dragon tiger เล่นยังไง กฏกติกา หาคำตอบได้ที่นี่

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านที่ติดตาม Stakehow อยู่แล้ว และ นักเดิมพันคาสิโนที่ชื่นชอบการเล่นเกมส์ในคาสิโนทุกท่าน สำหรับบทความนี้ เราจะมาพูดถึงเกมส์คาสิโนที่มีวิธีการเล่นที่คล้ายๆ กับ บาคาร่า นั่นคือ dragon tiger เล่นยังไง นั้นเราจะพาไปดูกัน พร้อมสอนวิธีเล่น กติกา และ แนะนำคาสิโนที่ให้บริการเกมส์นี้ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปดูกันในบทความครับ

 

Dragon Tiger (เสือ มังกร)

สำหรับเกมส์นี้ เป็นเกมส์ไพ่ชนิดหนึ่ง ที่มีวิธีเล่นที่คล้ายๆ กับเกมส์ยอดฮิตอย่างเกมส์บาคาร่า ที่จะให้เพื่อนๆ ทุกท่าน เลือกวางเดิมพันว่า ฝั่งไหนจะชนะระหว่าง เสือ กับ มังกร ซึ่งเกมส์นี้ จะมีการแจกไพ่ให้ฝั่งละ 1 ใบ แล้ววัดจำนวนแต้มกันเลย โดยในแต่ละรอบจะใช้เวลาในการเล่นไม่นาน จึงเป็นเกมส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้

ในส่วนวิธีการเล่น จะคล้ายกับเกมส์ไพ่บาคาร่า โดยจะให้นักเดิมพัน เลือกเดิมพันว่า ระหว่าง ฝั่งเสือ กับ ฝั่งมังกร ว่าจำนวนไพ่ของฝั่งไหน จะมีจำนวนไพ่เยอะกว่า ซึ่งเกมส์นี้ จะมีจำนวนแต้มไพ่ที่เยอะที่สุด คือ 13 แต้ม (K) แต้มที่น้อยที่สุด คือ 1 แต้ม (A) จัดเป็นเกมส์ไพ่ที่มีความเสี่ยงต่ำ ที่มีโอกาสชนะสูงถึง 50:50

dragon tiger เล่นยังไง

 

Dragon tiger เล่นยังไง

สำหรับวิธีการเล่นเกมส์ไพ่เสือมังกร จะให้เพื่อนๆ เลือกวางเดิมพัน ซึ่งจะมีให้เลือกวางเดิมพัน 3 ตำแหน่งด้วยกัน นั่นคือ เสือชนะ , มังกรชนะ และ เสมอ ในการเล่นแต่ละรอบจะมีเวลาในการวางเดิมพันประมาณ 15 – 40 วินาที (เวลาจะขึ้นอยู่กับโต๊ะและเว็บคาสิโนออนไลน์ที่เลือกเล่น) ก่อนที่ดีลเลอร์จะหยุดรับวางเดิมพัน แล้วเริ่มแจกไพ่ จากนั้นก็วัดผลแพ้ชนะ

เมื่อหมดเวลาวางเดิมพัน ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ โดยทำการหงายไพ่ให้ฝั่งเสือ 1 ใบ และ แจกให้ฝั่งมังกร 1 ใบ ซึ่งไพ่ที่มีแต้มเยอะที่สุดก็คือ 13 แต้ม (ไพ่ K) และ ไพ่ที่มีแต้มน้อยที่สุดก็คือ 1 แต้ม (ไพ่ A) ในการตัดสินแพ้ชนะ จะวัดจากแต้มของไพ่แต่ละฝั่ง ว่าแต้มของไพ่ฝั่งไหนจะมีแต้มที่ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 13 แต้มมากที่สุด ก็จะเป็นฝั่งที่ชนะ

แต่ถ้าแต้มไพ่ของทั้งสองฝั่งมีแต้มเท่ากัน (Tie) ทุกคนที่วางเดิมพัน เสือชนะ หรือ มังกรชนะ จะเสียเงินเดิมพันทันที 50% ของยอดวางเดิมพัน หรือ ครึ่งหนึ่งของยอดวางเดิมพัน เช่น ถ้าเราวางเดิมพัน 500 บาท เราจะเสียเงินเดิมพันทันที 250 บาท เราจะเหลือเงินวางเดิมพันเพียง 250 บาท

 

ตำแหน่งการวางเดิมพัน

สำหรับตำแหน่งการวางเดิมพันของเกมส์เสือมังกร จะมีตำแหน่งการวางเดิมพันอยู่ 3 ตำแหน่งหลักๆ ด้วยกัน นั่นคือ เสือชนะ , มังกรชนะ และ เสมอ ซึ่งแต่ละตำแหน่งจะมีรายละเอียดดังนี้

ตำแหน่งวางเดิมพัน

1. เสือชนะ (Tiger) : วางเดิมพัน

สำหรับการวางเดิมพันตำแหน่งนี้ จะชนะก็ต่อเมื่อไพ่ของแต้มฝั่งเสือ มีแต้มไพ่ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 13 แต้ม มากกว่าแต้มไพ่ของฝั่งมังกร

2. มังกรชนะ (Dragon) : วางเดิมพัน

สำหรับการวางเดิมพันตำแหน่งนี้ จะชนะก็ต่อเมื่อไพ่ของแต้มฝั่งเสือมีแต้มไพ่ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 13 แต้มมากกว่าแต้มไพ่ของฝั่งเสือ

3. เสมอ (Tie)

สำหรับตำแหน่งการวางเดิมพันตำแหน่งนี้ จะเกิดขึ้นได้ยากมาก จึงทำให้ตำแหน่งการวางเดิมพันตำแหน่งนี้มีอัตราจ่ายสูงกว่าตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งตำแหน่งนี้จะชนะก็ต่อเมื่อ ไพ่ของทั้งสองฝั่งมีแต้มไพ่เท่ากัน

เมื่อเราได้เรียนรู้ ตำแหน่งการวางเดิมพันของเกมส์ เสือมังกรแล้วต่อไปเราจะไปดูวิธีการนับแต้มของไพ่นี้กันนะครับ

 

การนับแต้มไพ่ เสือมังกร

สำหรับวิธีการนับแต้มไพ่ของเกมส์ไพ่เสือมังกร ก็สามารถนับได้ง่ายๆ ตามหน้าไพ่ของแต่ละหน้าได้เลยครับ โดยจะมีการนับแต้มดังนี้

dragon tiger เล่นยังไง

A จะมีแต้มเท่ากับ 1 แต้ม
2 จะมีแต้มเท่ากับ 2 แต้ม
3 จะมีแต้มเท่ากับ 3 แต้ม
4 จะมีแต้มเท่ากับ 4 แต้ม
5 จะมีแต้มเท่ากับ 5 แต้ม
6 จะมีแต้มเท่ากับ 6 แต้ม
7 จะมีแต้มเท่ากับ 7 แต้ม
8 จะมีแต้มเท่ากับ 8 แต้ม
9 จะมีแต้มเท่ากับ 9 แต้ม
10 จะมีแต้มเท่ากับ 10 แต้ม
J จะมีแต้มเท่ากับ 11 แต้ม
Q จะมีแต้มเท่ากับ 12 แต้ม
K จะมีแต้มเท่ากับ 13 แต้ม

จากรายละเอียดการนับแต้มหน้าไพ่ข้างบน จะเห็นได้แต้มที่มีจำนวนแต้มมากที่สุด นั่นก็คือ ไพ่ K (13 แต้ม) และ ไพ่ที่มีจำนวนแต้มน้อยที่สุด ก็คือ ไพ่ A (1 แต้ม)

 

อัตราจ่ายของเกมส์ไพ่เสือมังกร

สำหรับอัตราจ่าย เราจะอ้างอิงมาจากเว็บคาสิโนออนไลน์เว็บหนึ่ง ที่กำลังได้รับความนิยม และ เป็นเว็บที่ผมเข้าไปใช้บริการ เล่นเกมส์คาสิโนต่างๆ อยู่เป็นประจำ นั่นคือ Next88 ซึ่งทางเว็บนี้ จะมีอัตราจ่ายดังนี้ครับ

  • เสือชนะ (Tiger) จะมีอัตราจ่าย 1:1 หรือ 1 เท่าไม่รวมทุน
  • มังกรชนะ (Dragon) จะมีอัตราจ่าย 1:1
  • เสมอ (Tie) จะมีอัตราจ่าย 1:8

หากเพื่อนๆ ท่านใดอยากไปลองใช้บริการเว็บคาสิโนออนไลน์ Next88 อย่างผม ก็สามารถเข้าไปลองได้นะครับ และ เว็บนี้ยังเป็นเว็บตรงที่ไม่ต้องผ่านเอเย่นต์ใดๆ และในหัวข้อต่อไปผมจะพูดถึงสูตรเดินเงินที่สามารถใช้งานกับเกมส์ไพ่ชนิดได้ จะเป็นสูตรเดินเงินประเภทไหน ไปดูกันในหัวข้อถัดไปได้เลยครับ

 

สูตรเดินเงิน

สำหรับสูตรเดินเงิน ในปัจจุบันก็มีมากมายหลากหลายสูตร ซึ่งสูตรเดินเงินต่างๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเกมส์อื่นๆ ในคาสิโนได้ ไม่ว่าจะเป็นสูตรเดินเงิน 1324 , สูตรเดินเงิน ลาบูเซอร์ , สูตรเดินเงินเดลองเบ หรือ สูตรเดินเงินที่เป็นที่นิยมอย่างมาก อย่าง สูตรเดินเงิน Martingale โดยบทความนี้เราจะมาแนะนำสูตรเดินเงินที่เป็นที่นิยม นั่นก็คือ สูตรเดินเงิน Martingale

สำหรับสูตรเดินเงิน Martingale เป็นอีกสูตรที่สามารถทำกำไรจากการเล่นเกมส์คาสิโน อย่าง บาคาร่า รูเล็ต หรือ เสือมังกร ซึ่งสูตรเดินเงินตัวนี้ จะเป็นสูตรเดินเงินที่เวลาเดิมพันชนะ (ในรอบแรก) รอบต่อไปจะเดิมพันเท่าเดิมไปเรื่อยๆ จนแพ้ แต่ถ้าเดิมพันแพ้เมื่อไหร่ จะวางเดิมพันเป็นสองเท่าของรอบล่าสุด

โดยสูตรเดินเงิน Martingale มีความเสี่ยงหนักๆ อยู่คือ ถ้าแพ้ติดต่อกันมาก จะทำให้ทุกท่านหมดตัวหรือตัวแตกเลยก็ว่าได้ครับ เนื่องด้วยที่สูตรนี้จะวางเดิมพันเป็นสองเท่าเมื่อแพ้ ดังนั้น สูตรเดินเงินสูตรนี้เหมาะสำหรับท่านที่มีงบหรือต้นทุนในการเล่นมาก ซึ่งสูตรเดินเงินมาร์ติงเกล จะมีวิธีการเดินเงินดังนี้

– เมื่อชนะ > จะวางเดิมพันเท่าเดิมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแพ้ เช่น เมื่อเราวางเดิมพันรอบแรก 1 หน่วย ถ้าชนะ รอบต่อไปวางเดิมพัน 1 หน่วยเท่าเดิม เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแพ้เดิมพัน

– เมื่อแพ้ > จะวางเดิมพันเป็น 2 เท่าของรอบล่าสุด จนกว่าจะชนะ เช่น เมื่อเราวางเดิมพันรอบแรก 1 หน่วย ถ้าแพ้ รอบต่อไปวางเดิมพัน 2 หน่วย แต่ถ้าแพ้อีก ให้วางเดิมพัน 4 หน่วย จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะ

dragon tiger เล่นยังไง

 

ทิ้งท้าย dragon tiger เล่นยังไง

เป็นยังไงกันบ้างครับบทความ dragon tiger เล่นยังไง ตอนนี้ทุกท่านคงทราบวิธีการเล่นเกมส์เสือมังกรกันแล้วนะครับ ซึ่งท่านใดสนใจเกมส์ตัวนี้ สามารถหาเล่นได้ตามเว็บคาสิโนออนไลน์ทั่วไป อย่าง Next88 , Gclub , 1xbet หรือเว็บอื่นๆ และ อย่าลืมใช้สูตรเดินเงินที่ช่วยเพิ่มโอกาสการทำกำไรอย่าง สูตรเดินเงิน Martingale กันด้วยนะครับ

หากท่านใดชื่นชอบบทความดีๆ ของเรา อยากจะติดตามบทความอื่นๆ ก่อนใคร ให้ทุกท่านกดแอด Line : Stakehow และ อย่างลืมกดกระดิ่งสีแดง ที่มุมขวาล่าง หากมีบทความใหม่ๆ มา ทางเราจะรีบแจ้งเตือนให้ทุกท่านได้ทราบโดยทันที