เดิมพันแบล็คแจ็ค ยังไงบทความนี้มีคำตอบ

สวัสดีผู้ติดตาม Stakehow ทุกท่านบทความนี้ผมจะมาแนะนำวิธี เดิมพันแบล็คแจ็ค พร้อมอธิบายกติกาการเล่นแบบเข้าใจง่าย เนื้อหาในบทความนี้จะอธิบายตั้งแต่กติกา รูปแบบการวางเดิมพัน ขั้นตอนการเล่น ซึ่งจะอธิบายตั้งแต่ทางเข้าสู่เว็บไซต์ และขั้นตอนการเล่นเดิมพันอย่างละเอียด หากท่านพร้อมแล้วไปดูเนื้อหาด้านในกันได้เลย

 

เดิมพันแบล็คแจ็ค

แบล็คแจ็ค หรือ Black jack เกมเดิมพันยอดนิยม วิธีการเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คให้เป็นฝ่ายชนะ คือไพ่ในมือของตัวผู้เล่นจะต้องมีแต้มรวมกันให้ได้ครบ 21 แต้ม หรือให้ได้แต้มใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากที่สุด แต่หากผู้เล่นมีแต้มเกิน 21 แต้มแล้วจะถือว่าเป็นฝ่ายแพ้ในทันที

ดังนั้นสำหรับการเล่นเดิมพันเกมแบล็คแจ็คจึงไม่ใช่แค่การอาศัยดวงของตัวผู้เล่น ในการเล่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ต้องใช้ประสบการณ์ในการเล่นของตัวผู้เล่นเองเพื่อให้เกิดความชำนาญในการเล่น และสามารถสร้างโอกาสที่จะชนะการเดิมพันใน เกมได้มากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

 

กติกาเกมแบล็คแจ็ค

หลักการในการเล่นเกมไพ่แบล็แคแจ็คง่ายๆ เลยก็คือ หลังจากที่ดีลเลอร์แจกไพ่ให้ครบแล้ว ผู้เล่นทุกคนนั้นสามารถจั่วไพ่ได้ไม่จำกัด จั่วจนกว่าแต้มไพ่ของผู้เล่นจะได้ 21 แต้ม หรือให้ได้แต้มที่พอใจ แต่ถ้าหากแต้มเกิน 21 แต้ม ผู้เล่นก็จะหมดสิทธิ์จั่ว และแพ้เดิมพันทันที

การนับแต้ม

  • A มีค่า 1 หรือท่านสามารถนับเป็น 11 แต้มได้เช่นกัน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในตอนนั้น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณได้รับไพ่ A กับไพ่ 8 จะนับเป็น 9 แต้ม แต่ถ้าหากได้ไพ่ A กับไพ่ J ก็จะนับแต้มเป็น 21 แต้ม
  • 2-9 มีค่าตามหน้าไพ่
  • 10 , J , Q , K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
เดิมพันแบล็คแจ็ค
การนับแต้มแบล็คแจ็ค

 

การประกัน

คือการเดิมพันเพิ่มเติม หากตัวผู้เล่นคาดว่าเจ้ามือจะได้แบล็คแจ็ค ผู้เล่นนั้นสามารถซื้อประกันเพิ่มได้ เมื่อไพ่ใบแรกที่เปิดของเจ้ามือคือไพ่ A สำหรับการประกันจะมีค่าเท่ากับจำนวนเงินเดิมพันเริ่มแรก ยกตัวอย่างเช่น วางเดิมพันไว้ 100 บาท เงินประกัน คือ 100 บาท และจะจ่ายในสัดส่วน 2 ต่อ 1 ถ้าหากเจ้ามือได้แบล็คแจ็ค แต่ถ้าเจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค ก็จะเสียเงินประกันไปครับ

การแยกไพ่

จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้เล่นได้รับไพ่ที่เหมือนกัน 2 ใบ หรือที่เรียกว่าไพ่คู่ โดยจะต้องแยกไพ่ออกเป็น 2 กอง เมื่อแยกเสร็จแล้วเราก็ต้องวางเดิมพันเข้าไปในขาที่แยกออกมา จากนั้นจึงทำการกดจั่ว เพื่อเรียกไพ่เพิ่ม หากได้ไพ่คู่อีก ผู้เล่นก็สามารถแยกไพ่ได้อีกเช่นกันครับ แต่อย่างไรก็ตามกฎพื้นฐานของการแยกก็คือ หากได้ไพ่คู่ AA หลังจากแยกแล้วจะจั่วไพ่เพิ่มได้แค่ครั้งเดียว แต่ถ้าเป็นไพ่คู่ 88 จะสามารถจั่วไพ่ได้ไม่จำกัดครับ

การเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่า

หากดีลเลอร์เปิดไพ่ 2 ใบแรกแล้ว ไม่ได้แบล็คแจ็ค หรือ 21 แต้ม ผู้เล่นจะมีโอกาสที่เรียกไพ่เพิ่มได้ และสามารถเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่าได้เช่นกันครับ เมื่อท่านเลือกวางเดิมพันเป็น 2 เท่าแล้ว ดีลเลอร์จะแจกไพ่ให้ท่านเพียงแค่ 1 ใบเท่านั้น แต่ถ้าหากท่านเลือกที่จะจั่วไพ่เพิ่ม ก็สามารถเพิ่มไพ่ได้ตามที่ท่านนั้นต้องการ และหากเลือกที่จะหยุดจั่ว ท่านจะไม่ได้ไพ่เพิ่มเลยนั่นเองครับ

 

รู้คำศัพท์ที่ใช้ภายในเกม ก่อนเริ่มเล่นจริง

ถ้าคุณเล่นเกมแบล็คแจ็คกับเว็บคาสิโนออนไลน์ คุณต้องรู้คำศัพท์เหล่านี้ว่ามีความหมายอย่างไร เพราะคำศัพท์เหล่านี้ถือว่าเป็นศัพท์สากลที่ถูกใช้ภายในคาสิโน เมื่อคำศัพท์เหล่านี้เกิดขึ้นผู้เล่นจะรู้ได้ทันทีว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์ใด ดังนั้นจะอธิบายคำศัพท์ที่ใช้ภายในเกมไพ่แบล็คแจ็คอย่างละเอียดเพื่อให้ผู้เล่นทุกท่านเข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ

การจั่วไพ่เพิ่ม (Hit)

ในการเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็ค หากผู้เล่นกดปุ่ม Hit (ปุ่มจั่วไพ่เพิ่ม) จะทำให้ผู้เล่นนั้นได้รับไพ่เพิ่มมาอีก 1 ใบ เพื่อเป็นการเพิ่มแต้มในมือของผู้เล่นให้ใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากขึ้นกว่าเดิม ในกรณีไพ่ของผู้เล่นมีแต้มน้อยกว่า 21 แต้ม ผู้เล่นสามารถที่จะเพิ่มไพ่ได้

แต่ไพ่ในส่วนของเจ้ามือ จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างออกไป ในกรณีที่ไพ่ทั้ง 2 ใบของเจ้ามือเท่ากับ 16 แต้มหรือต่ำกว่า 16 แต้ม เจ้ามือจำเป็นต้องจั่วไพ่ แต่ถ้าหากไพ่ของเจ้ามือเท่ากับ 17 แต้ม หรือมากกว่า 17 แต้ม เจ้ามือ จะไม่สามารถจั่วไพ่ได้อีกครับ

การพัก หรือการขอหยุดไพ่ (Stand)

การพัก หรือการขอหยุดไพ่ เพราะผู้เล่นนั้นได้แต้มที่น่าพอใจแล้ว หรือผู้เล่นได้แต้มครบ 21 แล้วนั่นเองครับ

การเพิ่มวงเงินเดิมพัน (Double Down)

เป็นรูปแบบของการเพิ่มวงเงินเดิมพันให้มากขึ้น โดยจะเป็นการวางเดิมพันหลังจากการแจกไพ่จนครบ 2 ใบรอบวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้ามั่นใจว่าไพ่มีคะแนนที่ดี สามารถชนะเจ้ามือได้ ก็จะเพิ่มวงเงินเดิมพันให้สูงขึ้นได้ โดยการเพิ่มวงเงินเดิมพันนั้นสามารถเพิ่มได้สูงถึง 2 เท่าของยอดเงินที่ลงในครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งหลังจากกด Double Down แล้วดีลเลอร์จะแจกไพ่เพิ่มให้อีกเพียง 1 ใบเท่านั้นครับ

การแยกไพ่ (Split)

คือการขอเจ้ามือแยกไพ่ออกเป็น 2 ขา ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากกรณีที่ไพ่ 2 ใบแรกมีแต้มเท่ากัน แต่ถ้าคุณมีแต้มอื่นที่ไม่ใช่แต้มเท่ากันแต่ต้องการจะ Split หรือแยกให้ออกเป็น 2 ขา ก็สามารถทำได้เช่นกัน เมื่อแยกไพ่ออกแล้วจะกลายมาเป็นไพ่ 2 ชุดที่คุณสามารถเรียกไพ่ได้อย่างไม่อั้นจนกว่าจะครบ 21 แต้ม หรือได้แต้มที่ใกล้เคียงกับแต้ม 21 ทั้ง 2 ชุด ได้เช่นกัน

การหมอบ (Surrender)

เมื่อใดที่ผู้เล่นรู้สึกว่าไพ่ในมือของคุณอาจจะแพ้ให้กับทางเจ้ามือ หรือเป็นไพ่ที่แต้มเกินไปกว่า 21 แล้ว และไม่มีทางที่จะชนะการเดิมพันได้ คุณสามารถทำหมอบได้ทันที เพื่อเป็นการทำให้คนทั้งวงรู้ว่าคุณยอมแพ้แล้วนั่นเองครับ

การประกันเงินเดิมพัน (Insurance)

คือรูปแบบของการประกันเงินเดิมพันไม่ให้สูญเสียไปทั้งหมด มักจะเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้เล่นรู้สึกว่าทางฝ่ายเจ้ามือน่าจะมีโอกาสแบล็คแจ็คได้มากกว่า เพราะการเล่นแบล็คแจ็คส่วนใหญ่แล้วเจ้ามือมักจะเป็นผู้ที่ต้องเปิดไพ่ 1 ใบเพื่อลุ้นผล การเปิดไพ่นี้จะต้องเปิดให้คนทั้งโต๊ะได้เห็น

ซึ่งถ้าเปิดออกมาเป็นไพ่ที่จะทำให้ได้ลุ้นว่าอาจจะได้ 21 แต้ม ผู้เล่นสามารถทำการ Insurance หรือซื้อประกันภัยแบล็คแจ็คได้ทันที เมื่อประกันแล้วถ้าทางฝ่ายของเจ้ามือเกิดแบล็คแจ็คขึ้นมาจริง คุณจะได้เงินคืนแบบเต็มจำนวนที่ประกันไว้ แต่ถ้าเจ้ามือไม่แบล็คแจ็คคุณก็จะเสียเงินเดิมพันนั้นไปทั้งหมด

 

แนะนำเว็บคาสิโนออนไลน์ เพื่อเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์

แบล็คแจ็คเป็นเกมคาสิโนออนไลน์ที่หลายคนนิยมเล่นเป็นอย่างมากทำให้เว็บคาสิโนออนไลน์ต่างๆ ได้นำเกมนี้เข้ามาให้บริการ แต่สำหรับท่านใดที่ยังไม่ทราบว่าจะเลือกเล่นเกมรูเล็ตออนไลน์กับเว็บไซต์ไหนดี วันนี้ผมได้ทำการคัดเลือกมา 5 เว็บไซต์ที่น่าสนใจ มีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือมาให้ท่านได้เลือกสมัครสมาชิกเล่น

สำหรับตัวอย่างในการเข้าเล่นเกมแบล็คแจ็ค ผมจะใช้เว็บไซต์ ALPHA88 มาเป็นตัวอย่าง หากท่านใดที่สนใจอยากลองสมัครสมาชิกเล่นกับเว็บ ALPHA88 สามารถทำตามขั้นตอนในลิงค์นี้ได้เลยครับ สมัครสมาชิก ALPHA88

 

วิธี เดิมพันแบล็คแจ็ค กับเว็บ ALPHA88

1. ขั้นตอนแรกให้ท่านกดเพื่อล็อคอิน โดยคลิก เข้าสู่ระบบ (กรอบสีเขียว) ตรงบริเวณมุมขวาบนครับ

หน้าแรกเว็บไซต์ – ALPHA88

 

2. หลังจากที่ท่านได้ทำการสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถล็อคอินเข้าสู่ระบบได้เลยครับ โดยกรอก ชื่อบัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่าน จากนั้นกด เข้าสู่ระบบ (กรอบสีเขียว) ได้เลย

เดิมพันแบล็คแจ็ค
ล็อคอินเข้าสู่ระบบ

 

3. เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านกดเข้าไปที่คำว่า คาสิโน (กรอบสีเขียว) ตรงแถบสีส้มด้านบน ท่านจะสังเกตเห็นว่ามี 4 แบรนด์ให้ท่านเลือกเล่น คือ PT คาสิโน , GPI คาสิโน , SEXY BACCARAT และ MGS คาสิโน ท่านสามารถเลือกเล่นแบรนด์คาสิโนออนไลน์แบรนด์ไหนก็ได้ตามที่ท่านต้องการ แต่ในบทความนี้ผมจะใช้คาสิโน แบรนด์ PT คาสิโน (กรอบสีเหลือง)

 

4.เมื่อท่านเข้าสู่หน้าแบรนด์ PT คาสิโนแล้ว ท่านจะเจอเกมคาสิโนออนไลน์ต่างๆ มากมาย ให้ท่านทำการเลือก BLACKJACK (กรอบสีเขียว) หลังจากนั้นจะมีห้องแบล็คแจ็คออนไลน์มากมาย ท่านสามารถเลือกเข้าเล่นห้องไหนก็ได้ตามที่ท่านสนใจ แค่นี้ท่านก็สามารถเดิมพันกับทางเว็บได้แล้วครับ

เดิมพันแบล็คแจ็ค

ในส่วนของเกมแบล็คแจ็คก็มีให้เล่นหลายห้อง ในแต่ละห้องก็จะมีขั้นต่ำที่แตกต่างกัน ให้ท่านเลือกเล่นที่จำนวนเงินที่เหมาะกับท่านนะครับ

 

รูปแบบการวาง เดิมพันแบล็คแจ็ค

สำหรับการวางเดิมพันของเกมไพ่แบล็คแจ็คนั้น ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะทำการวางเดิมพันได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งผมจะมาอธิบายการเดิมพันแต่ละรูปแบบอย่างละเอียดให้คุณนั้นเข้าใจมากยิ่งขึ้น

การวางเดิมพันแบบ Perfect Pair

เป็นรูปแบบการวางเดิมพันที่ทำให้ผู้เล่นนั้น มีโอกาสชนะเพียงแค่ใช้ไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น โดยที่ไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นจะต้องเป็นไพ่คู่ ยกตัวอย่างเช่น ไพ่ 4-4 , ไพ่ 5-5 , ไพ่ 6-6 หรือไพ่ 8-8 เป็นต้น

การวางเดิมพันแบบ 21+3

เป็นการที่ไพ่ในมือของท่านนั้นมีโอกาสที่จะเกิดการตองเหมือน , สเตรทฟลัช , ตอง , สเตรท หรือฟลัช และหากคุณสามารถที่จะชนะในรูปแบบที่พูดมานี้ได้ คุณจะได้รับอัตราการจ่ายที่เยอะมาก

  • ตองเหมือน คือการที่มีไพ่ 3 ใบเหมือนกัน และดอกไพ่ต้องเหมือนกันทั้งหมดทุกใบ ยกตัวอย่างเช่น ได้ไพ่ 2 ข้าวหลามตัด ทั้ง 3 ใบ
  • สเตรทฟลัช คือการเรียงกันตามลำดับ และมีไพ่ดอกเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น 2 , 3 , 4 ข้าวหลามตัด เป็นต้น
  • ตอง คือการที่มีไพ่ 3 ใบนั้นเหมือนกัน แต่สามารถมีสี และดอกที่ต่างกันได้ ยกตัวอย่างเช่น 5 โพดำ , 5 ดอกจิก และ 5 ข้าวหลามตัด ซึ่งไพ่ทั้ง 3 ใบนั้นมีสีต่างกัน และดอกต่างกันนั่นเองครับ
  • สเตรท คือไพ่ในมือนั้นเรียงกันตามลำดับ แต่สามารถมีสี และดอกของไพ่แตกต่างกันได้ ยกตัวอย่างเช่น 3 โพแดง , 4 ดอกจิก , 5 โพดำ เป็นต้น
  • ฟลัช คือการที่ไพ่ในมือนั้นมีดอกเดียวกันทั้งสามใบ ยกตัวอย่างเช่น 10 โพแดง , 5 โพแดง , 9 โพแดง

การวางเดิมพันแบบ Bet Behind

เป็นการเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่น นั่นก็คือ คุณนั้นจะสามารถอ้างอิงการชนะจากไพ่ของผู้เล่นคนอื่นได้ แต่คุณสามารถกำหนดเงินเดิมพันได้เอง และไม่สามารถบอกให้ผู้เล่นนั้นจั่วไพ่เพิ่ม หรือหยุดเรียกไพ่เพิ่มได้ นั้นก็คือ หากคุณได้วางเดิมพันตามใครแล้ว คุณจะไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลย นอกจากการวางเดิมพันนั่นเองครับ