนะได้ง่าย และรวดเร็ว และแบล็คแจ็คก็ถือว่าเป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมมากในคาสิโน ด้วยรูปแบบเกมที่สนุกสนาน นอกจากนี้การเล่นของเกมไพ่แบล็คแจ็คก็เข้าใจง่าย เพียงแค่ท่านมีไพ่ในมือแต้มใกล้เคียง หรือเท่ากับ 21 แต้ม ซึ่งเป็นแต้มสูงสุด ท่านก็จะเป็นฝ่ายชนะเดิมพัน
กติกาเกมแบล็คแจ็ค
ในการเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คจะใช้ไพ่ในการเล่นทั้งหมด 6 สำรับด้วยกัน วิธีเล่นเกมจะเริ่มจากการแจกไพ่ฝ่ายละ 2 ใบ โดยแจกใหฝ่ายผู้เล่นก่อน ส่วนเจ้ามือจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับไพ่ เมื่อเจ้ามือได้ทำการแจกไพ่ครบแล้ว ทุกท่านสามารถจั่วไพ่ได้เรื่อยๆ ไม่จำกัด จั่วไปจนกว่าท่านจะได้แต้มที่พอใจ
เกมไพ่แบล็คแจ็คเป็นเกมไพ่ที่ผู้ชนะจะต้องมีแต้มไพ่เท่ากับ 21 แต้ม หรือใกล้เคียงมากที่สุด สำหรับการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค แต่ถ้าแต้มเกิน 21 แล้วก็จะจบเกมทันที เพราะถ้าแต้มเกิน 21 แล้วจะถือว่าแพ้จะหมดสิทธิ์ในการจั่วไพ่ทันที
การนับแต้มของเกมไพ่แบล็คแจ็ค
ในการนับแต้มของเกมไพ่แบล็คแจ็ค จะคล้ายกับเกมอื่น ต่างกันแค่ไพ่ A หรือ Ace เท่านั้น ดังนี้ครับ
- ไพ่เลข 2-10 จะนับแต้มตามเลขบนหน้าไพ่
- ไพ่ J , Q , K จะนับ 10 แต้มเท่ากันทั้งหมด
- ไพ่ A หรือ Ace ของเกมนี้ จะนับเป็น 1 หรือ 11 แต้ม เป็นไพ่เดียวที่มี 2 ค่า แล้วแต่ว่าจะไปอยู่กับไพ่ใบไหน หาก A ไปอยู่ร่วมกับไพ่ 10, J, Q หรือ K ก็จะทำให้มีค่าเป็น 11 แต้ม และทำให้ติดแบล็คแจ็คทันที แต่ถ้า A ไปอยู่กับไพ่หน้าแต้ม 2-9 ไม่ว่าจะดอกไหนก็มีค่าแค่ 1 แต้มเท่านั้น
การแยกไพ่
ในการแยกไพ่ของแบล็คแจ็ค จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราได้รับไพ่เป็นหน้าเดียวกัน 2 ใบ เมื่อแยกไพ่เสร็จแล้วก็ต้องวางเดิมพันเข้าไปในขาที่แยกออกมา หากแยกไพ่ออกมาแล้วยังติดคู่อีกท่านก็สามารถแยกไพ่ได้อีกเช่นกันครับ
หมายเหตุ กฎกติกาพื้นฐานของการแยก หากท่านได้ไพ่คู่ A-A หลังจากแยกแล้วจะจั่วไพ่เพิ่มได้แค่ครั้งเดียว แต่ถ้าเป็นไพ่คู่ 8-8 ท่านสามารถจั่วไพ่ได้ไม่จำกัด
การเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่า
หากเจ้ามือเปิดไพ่ 2 ใบแรกแล้ว เจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค ท่านจะมีโอกาสเรียกไพ่เพิ่มได้ และสามารถเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าได้เช่นกัน และเมื่อท่านนั้นเลือกวางเดิมพันเป็นสองเท่าแล้วเจ้ามือจะแจกไพ่ให้ท่านเพียงใบเดียว แต่หากท่านเลือกจั่วไพ่เพิ่ม ท่านก็จะสามารถเพิ่มไพ่ได้ตามที่ท่านนั้นต้องการ
การประกันเงินเดิมพัน
การประกันเงินเดิมพันในเกม คือ การเดิมพันเมื่อท่านคาดว่าไพ่ของเจ้ามือจะแบล็คแจ็ค หรือ 21 แต้ม โดยท่านสามารถซื้อประกันได้เมื่อไพ่ใบที่เปิดของเจ้ามือคือไพ่ A การประกันนั้นจะมีค่าเท่ากับจำนวนเงินเดิมพันเริ่มแรก ถ้าหากเจ้ามือได้แบล็คแจ็ค แต่ถ้าเจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค ก็จะเสียเงินที่ทำประกันนั้นไป
คำศัพท์ที่ใช้ในเกมไพ่แบล็คแจ็ค
ในส่วนของคำศัพท์ที่ใช้ภายในเกมนั้น ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กับกฎกติกาเลย ยิ่งถ้าท่านเล่นกับคาสิโนออนไลน์ด้วยแล้ว ท่านยิ่งต้องรู้คำศัพท์เหล่านี้ เพราะว่าเป็นคำศัพท์สากลที่ถูกใช้ภายในคาสิโน และเมื่อคำศัพท์เหล่านี้เกิดขึ้นท่านจะรู้ได้ทันทีว่าเหตุการณ์ใดกำลังจะเกิด ดังนั้นลองมาทำความรู้จักกับศัพท์ไพ่แบล็คแจ็คกันครับ
1. การจั่วไพ่เพิ่ม หรือ Hit
การจั่วไพ่เพิ่มในเกมแบล็คแจ็ค หากท่านกดปุ่ม Hit หรือปุ่มขอไพ่เพิ่ม ท่านจะได้รับไพ่มาเพิ่มอีก 1 ใบ ไพ่ของท่านจะต้องมีแต้มน้อยกว่า 21 แต้ม ท่านถึงจะสามารถเลือกที่จะขอไพ่เพิ่มได้ และในส่วนไพ่ของเจ้ามือนั้นจะมีข้อจำกัดไว้ในกรณีที่ไพ่ทั้ง 2 ใบของเจ้ามือเท่ากับ 16 แต้มหรือต่ำกว่า 16 แต้ม ซึ่งเจ้ามือจำเป็นต้องจั่วไพ่ แต่หากไพ่ของเจ้ามือเท่ากับ 17 แต้ม หรือมากกว่า 17 แต้ม ก็จะไม่สามารถจั่วไพ่ได้อีกครับ
2. การขอหยุดไพ่ หรือ Stand
การขอหยุดไพ่ในการเกมไพ่แบล็คแจ็คนั้น ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะท่านได้แต้มที่น่าพึงพอใจ หรือท่านได้แต้มครบ 21 แต้มแล้วนั่นเองครับ
3. การเพิ่มวงเงินเดิมพัน หรือ Double Down
ถ้าหากท่านมั่นใจว่าไพ่ในมือของท่านนั้น มีคะแนนที่ดี และสามารถที่จะชนะเจ้ามือได้ ท่านสามารถเพิ่มเงินเดิมพันให้สูงขึ้นได้ โดยการเพิ่มวงเงินเดิมพันนั้นสามารถเพิ่มได้สูงถึง 2 เท่าของยอดเงินที่ลงในครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งหลังจากกด Double Down แล้ว ดีลเลอร์จะแจกไพ่เพิ่มให้อีกเพียง 1 ใบเท่านั้นครับ
4. การขอเจ้ามือแยกไพ่ หรือ Split
สำหรับการขอแยกไพ่นั้น ส่วนมากจะเกิดขึ้นในกรณีที่ไพ่ในมือมีหน้าเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ท่านได้ไพ่หน้า A-A , 2-2 , 3-3 เมื่อแยกไพ่ออกแล้วไพ่ของท่านจะกลายมาเป็นไพ่ 2 ขา ท่านสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้อย่างไม่จำกัดจนกว่าไพ่จะครบ 21 แต้ม หรือได้แต้มที่ใกล้เคียงกับแต้ม 21 ทั้ง 2 ขาได้เช่นกัน
5. การหมอบ หรือ Surrender
เมื่อไหร่ที่ท่านรู้สึกว่าไพ่ในมือของท่านอาจจะแพ้ให้กับไพ่ของฝ่ายเจ้ามือ หรือเป็นไพ่ที่มีแต้มที่เกินไปกว่า 21 แล้ว ซึ่งไพ่นั้นไม่มีทางที่จะชนะได้แล้ว ท่านสามารถหมอบได้ทันที เพื่อเป็นการทำให้คนทั้งวงรู้ว่าท่านยอมแพ้แล้วนั่นเองครับ
6. การประกันเงินเดิมพัน หรือ Insurance
เป็นการประกันเงินเดิมพันเพื่อไม่ให้เสียไปทั้งหมด จะเกิดขึ้นในกรณีที่ท่านรู้สึกว่าทางฝ่ายเจ้ามือจะมีโอกาสแบล็คแจ็คได้มากกว่า เพราะการเล่นแบล็คแจ็คส่วนใหญ่แล้วเจ้ามือมักจะเป็นผู้ที่ต้องเปิดไพ่ 1 ใบก่อนเพื่อลุ้นผล และการเปิดไพ่นี้ก็คือเปิดให้คนทั้งโต๊ะได้เห็น ซึ่งถ้าเปิดออกมาเป็นไพ่ที่จะทำให้ได้ลุ้นว่าอาจจะได้ 21 แต้ม ท่านสามารถทำการประกันเงินเดิมพัน หรือซื้อประกันภัยแบล็คแจ็คได้ทันทีเลยครับ
รูปแบบการวางเดิมพันแบล็คแจ็ค
เกมไพ่แบล็คแจ็คนับว่าเป็น 1 ในเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกมไพ่แบล็คแจ็คมีรูปแบบการเล่นที่ไม่เหมือนกับเกมคาสิโนอื่นๆ เพราะ กติกาเกมแบล็คแจ็ค รูปแบบการวางเดิมพันของเกมไพ่แบล็คแจ็คนั้น ท่านสามารถเลือกที่จะทำการวางเดิมพันได้มากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งผมจะมาอธิบายการเดิมพันแต่ละรูปแบบอย่างละเอียดให้ทุกท่านนั้นเข้าใจมากยิ่งขึ้น ดังนี้ครับ
การวางเดิมพันแบบ Perfect Pair
เป็นการวางเดิมพันที่ทำให้ท่านนั้นมีโอกาสชนะ เพียงแค่ใช้ไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น โดยที่ไพ่ของท่าน 2 ใบแรก จะต้องเป็นไพ่คู่ ยกตัวอย่างเช่น 5-5 , 6-6 , 7-7 หรือ 10-10 เป็นต้น
การวางเดิมพันแบบ 21+3
คือการที่ไพ่ในมือของท่านนั้นมีโอกาสที่จะเกิดการ ตองเหมือน / สเตรทฟลัช / ตอง / สเตรท / ฟลัช และหากท่านนั้นชนะในรูปแบบที่พูดมานี้ ท่านจะได้รับอัตราการจ่ายที่เยอะมาก
ตองเหมือน คือการที่มีไพ่สามใบเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ได้ไพ่ A ข้าวหลามตัด ทั้ง 3 ใบ
สเตรทฟลัช คือการเรียงกันตามลำดับ และมีไพ่ดอกเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น 10 – J – Q ดอกจิก เป็นต้น
ตอง คือการที่มีไพ่สามใบนั้นเหมือนกัน แต่สามารถมีสี และดอกที่ต่างกันได้ ยกตัวอย่างเช่น 5 – 5 – 5 สีต่างกัน และดอกต่างกันนั่นเอง
สเตรท คือไพ่ในมือนั้นเรียงกันตามลำดับ แต่สามารถมีสี และดอกของไพ่แตกต่างกันได้ ยกตัวอย่างเช่น 2 ข้าวหลามตัด , 3 โพดำ , 4 โพแดง เป็นต้น
ฟลัช คือการที่ไพ่ในมือนั้นมีดอกเดียวกันทั้ง 3 ใบ ยกตัวอย่างเช่น 2 ข้าวหลามตัด , 5 ข้าวหลามตัด , 8 ข้าวหลามตัด
การวางเดิมพันแบบ Bet Behind
คือการเดิมพันตามท่านคนอื่น โดยท่านนั้นจะสามารถอ้างอิงการชนะจากไพ่ของผู้เล่นคนอื่นได้ แต่ท่านสามารถกำหนดเงินเดิมพันได้เอง และไม่สามารถบอกให้ท่านนั้นจั่วไพ่เพิ่ม หรือหยุดเรียกไพ่เพิ่มได้ นั้นก็คือ หากท่านได้วางเดิมพันตามใครแล้ว ท่านจะไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลย นอกจากการวางเดิมพันนั่นเองครับ
แนะนำเว็บไซต์เพื่อเล่นเดิมพันเกมแบล็คแจ็คออนไลน์
เว็บไซต์สำหรับการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ นั้นมีอยู่หลากหลายเว็บไซต์ให้ท่านได้เลือกมากมาย ซึ่งวันนี้มีผมมีเว็บคาสิโนออนไลน์ที่ให้บริการมาแนะนำทุกท่าน ซึ่งในบทความนี้ ผมจะใช้เว็บไซต์ ALPHA88 มายกตัวอย่างการเดิมพันแบล็คแจ็คออนไลน์ ให้ทุกท่านได้ศึกษากันครับ
เหตุผลที่ผมเลือกเว็บนี้ เป็นเพราะว่า ALPHA88 เป็นเว็บไซต์ที่ผมได้ใช้งานเป็นประจำ ใช้งานง่าย การันตีเรื่องของความปลอดภัย และนอกจากนั้นยังมีโปรโมชั่นมากมายให้กับสมาชิก
ขั้นตอนในการเข้าเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ALPHA88
1. ขั้นตอนแรกในการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ท่านต้องเข้าสู่เว็บไซต์ ALPHA88 ก่อน ท่านสามารถกดที่นี่ ทางเข้าเว็บไซต์ ALPHA88 เพื่อทำการเข้าสู่หน้าเว็บไซต์หลัก หลังจากนั้นให้ท่านกดไปที่ เข้าสู่ระบบ (กรอบสีแดง) แต่ถ้าหากท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิกกับทางเว็บไซต์ ALPHA88 สามารถศึกษารายละเอียดการสมัครได้ในลิ้งค์นี้ คลิก สมัครสมาชิก
2. หลังจากที่ท่านได้ทำการสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถล็อคอินเข้าสู่ระบบได้เลยครับ โดยกรอก ชื่อบัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่าน จากนั้นกด เข้าสู่ระบบ ได้เลย
3. เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านกดเข้าไปที่คำว่า คาสิโน (กรอบสีแดง) ตรงแถบสีส้มด้านบน ท่านจะสังเกตเห็นว่ามี 4 แบรนด์ให้ท่านเลือกเล่น คือ PT คาสิโน , GPI คาสิโน , SEXY BACCARAT และ MGS คาสิโน ท่านสามารถเลือกเล่นแบรนด์คาสิโนออนไลน์แบรนด์ไหนก็ได้ตามที่ท่านต้องการ แต่ในบทความนี้ผมจะใช้คาสิโน แบรนด์ PT คาสิโน (กรอบสีฟ้า)
4. เมื่อท่านเข้าสู่หน้าแบรนด์ PT คาสิโนแล้ว ท่านจะเจอเกมคาสิโนออนไลน์ต่างๆมากมาย ให้ท่านทำการเลือก BLACKJACK (กรอบสีแดง) หลังจากนั้นจะมีห้องแบล็คแจ็คออนไลน์มากมาย ท่านสามารถเลือกเข้าเล่นห้องไหนก็ได้ตามที่ท่านสนใจ แค่นี้ท่านก็สามารถเดิมพันกับทางเว็บได้แล้วครับ
