เกมส์รูเล็ต คืออะไร มีวิธีการเล่นอย่างไร อยากรู้ต้องอ่าน

สวัสดีผู้ติดตาม Stakehow ทุกท่านครับ ในบทความนี้ผมจะมาอธิบายรายละเอียดเกมส์รูเล็ต เกมส์วงล้อที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน สำหรับนักเดิมพันมือใหม่ หรือท่านใดที่ยังไม่รู้ว่า เกมส์รูเล็ต คืออะไร มีรูปแบบการเดิมพัน และอัตราการจ่าย จ่ายแบบไหน ในบทความนี้จะไขข้อสงสัยให้ท่านทุกข้อ เนื้อหาจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลยครับ

 

เกมส์รูเล็ต คืออะไร

เกมส์รูเล็ต เป็นเกมส์ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส เกมส์รูเล็ตเป็นหนึ่งในเกมส์คาสิโนที่มีนักเดิมพันเล่นนิยมเล่นและให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก อุปกรณ์ในการเล่นรูเล็ตก็คือวงล้อขนาดเล็กที่มีตัวเลข 0-36 และลูกเหล็ก 1 ลูก ที่เอาไว้โยนเพื่อสุ่มหาผลลัพธ์ สำหรับวิธีการเล่นดีลเลอร์จะทำการหมุนวงล้อ จากนั้นก็จะโยกลูกเหล็กลงไปในวงล้อ โดยท่านจะต้องทายว่าลูกเหล็กลูกนี้จะตกลงไปอยู่ในช่องตัวเลขใด โดยท่านจะสามารถทายได้ทั้งหมด 37 ตัวเลข ตั้งแต่เลข 0-36

ส่วนใหญ่คนที่เล่นเกมส์รูเล็ตนั้นมักจะอาศัยดวงในการเล่นมากกว่าการนำสูตรมาใช้ จึงไม่สามารถประสบความสำเร็จในการเล่นมากนัก ดังนั้นในการเล่นรูเล็ต และก่อนเล่นเดิมพันผมแนะนำว่าควรศึกษาข้อมูลของเกมส์ให้ดีก่อน เพราะยิ่งรู้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะได้เปรียบในการเดิมพันมากเท่านั้นครับ

 

ตำแหน่งการเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงินรางวัล

ตำแหน่งการเดิมพันของเกมส์รูเล็ตในทุกๆ คาสิโน มีทั้งหมด 10 รูปแบบด้วยกัน คือ การเดิมพันโดยตรง , , การวางเดิมพัน (1-18) – (19-36) , การวางเดิมพันแบบคู่ – คี่ , การวางเดิมพันแบบสีแดง – สีดำ , การวางเดิมพันแบบ 12 ช่อง , การวางเดิมพันแนวนอน , การวางเดิมพันค่อม 2 เลข , การวางเดิมพันค่อม 3 เลข , การวางเดิมพันค่อม 4 เลข และการวางเดิมพันค่อม 6 เลข โดยตำแหน่งการเดิมพันทั้ง 10 รูปแบบนี้ มีเงื่อนไข และอัตราการจ่ายเงิน ดังนี้ครับ

การเดิมพันแบบโดยตรง

การเดิมพันแบบตรง เป็นการลงเดิมพันในตำแหน่งตัวเลข โดยตัวเลขทั้งหมดจะมี 37 ตัวเลข คือ 0-36 ท่านสามารถเลือกเลขใดก็ตามตามที่ท่านต้องการ วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางไว้ที่ตัวเลขที่ท่านต้องการเดิมพัน (ในกรอบสีเหลือง) หากผลลัพธ์ออกมาตรงกับตัวเลขที่ท่านลงเดิมพันไว้ ถึงจะชนะการเดิมพัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 35 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 3,500 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

การวางเดิมพันแบบ (1-18) – (19-36)

การเดิมพันแบบ (1-18) – (19-36) หรือการเดิมพันแบบต่ำ – สูง เป็นการลงเดิมพันว่าตัวเลขที่ออกมาในรอบนั้นจะมีตัวเลขระหว่าง 1-18 (ต่ำ) หรือระหว่าง 19-36 (สูง) นั่นเองครับ วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางที่ตำแหน่ง 1-18 หรือตำแหน่ง 19-36 (ในกรอบสีเหลือง) อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

การวางเดิมพันแบบคู่ – คี่

การเดิมพันคู่ – คี่ เป็นการลงเดิมพันว่าตัวเลขที่ออกมาในรอบนั้นจะเป็นตัวเลขจำนวนคู่ หรือตัวเลขจำนวนคี่ ซึ่งแบ่งไว้ดังนี้ครับ

ตำแหน่งเดิมพัน	ประกอบไปด้วยตัวเลข
ช่องหมายเลขคู่	2-4-6-8-10-12-14-16-18-20-22-24-26-28-30-32-34-36
ช่องหมายเลขคี่	1-3-5-7-9-11-13-15-17-19-21-23-25-27-29-31-33-35

วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางที่ตำแหน่งเลขคู่ หรือตำแหน่งเลขคี่ (ในกรอบสีเหลือง) การเดิมพันรูปแบบนี้ถ้าหากว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นหมายเลข 0 ท่านจะแพ้การเดิมพันทันที อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

การวางเดิมพันแบบสีแดง – สีดำ

การเดิมพันสีแดง – สีดำ เป็นการลงเดิมพันว่าผลลัพธ์ในช่องสี โดยมี 2 สีให้เลือกเดิมพัน คือสีแดง และสีดำ โดยสีแต่ละสีจะมีตัวเลขกำกับเอาไว้ดังนี้ครับ

ตำแหน่งเดิมพัน	ประกอบไปด้วยตัวเลข
ช่องสีแดง	1-3-5-7-9-12-14-16-18-19-21-23-25-27-30-32-34-36
ช่องสีดำ	2-4-6-8-10-11-13-15-17-20-22-24-26-28-29-31-33-35

วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางที่ตำแหน่งช่องสีแดง หรือตำแหน่งช่องสีดำ (ในกรอบสีเหลือง) การเดิมพันรูปแบบนี้ถ้าหากว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นหมายเลข 0 ท่านจะแพ้การเดิมพันทันที อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

การวางเดิมพันแบบ 12 ช่อง

การเดิมพัน 12 ช่อง เป็นการเดิมพันตัวเลขในช่อง 1st 12 , 2nd 12 , 3rd 12 โดยแต่ละช่องจะมีตัวเลขทั้งหมด 12 ตัวเลข โดยแต่ละช่องจะมีตัวเลขกำกับเอาไว้ดังนี้ครับ

ตำแหน่งเดิมพัน	ประกอบไปด้วยตัวเลข
1st 12	1-2-3-4-5-6-7-8-9-10-11-12
2nd 12	13-14-15-16-17-118-19-20-21-22-23-24
3rd 12	25-26-27-28-29-30-31-32-33-34-35-36

วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางที่ตำแหน่งช่อง 1st 12 , 2nd 12 , 3rd 12 (ในกรอบสีเหลือง) การเดิมพันรูปแบบนี้ถ้าหากว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นหมายเลข 0 ท่านจะแพ้การเดิมพันทันที อัตราการจ่ายอยู่ที่ 2 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 200 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

การวางเดิมพันแบบแนวนอน

การเดิมพันแนวนอน เป็นการเดิมพันตัวเลขในช่อง 2to1 แถวด้านบน แถวกลาง และแถวล่าง โดยแต่ละแถวจะมีตัวเลขทั้งหมด 12 ตัวเลข โดยแต่ละแถวจะมีตัวเลขกำกับเอาไว้ดังนี้ครับ

ตำแหน่งเดิมพัน	ประกอบไปด้วยตัวเลข
แถวบน	3-6-9-12-15-18-21-24-27-30-33-36
แถวกลาง	2-5-8-11-14-17-20-23-26-29-32-35
แถวล่าง	1-4-7-10-13-16-19-22-25-28-31-34

วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางที่ตำแหน่งช่อง 2to1 แถวด้านบน แถวกลาง แถวล่าง (ในกรอบสีเหลือง) การเดิมพันรูปแบบนี้ถ้าหากว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นหมายเลข 0 ท่านจะแพ้การเดิมพันทันที อัตราการจ่ายอยู่ที่ 2 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 200 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

การวางเดิมพันแบบค่อม 2 เลข

การเดิมพันค่อม 2 เลข เป็นการเดิมพันตัวเลข 2 ตัวเลขที่อยู่ติดกัน วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางไว้ที่ตรงกลางระหว่างตัวเลข 2 ตัวเลขที่ต้องการเดิมพัน ตัวอย่างเช่น 1-2 (ในกรอบสีเหลือง) อัตราการจ่ายอยู่ที่ 17 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 1,700 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

การวางเดิมพันแบบค่อม 3 เลข

การเดิมพันค่อม 3 เลข เป็นการเดิมพันตัวเลข 3 ตัวเลขที่อยู่ติดกันในแถวแนวตั้งเท่านั้น วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางไว้ที่ด้านล่างของแถวที่ต้องการเดิมพัน ตัวอย่างเช่น 1-2-3 (ในกรอบสีเหลือง) อัตราการจ่ายอยู่ที่ 11 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 1,100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

การวางเดิมพันแบบค่อม 4 เลข

การเดิมพันค่อม 4 เลข เป็นการเดิมพันตัวเลข 4 ตัวเลขที่อยู่ติดกัน วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางไว้ที่มุมตรงกลางระหว่างตัวเลข 4 ตัวเลขที่อยู่ติดกัน ตัวอย่างเช่น 1-2-4-5 (ในกรอบสีเหลือง) อัตราการจ่ายอยู่ที่ 8 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 800 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

การวางเดิมพันแบบค่อม 6 เลข

การเดิมพันค่อม 6 เลข เป็นการเดิมพันตัวเลข 6 ตัวเลขที่อยู่ติดกันในแถวแนวตั้งเท่านั้น วิธีการวางเดิมพันให้นำชิปไปวางไว้ที่ด้านล่างตรงกลางระหว่างตัวเลข 2 แถวที่อยู่ติดกัน ตัวอย่างเช่น 1-2-3-4-5-6 (ในกรอบสีเหลือง) อัตราการจ่ายอยู่ที่ 5 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินรางวัลเมื่อชนะการเดิมพัน : ลงเดิมพันด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 600 บาท (เป็นจำนวนเงินที่ยังไม่รวมเงินลงเดิมพัน)

 

ต่อไปผมจะยกตัวอย่างการเล่นเกมส์รูเล็ตออนไลน์ โดยผมจะใช้เว็บ Next88 มาเป็นตัวอย่างในการเดิมพันครับ เว็บนี้เป็นเว็บที่ผมนั้นใช้เล่นเองเป็นประจำ มีความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และตัวเว็บไซต์ยังได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานจริงจำนวนมากอีกด้วยครับ

 

ขั้นตอนการเข้าเล่นเดิมพันเกมส์รูเล็ต

หากท่านใดที่สนใจอยากสมัครสมาชิกเข้าเล่นเกมส์รูเล็ตออนไลน์ สามารถศึกษาวิธีการสมัครสมาชิกได้ลิงค์ สมัครสมาชิก Next88 ได้เลย

1. เริ่มแรกให้ท่านเข้าสู่หน้าหลักของทางเว็บไซต์ Next88 หรือ คลิกได้ที่นี่ จากนั้นกรอก ชื่อบัญชีผู้ใช้ และรหัสยืนยัน ของท่าน จากนั้นทำการล็อคอินเข้าสู่ระบบของทางเว็บไซต์โดยกดที่ เข้าสู่ระบบ (กรอบสีแดง) ได้เลยครับ

 

2. หลังจากที่ล็อคอินเข้าสู่ระบบมาแล้ว ท่านจะเห็นหน้าเว็บไซต์เป็นแบบในรูปภาพด้านล่าง เพื่อเป็นการเข้าสู่โหมดเกมส์คาสิโน ต่อไปให้ท่านกดเข้าไปที่เมนู คาสิโนสด (กรอบสีแดง) ตรงแถบเมนูสีน้ำเงินด้านบนครับ

 

3. หลังจากที่ท่านเข้ามายังเมนูคาสิโนสดแล้ว ท่านจะเห็นว่าทางเว็บ Next88 จะมีแบรนด์คาสิโนให้เลือกเล่น 4 แบรนด์ ได้แก่ AE Sexy , GLUB GPI , PLAYTECH LIVE , MicroGaming LIVE ทั้งนี้ท่านสามารถเลือกเล่นแบรนด์ไหนก็ได้ตามความชอบ แต่ในตัวอย่างนี้ผมจะขอเลือกเป็น PLAYTECH LIVE (กรอบสีแดง) ครับ

 

4. เมื่อท่านเข้าสู่แบรนด์ PLAYTECH LIVE แล้ว ให้ท่านเลือกตรงแถบเมนูที่เขียนว่า ROULETTE (กรอบสีแดง) หลังจากที่กดเข้ามาแล้วจะมีห้องเกมส์รูเล็ตให้ท่านเลือกเล่นอย่างมากมาย (กรอบสีเหลือง) ท่านสามารถเลือกห้องเดิมพันใดก็ได้ตามที่ท่านต้องการได้เลยครับ

 

5. เมื่อเลือกห้องเดิมพันแล้ว ท่านจะเหมือนลักษณะของห้องเดิมพันเป็นแบบในรูปภาพด้านล่างนี้เลยครับ สำหรับวิธีขั้นตอนการลงเดิมพันจะมีอยู่ 2 ขั้นตอน ดังนี้

 

5.1 เลือกชิปเพื่อลงเดิมพัน หลังจากที่ท่านเข้าสู่ห้องเดิมพันรูเล็ตแล้ว ในการวางเงินเดิมพันเกมส์รูเล็ตให้ท่านกดเลือกชิป ตามวงเงินที่ท่านต้องการจะเดิมพัน

 

5.2 เลือกตำแหน่งที่ต้องการเดิมพัน หลังจากที่เลือกชิปแล้ว ขั้นตอนต่อไปให้ท่านนำชิปไปวางไว้ที่ตำแหน่งที่ท่านต้องการเดิมพัน โดยเกมส์รูเล็ตท่านสามารถวางเดิมพันได้ทั้งหมด 10 ตำแหน่งด้วยกัน ท่านสามารถเดิมพันในตำแหน่งที่ต้องการได้เลยครับ