ไฮโลพื้นบ้าน เล่นยังไง ศึกษาวิธีเล่นง่ายๆ ได้ที่นี่

สวัสดีค่ะ ผู้ติดตาม Stakehow ทุกท่าน หากพูดถึงเกมการพนันไฮโลแล้ว ท่านรู้ไหมว่า เกมพนันนี้ มีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน และวิธีการเล่น ไฮโลพื้นบ้าน ในประเทศไทยเราเป็นยังไง วันนี้ แอดจะพาทุกท่าน ไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน จะมีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปดูกันเลย

 

ไฮโล คืออะไร

สำหรับเกมพนันไฮโล เป็นการพนันประเภทหนึ่ง ที่มีจุดกำเนิด โดยคนก่อสร้างประเทศจีน ได้นำอิฐที่ใช้ก่อสร้างมาทำเป็นอุปกรณ์ในการเล่น คือ จะเขียนเลข 1-6 ไว้บนอิฐครบทั้งหมด 6 ด้าน จากนั้น ก็จะนำอิฐนี้ มาโยน ถ้าด้านที่หงายออกเลขตัวไหน ก็จะเป็นผลรางวัลค่ะ

ต่อมา เกมไฮโลนี้ ก็ได้มีชื่อเรียกภาษาจีนว่า ” ซิกโบ”  ซึ่งวิธีเล่นนั้น ก็ได้มีการพัฒนาเปลี่ยนไป ตามยุคกาลเวลา โดยมีการนำลูกเต๋าเข้ามาในแทนก้อนอิฐ เพราะ ทำให้รู้สึกว่า เล่นง่ายขึ้นและไม่หนักเหมือนก้อนอิฐ นั่นเอง

ซึ่งความนิยมในการเล่นไฮโล ก็ได้ขยายออกไปทั่วทุกมุมโลก รวมถึงประเทศเกาหลี และฟิลิปปินส์ โดยประเทศเหล่านี้ ได้มีการตั้งชื่อใหม่ จากซิกโบเป็น “ไฮโล” ค่ะ และสำหรับประเทศไทยเรานั้น ก็ได้มีการเล่นไฮโลด้วย เช่นกัน โดยอดีตนั้น เขาจะเรียกกันว่าไฮโลพื้นบ้าน ซึ่งจะมีอุปกรณ์การเล่นเป็นยังไง เราไปดูในหัวข้อถัดไป พร้อมๆ กันเลย

 

อุปกรณ์การเล่นไฮโลพื้นบ้านมีอะไรบ้าง

การพนัน ไฮโลพื้นบ้าน เป็นการพนันประเภทหนึ่ง ที่คนไทยส่วนใหญ่ในอดีตนิยมเล่นกันมาก ซึ่งอุปกรณ์การเล่นนั้น ก็จะมีดังนี้ (ลูกเต๋า 3 ลูก), (แผ่นยางสำหรับวางเงินเดิมพัน 1 แผน), (จานรองลูกเต๋า หรือ ลูกไฮโล) และ (ฝาครอบ หรือ ฝากระติ๊บ 1 ใบ) ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเป็นอุปกรณ์ในการออกผลรางวัล นั่นเอง ดังนั้น เรามาดูกันว่า แต่ละอุปกรณ์ จะมีส่วนสำคัญยังไงบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มที่ชิ้นแรกกันเลยค่ะ

1.ลูกเต๋า

จะใช้ลูกเต๋า 3 ลูก ที่มีสัญลักษณ์ จุดสีดำ(●) หรือแดง(●)อยู่บนหน้าของลูกเต๋าแต่ละด้าน ซึ่งมีทั้งหมด 6 ด้าน เป็นตัวออกผลรางวัล และ จุดแต่ละด้านนั้น มีการนับแต้มแตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ

 

2. แผ่นยาง

ในการเล่น จะมีแผนยางที่มีสัญลักษณ์เช่นเดียวกันกับสัญลักษณ์ที่อยู่บนหน้าลูกเต๋า ซึ่งแผ่นยางนี้จะมีไว้เพื่อให้วางเงินเดิมพันลงไปในช่องสัญลักษณ์ที่ต้องการจะเดิมพัน

 

3. จานรองลูกเต๋า

มีจานสำหรับรองลูกเต๋า หรือ ลูกไฮโล เพื่อทำการออกผลรางวัล โดยท่านสามารถทำความเข้าใจได้จากรูปภาพด้านล่างนี้เลยนะคะ

 

4. ฝาครอบ หรือ ฝากระติ๊บ

สำหรับฝาครอบ หรือ ฝากระติ๊บ มีไว้เพื่อครอบลูกเต๋าในขณะที่กำลังเขย่า และให้ผู้เล่นทายผลรางวัลว่า ในฝากระติ๊บนั้น ผลรางวัลคืออะไร นั่นเอง

เมื่อทุกท่านรู้แล้วว่า อุปกรณ์แต่ละชนิดนั้น มีความสำคัญยังไง ต่อไปเราไปศึกษาวิธีเล่นกันเลย

 

ไฮโลพื้นบ้าน เล่นยังไง

สำหรับวิธีการเล่นไฮโลพื้นบ้านนั้น ก็จะมีรูปแบบการเล่นอยู่ทั้งหมด 7 รูปแบบ ซึ่งในแต่ละแบบจะมี อัตราจ่ายที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ แอดจะยกตัวอย่างวิธีเล่นในแต่ละรูปแบบให้ท่านดู โดยมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

1. รูปแบบการแทงต่ำ – สูง

สำหรับการแทงต่ำ-สูง เป็นการแทงแต้มรวมของสัญลักษณ์ของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก ว่าจะออกผลรางวัลเป็นแต้ม ต่ำหรือสูงนั่นเอง ซึ่งการนับแต้มนั้น จะแยกออกเป็นดังนี้ค่ะ ต่ำคือ 4-10 แต้ม สูงคือ 11-17 แต้ม ซึ่งรูปแบบการเดิมพันแบบนี้ จะมีอัตราจ่ายเท่ากับ 1 : 1

ตัวอย่างเช่น

ท่านเดิมพัน แทง ต่ำไปจำนวนเงิน 10 บาท ผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็น สัญลักษณ์ตามรูปภาพด้านล่างนี้ นับแต้มแล้ว เท่ากับ 9 แต้ม แสดงว่าท่านถูกรางวัล และจะได้เงินรางวัลทั้งหมดเท่ากับ 20 บาท (ซึ่งรวมทุนแล้ว 10 บาท)

 

2. รูปแบบการแทงเต็ง (เจาะจงแต้ม หรือ เจาจงสัญลักษณ์)

สำหรับการแทงเต็ง คือ การเดิมพันแบบเจาะจงแต้มหรือเจาะจงสัญลักษณ์ เช่น ทายผลการออกรางวัลของลูกเต๋า 1 ใน 3 ลูก ว่าจะออกแต้มอะไร ซึ่งรูปแบบการเดิมพันแบบนี้ จะมีอัตราจ่ายเท่ากับ 1 :1

ตัวอย่างเช่น

กรณีหนึ่งเท่า คือ เมื่อท่านเดิมพัน แทงแต้ม 3 จำนวนเงิน 10 บาท ผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็น สัญลักษณ์ตามตัวอย่างในรูปภาพด้านล่าง แสดงว่าท่านถูกรางวัลแทงเต็ง และจะได้เงินรางวัลทั้งหมดเท่ากับ 20 บาท (ซึ่งรวมทุนแล้ว 10 บาท)

กรณีสองเท่า คือ เมื่อท่านเดิมพัน แทงแต้ม จำนวนเงิน 10 บาท ผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็น สัญลักษณ์ตามรูปภาพด้านล่างนี้ แสดงว่าท่านถูกรางวัลแทงเต็ง  และจะได้เงินรางวัลทั้งหมดเป็น 2 เท่า คือ ได้เงินทั้งหมด 30 บาท (ซึ่งรวมทุนแล้ว 10 บาท)

กรณีสามเท่า คือ เมื่อท่านเดิมพัน แทงแต้ม จำนวนเงิน 10 บาท ผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็น สัญลักษณ์ตามรูปภาพด้านล่าง แสดงว่าท่านถูกรางวัลแทงเต็ง และจะได้เงินรางวัลทั้งหมด เป็น 3 เท่า คือ ได้เงินทั้งหมด 40 บาท (ซึ่งรวมทุนแล้ว 10 บาท)

 

3. รูปแบบการแทงโต๊ด

สำหรับรูปแบบการแทงโต๊ด คือ การเดิมพัน ให้ลูกเต๋า 2 ใน 3 ลูก ออกผลรางวัลเป็นคู่ที่เราเลือกไว้ ซึ่งรูปแบบการเดิมพันแบบนี้ มีอัตราจ่ายเท่ากับ 1 : 5

ตัวอย่างเช่น

เมื่อท่านเดิมพัน แทงโต๊ด  3, 4 จำนวนเงิน 10 บาท ผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็น สัญลักษณ์ตามรูปภาพด้านล่างนี้ แสดงว่าท่านถูกรางวัลแทงโต๊ด และจะได้เงินรางวัลทั้งหมดเท่ากับ 60 บาท (ซึ่งรวมทุนแล้ว 10 บาท)

 

4. รูปแบบการแทงโต๊ด (เจาะจงแต้ม หรือ เจาะจงสัญลักษณ์ 3 รูป)

สำหรับรูปแบบการแทงโต๊ดเจาะจงแต้มลูกเต๋าทั้งสามลูก คือ การเดิมพัน ให้ลูกเต๋า ทั้ง 3 ลูก ออกผลรางวัลตามที่เลือกไว้ ซึ่งรูปแบบการเดิมพันแบบนี้ มีอัตราจ่ายเท่ากับ 1 : 15

ตัวอย่างเช่น

เมื่อท่านเดิมพัน แทงโต๊ด  1, 2, 3 จำนวนเงิน 10 บาท ผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็น สัญลักษณ์ ตามรูปภาพด้านล่างนี้ แสดงว่าท่านถูกรางวัลแทงโต๊ดเจาะจงแต้มลูกเต๋า 3 ลูก และจะได้เงินรางวัลทั้งหมดเท่ากับ 160 บาท (ซึ่งรวมทุนแล้ว 10 บาท)

 

5. รูปแบบแทง 5 ต่ำ

รูปแบบการแทง 5 ต่ำ คือ การเดิมพัน ให้ลูกเต๋า 1 ใน 3 ลูกนั้น ออกผลรางวัลเป็นสัญลักษณ์
5 แต้ม 1 ลูก ส่วนผลของลูกเต๋าที่เหลืออีก 2 ลูก จะต้องมีแต้มรวมกันไม่เกิน 5 เพราะว่า หากเอาลูกเต๋า ที่เหลือทั้ง 2 ลูกนี้ ไปรวมกับลูกเต๋าที่มีค่าเท่ากับ 5 แต้มแล้ว ลูกเต๋าทั้งหมด 3 ลูก จะต้องมีแต้มรวมกัน ไม่เกิน 10 จึงเรียกว่า 5 ต่ำ ซึ่งรูปแบบการแทงนี้ จะมีอัตราจ่ายเท่ากับ 1 : 5

ตัวอย่างเช่น

เมื่อท่านเดิมพัน แทง 5 ต่ำ  จำนวนเงิน 10 บาท หากผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็นสัญลักษณ์ แบบใดแบบหนึ่ง ในทั้ง 6 แบบตามรูปภาพด้านล่างนี้ แสดงว่าท่านถูกรางวัล 5 ต่ำ และท่านก็จะได้เงินรางวัลทั้งหมดเท่ากับ 60 บาท (ซึ่งรวมทุนแล้ว 10 บาท)

 

6. รูปแบบการแทง 11 ไฮโล

การแทง 11 ไฮโล คือ การเดิมพัน ให้ผลรางวัลของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก มีแต้มรวมกันเท่ากัน 11 แต้มนั่นเอง ซึ่งรูปแบบการแทง 11 ไฮโลนี้ จะมีอัตราจ่ายเท่ากับ 1 : 5

ตัวอย่างเช่น

เมื่อท่านเดิมพัน แทง 11 ไฮโล เป็นจำนวนเงิน 10 บาท หากผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็นสัญลักษณ์ แบบใดแบบหนึ่ง ในทั้ง 6 แบบนี้ตามรูปภาพด้านล่างนี้ แสดงว่าท่านถูกรางวัล 11 ไฮโล และท่านก็จะได้เงินรางวัลทั้งหมดเท่ากับ 60 บาท (ซึ่งรวมทุนแล้ว 10 บาท)

 

7. รูปแบบแทง 6 ต่ำ

สุดท้าย สำหรับรูปแบบการแทง 6 ต่ำ คือ การเดิมพัน ให้ลูกเต๋าออกผลรางวัลเป็นสัญลักษณ์
( )6 แต้ม 1 ลูก ส่วนผลของลูกเต๋าที่เหลืออีก 2 ลูก จะต้องมีแต้มที่รวมกันแล้วไม่เกิน 4 แต้มซึ่งเมื่อเอาแต้มลูกเต๋าทั้งหมด 3 ลูก มารวมกันจะต้องมีแต้มรวมกัน ไม่เกิน 10 จึงจะเรียกว่า 6 ต่ำ และรูปแบบการเดิมพันนี้ จะมีอัตราจ่ายเท่ากับ 1 : 5

ตัวอย่างเช่น

เมื่อท่านเดิมพัน แทง 6 ต่ำ  จำนวนเงิน 10 บาท หากผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็นสัญลักษณ์ แบบใดแบบหนึ่ง ในทั้ง 4 แบบ ตามรูปภาพด้านล่างนี้ แสดงว่าท่านถูกรางวัล 6 ต่ำ และท่านก็จะได้เงินรางวัลทั้งหมดเท่ากับ 60 บาท (ซึ่งรวมทุนแล้ว 10 บาท)

 

ทิ้งท้าย

ทุกท่านก็ได้รู้แล้วนะคะ ว่าวิธีเล่นไฮโลพื้นบ้านนั้น เป็นยังไง ซึ่งหากทุกท่านได้อ่านทำความเข้าใจแล้ว จะเห็นว่า จะมีรูปแบบการเล่น อยู่ทั้งหมด 7 รูปแบบด้วยกัน โดยในแต่ละรูปแบบนั้น ก็ไม่ซับซ้อนเลย และ ข้อดีก็คือ เมื่อท่านทำความเข้าใจในการเล่นไฮโลพื้นบ้านแล้ว ต่อไปท่านหากท่านจะเล่นไฮโลออนไลน์ มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับท่านมากๆ เลย เพราะท่านมีพื้นฐานการเล่นไฮโลพื้นบ้านอยู่แล้วนั่นเอง แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

ถ้าหากเพื่อนๆ ชอบบทความนี้ เป็นกำลังใจให้ทีมงานได้โดย กดเพิ่ม Line Stakehow เอาไว้ พร้อม กดกระดิ่งด้านขวา ล่างของหน้าจอด้วยนะ เมื่อมีบทความดีๆ ใหม่ๆ อัพเดต จะแจ้งให้ทราบทันที หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ จากหมวด คาสิโนสด สวัสดีค่ะ