เล่นแบล็คแจ็ค เกมไพ่วัดใจ เกมไพ่สุดฮิตในเว็บคาสิโนออนไลน์

สวัสดีครับทุกๆ ท่านที่ติดตาม Stakehow วันนี้ผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับวิธีการ เล่นแบล็คแจ็ค สำหรับท่านใดที่ยังไม่ทราบลักษณะของการเล่นเกม กฎกติกา และรูปแบบของการลงเดิมพันต่างๆ วันนี้ผมมีคำตอบมาให้ทุกท่านได้ศึกษากันอย่างละเอียด เนื้อหาจะมีอะไรบ้างนั้นเชิญอ่านได้ที่ด้านล่างนี้เลยครับ

 

เกมแบล็คแจ็ค คืออะไร

แบล็คแจ็ค (Blackjack) เป็นอีกหนึ่งเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาสิโนออนไลน์ ไม่แพ้กับการเล่นเกมไพ่บาคาร่า , ไพ่เสือมังกร เพราะว่ามันเป็นเกมที่มีการรวมกันเล่นทีละหลายๆ คน และสนุก การเล่นก็จะมีความเข้าใจง่าย เพียงคุณนั้นมีแต้มไพ่ในมือใกล้เคียงกับ 21 แต้ม ก็จะเป็นฝ่ายชนะ หรือหากไพ่สองใบแรกในมือได้แต้มเท่ากับ 21 แต้มก็จะถือว่าเป็นแต้มที่สูงสุด ทำให้ได้รับอัตราการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

กติกา และวิธีการ เล่นแบล็คแจ็ค

เกมแบล็คแจ็คเป็นเกมการแข่งขันระหว่างผู้เล่นกับเจ้ามือ เพราะฉะนั้นแต้มของผู้เล่นคนอื่นบนโต๊ะ จะไม่ส่งผลอะไรต่อไพ่ของคุณ โดยเกมแบล็คแจ็คจะเริ่มต้นโดยการที่ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับไพ่คนละ 2 ใบตามลำดับที่ลงเล่น เมื่อทางเว็บแจกไพ่ครบ ทุกคนสามารถจั่วไพ่ได้ไม่จำกัด จนกว่าแต้มของคุณจะใกล้เคียง 21 หรือได้แต้มที่พอใจ แต่ถ้าหากว่าแต้มเกิน 21 แต้มแล้ว จะถือว่าแพ้เดิมพันทันที

หลายๆ ท่านอาจจะยังเล่นแบล็คแจ็คไม่เป็น วันนี้เรามาสอนวิธีการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค ตั้งแต่การนับแต้ม กติกาการเล่นต่างๆ และรูปแบบการเดิมพัน เพราะสำหรับนักพนันมือใหม่ นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะรู้ก่อนลงสนามเล่นจริงครับ

 

การนับแต้มไพ่แบล็คแจ็ค

การนับแต้มของไพ่แบล็คแจ็คนั้นก็จะคล้ายๆ กับการนับแต้มไพ่ในเกมคาสิโนเกมอื่นๆ แต่จะมีความแตกต่างกันแค่ไม่กี่อย่าง ดังนี้

หน้าไพ่ 2 – 10 มีแต้มตามหน้าไพ่ ตัวอย่างเช่น ไพ่ 2 มีค่า 2 แต้ม ไพ่ 3 มีค่า 3 แต้ม เป็นต้น

หน้าไพ่ J – Q – K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม

และหน้าไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11 แต้ม ตามสถานการณ์ของไพ่ที่ได้รับ ตัวอย่างเช่น หากคุณได้รับไพ่ A กับไพ่ Q จะนับเป็น 21 แต้ม แต่ถ้าหากได้ไพ่ A กับไพ่ 5 ก็จะนับแต้มเป็น 6 แต้ม เป็นต้น

ตัวอย่างการนับแต้ม

  • เมื่อได้ไพ่ K , A เท่ากับว่านับแต้มได้ 21 แต้ม
  • หรือหากได้ไพ่ 4 , 5 , 9 เท่ากับว่า มีแต้มทั้งหมด 18 แต้ม

หลักในการจั่วไพ่จะไม่นิยมจั่วให้ใกล้เคียง 21 แต้ม ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเรียกจั่วไพ่แล้วได้ 17 – 18 แต้ม คุณสามารถหยุดได้เพราะยังมีโอกาสชนะได้มากกว่าที่จะเสี่ยงในการจั่วเพื่อให้ลุ้นได้ 21 แต้ม

เล่นแบล็คแจ็ค

การประกัน

เมื่อดีลเลอร์หงายไพ่ใบแรกคือไพ่ A เกมจะมีระบบประกันขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นสิ่งประกันความเสี่ยง เพราะถ้าหากเจ้ามือนั้นมีแต้ม 21 แต้ม หรือแบล็คแจ็ค เงินรางวัลของการประกัน ก็เท่ากับครึ่งหนึ่งของเงินที่คุณนั้นได้วางเดิมพันเอาไว้ หากเปิดไพ่ขึ้นมาแล้ว เจ้ามือไม่ได้แต้ม 21 หรือแบล็คแจ็ค เกมก็จะดำเนินต่อไป หากแต้มเสมอกัน คุณก็จะสามารถรับเงินของคุณคืนได้นั่นเอง

 

การเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่า

หากเจ้ามือเปิดไพ่สองใบแรกแล้ว เจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค คุณจะสามารถเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่าได้ เมื่อคิดว่าไพ่ในมือของคุณมีโอกาสชนะเจ้ามือ ทั้งนี้คุณจะใช้ตัวเลือกนี้ได้หลังจากได้รับไพ่สองใบเท่านั้น  และเมื่อคุณเลือกวางเดิมพันเป็นสองเท่าแล้ว ดีลเลอร์จะแจกไพ่ให้คุณเพิ่มอีกเพียงแค่ 1 ใบ คุณจะไม่สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้อีกครับ

 

การแยกไพ่

หากไพ่ในมือของคุณมีค่าเท่ากันในสองใบแรก ยกตัวอย่างเช่น คุณได้ไพ่ 2 – 2 หรือ 4 – 4 หรือ A – A คุณจะสามารถเลือกแยกไพ่ออกเป็นสองมือได้ โดยเงินวางเดิมพัน จะต้องเท่ากับเงินเดิมพันหลักของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณวางเดิมพัน 100 บาท เมื่อแยกไพ่แล้ว คุณจะต้องวางเดิมพันขาละ 100 บาทเท่ากันนั่นเอง และเมื่อแยกไพ่แล้ว คุณก็จะสามารถเล่นได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการจั่วไพ่ การหยุดจั่ว และแบบต่างๆ

 

รูปแบบของการเดิมพันแบล็คแจ็ค

การวางเดิมพันของไพ่แบล็คแจ็คนั้น คุณสามารถเลือกที่จะทำการวางเดิมพันได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น 21+3 , Perfect Pair หรือ Bet Behind ซึ่งผมจะมาอธิบายการเดิมพันอย่างละเอียด เพื่อที่จะทำให้คุณนั้นรู้จักกับรูปแบบของการเดิมพันมากขึ้น ดังนี้

วางเดิมพัน Perfect Pair

คือการแทงไพ่คู่แรก ตัวอย่างเช่น ไพ่ 2–2 , 3–3 , J-J โดยสีจะต้องเหมือนกัน อาจจะเป็น 2 โพแดง 2 ข้าวหลามตัด อัตราการจ่ายก็จะขึ้นกับเว็บแต่ละเว็บว่ามีอัตราการจ่ายเท่าไหร่

 

วางเดิมพัน 21+3

คือการที่ไพ่ในมือของคุณนั้นมีโอกาสที่จะเกิดการตองเหมือน , สเตรทฟลัช , ตอง , สเตรท , ฟลัช และหากคุณนั้นชนะในรูปแบบที่พูดมานี้ก็จะมีอัตราการจ่ายที่เยอะมาก

  • ตองเหมือน คือการที่มีไพ่สามใบเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น A โพดำสามใบ
  • สเตรทฟลัช คือการเรียงกันตามลำดับ และมีไพ่ดอกเดียวกันเช่น 10 โพแดง , J โพแดง , Q โพแดง เป็นต้น
  • ตอง คือการที่มีไพ่สามใบนั้นเหมือนกัน แต่สามารถมีสี และดอกที่ต่างกันได้ ตัวอย่างเช่น 3 โพดำ , 3 ข้าวหลามตัด , 3 โพแดง
  • สเตรท คือไพ่ในมือนั้นเรียงกันตามลำดับ แต่สามารถมีสี และดอกของไพ่นั้นแตกต่างกันได้ ตัวอย่างเช่น 2 โพแดง , 3 ดอกจิก , 4 โพดำ
  • ฟลัช คือการที่ไพ่ในมือนั้นมีดอกเดียวกันสามใบ ตัวอย่างเช่น 2 โพแดง , 5 โพแดง , 8 โพแดง

 

วางเดิมพัน Bet Behind

คือการเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่น โดยที่คุณนั้นจะสามารถอ้างอิงการชนะจากไพ่ของผู้เล่นคนอื่นได้ แต่คุณจะสามารถกำหนดเงินเดิมพันได้เอง และไม่สามารถบอกให้เขานั้นจั่วไพ่เพิ่ม หรือหยุดเรียกไพ่เพิ่มได้ นั่นก็คือ หากคุณนั้นวางเดิมพันตามใครแล้ว คุณจะไม่มีสิทธิ์ทำอะไร นอกจากวางเดิมพันนั่นเอง

 

กติกาในการเล่นแบล็คแจ็ค บนเว็บคาสิโนออนไลน์

โดยทั่วไปแล้วกติกาในการเล่นแบล็คแจ็คจะใช้พื้นฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นตามบ่อนคาสิโน วงไพ่ในบ้าน หรือว่าเว็บคาสิโนออนไลน์ เพียงแต่อย่างหลังอาจมีการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วแต่เจ้ามือ ดังนั้นก่อนเล่นผู้เล่นควรจะศึกษากติกาตรงนี้ให้ดีให้เข้าใจก่อน จะได้ไม่ต้องมาโวยวายกันทีหลังว่าโดนเจ้ามือโกง สำหรับกติกาพื้นฐานที่ใช้กันเป็นมาตรฐานสากล มีดังนี้

  • ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องจั่วไพ่เพิ่มแล้วรวมแต้มไพ่ในมือให้ได้ใกล้เคียง หรือเท่ากับ 21 แต้มให้มากที่สุด
  • หากผู้เล่นจั่วไพ่แล้วรวมแต้มออกมาเกิน 21 แต้ม จะถือว่าแพ้ในเกมนั้นทันที โดยจะไม่สนใจว่าเจ้ามือจะมีแต้มมากน้อยแค่ไหน เพราะกฎเหล็กของเกมนี้คือ อย่าให้เกิน 21 แต้ม
  • ในกรณีที่เจ้ามือรวมแต้มไพ่แล้วได้น้อยกว่า 17 แต้ม จะถูกบังคับให้จั่วไพ่เพิ่มเรื่อย ๆ และจะหยุดจั่วได้ก็ต่อเมื่อแต้มรวมของไพ่อยู่ระหว่าง 17 – 21 แต้มเท่านั้น
  • ฝั่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะจั่วไพ่หรือไม่ก็ได้ และไม่จำกัดจำนวนครั้งในการจั่ว และไม่สนใจด้วยว่าในมือผู้เล่นจะรวมไพ่แล้วได้กี่แต้ม
  • หากผู้เล่นไม่ทำการจั่วไพ่ในเวลาที่กำหนด ระบบจะถือว่าเรา อยู่ โดยอัตโนมัติ

 

เทคนิคพื้นฐานที่ต้องรู้ในการ เล่นแบล็คแจ็ค

แม้ว่าแบล็คแจ็ค จะเป็นเกมไพ่ที่แทบจะไม่ต้องใช้ดวง และเน้นไปที่ทักษะฝีมือ และประสบการณ์ของผู้เล่นเป็นหลัก ถึงอย่างนั้นสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการ ก็สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ในการเล่นได้เช่นกันครับ

1.  เมื่อใดก็ตามที่ไพ่ใบแรกของเจ้ามือออก A เราควรจะรีบเดิมพันประกันไพ่ทุกครั้ง เพราะจากสถิติแล้วมีโอกาสที่เจ้ามือจะติดไพ่แบล็คแจ็คสูงมาก เราเลยต้องทำประกันไว้เพื่อให้ได้เงินคืน แม้ว่าจะมีบางครั้งที่เจ้ามือไม่ติดแบล็คแจ็ค และเราต้องเสียเงินเปล่าก็ตาม

2. ในกรณีที่ได้ไพ่คู่สูงอย่าง A-A , K-K , Q-Q , J-J , 10-10 และ 8-8 ถ้าคาสิโนออนไลน์ เปิดให้เราแยกไพ่ได้ทุกคู่ก็จัดเลย เพื่อเพิ่มโอกาสชนะ แต่สำหรับบางเว็บอาจจำกัดให้แยกได้แค่คู่ AA กับ 88 ถึงอย่างนั้นมันก็ยังควรแยกอยู่ดี ที่สำคัญอย่าลืมดูเงินในกระเป๋าด้วย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นดวงซวย เพราะโดนบังคับให้หมอบเพียงแค่เงินไม่พอให้เล่นสองขา

3. การจั่วไพ่ควรทำด้วยความระมัดระวัง ควรดูด้วยว่าแต้มรวมของไพ่ในมือเราอยู่ประมาณไหน หากรวมแล้วได้ไม่เกิน 11 แต้มก็น่าจั่วเพิ่มอยู่ แต่ถ้าได้สัก 12 หรือ 13 การอยู่จะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะถ้าจั่วเพิ่มมันก็มีความเสี่ยงที่แต้มรวมจะทะลุ 21 แต้ม แทนที่จะชนะก็กลายเป็นแพ้เฉยเลย จำไว้ว่าตราบใดที่เจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค เราก็ยังมีโอกาสชนะเสมอ

 

ทิ้งท้ายการอธิบายวิธี เล่นแบล็คแจ็ค

จบลงไปแล้วนะครับสำหรับการอธิบายความหมาย และวิธีการ เล่นแบล็คแจ็ค สำหรับมือใหม่ผมแนะนำให้ค่อยๆ ศึกษาขั้นตอน และวิธีการเล่นกันไปก่อน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไม่ช้าไม่นาน คุณก็จะเป็นเซียนที่เล่นไพ่แบล็คแจ็ค แล้วได้กำไรงามอย่างแน่นอนครับ

หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ หรือ บทความก่อนๆ จากทางเว็บเรา และท่านเกิดความประทับใจในตัวเว็บ Stakehow ผมแนะนำให้ท่านกดเพิ่มไลน์ของเราได้ที่ Line Stakehow เพื่อที่ท่านจะได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และ รับข่าวสารใหม่ ๆ จากทางเรา อีกหนึ่งช่องทางคือการกด กระดิ่งสีแดง ที่อยู่ด้านล่างขวาของหน้าจอ เมื่อกดแล้วท่านก็จะไม่พลาดการแจ้งเตือนข่าวสารใหม่ๆ ครับ สำหรับบทความนี้ก็จบลงแล้ว สวัสดีครับ