สวัสดีครับ ผู้อ่านบทความทุกท่าน วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเกมส์คาสิโนชนิดหนึ่งกันนะครับ นั่นก็คือ เกมส์บาคาร่านั่นเอง สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า บาคาร่าคือ อะไร และกติกาการเล่นมีอะไรบ้าง วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปศึกษาข้อมูลต่างๆ กันในบทความนี้ ถ้าพร้อมแล้วเราไปศึกษาข้อมูลต่างๆ ด้านล่างนี้ได้เลย
บาคาร่าคือ อะไร
“Baccarat” หรือบาคาร่า คือเกมส์คาสิโนที่เซียนพนันทั่วทุกมุมโลกให้ความสนใจ และนิยมเล่นกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ สำหรับช่องทางการเล่นพนันชนิดนี้ เพื่อนๆ สามารถเล่นได้ที่บ่อนคาสิโนทั่วไปที่จดทะเบียนแบบถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ
หรือในปัจจุบันนี้ ท่านสามารถเล่นผ่านทางเว็บพนันออนไลน์ได้แล้ว อย่างเช่น เว็บ Next88 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งวันนี้ผมก็จะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอน และกติกาการเล่นให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาและทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กัน ในหัวข้อถัดไป
กติกาการเล่นบาคาร่า
กติกาการเล่นเกมส์บาคาร่าในเว็บคาสิโนออนไลน์ จะคล้ายๆ กันกับการเล่นเกมส์ไพ่ป๊อกเด้งในบ้านเราเลยครับ ซึ่งอันดับแรกผมจะพาเพื่อนๆ ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับแต้มของไพ่ก่อน โดยมีรายละเอียดตามรูปภาพ ด้านล่างนี้เลย
การนับแต้มไพ่
- A มีแต้มเท่ากับ 1
- เลข 2 ถึง 9 มีค่าแต้มตามหน้าไพ่
- เลข 10 และตัวอักษรภาษาอังกฤษ (J, Q, K) มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
ตัวอย่างการนับแต้มไพ่
- (A♥ / 2♣ เท่ากับ 3 แต้ม) (K♥ / 3♣ เท่ากับ 3 แต้ม) (10♥ / 3♣ เท่ากับ 3 แต้ม)
- (A♥ / 8♠ เท่ากับ 9 แต้ม) (5♥ / 4♠ เท่ากับ 9 แต้ม) (K♥ / 9♠ เท่ากับ 9 แต้ม)
- (K♥ / K♠ เท่ากับ 0 แต้ม) (5♥ / 5♠ เท่ากับ 0 แต้ม) (A♥ / 9♠ เท่ากับ 0 แต้ม)
รูปแบบการเดิมพัน
หลังจากที่ท่านเรียนรู้และเข้าใจในส่วนของแต้มไพ่แล้ว ต่อไปผมจะพาไปศึกษารูปแบบของการเดิมพันบาคาร่า ที่มีอยู่ทั้งหมด 12 แบบหลักๆ ดังนี้
1. Banker คือ (ฝั่งเจ้ามือ) :
คือ การเดิมพันฝั่งเจ้ามือ แล้วไพ่ของฝั่งเจ้ามือมีแต้มมากกว่าฝั่ง Player (ผู้เล่น) นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพันและจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 1
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันฝั่งเจ้ามือ เป็นเงินจำนวน 200 บาท หากผลของไพ่ฝั่งเจ้ามือได้ไพ่เลข A♥ / 8♣ และไพ่ฝั่งผู้เล่นได้ 4♥ / 2♣ นั่นหมายความว่า ฝั่งเจ้ามือชนะ ท่านชนะการเดิมพันชนะ และจะได้เงินรางวัล 200 บาท ไม่รวมทุน |
2. Player คือ (ฝั่งผู้เล่น)
คือ การเดิมพันฝั่งผู้เล่น แล้วไพ่ของฝั่งผู้เล่นมีแต้มมากกว่าฝั่ง Banker (เจ้ามือ) นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพันและจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 1
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันฝั่งผู้เล่น เป็นเงินจำนวน 200 บาท หากผลของไพ่ฝั่งผู้เล่นได้ไพ่เลข k♥ / 9♣ และฝั่งเจ้ามือได้ไพ่เลข k♥ / 8♣ นั่นหมายความว่า ฝั่งผู้เล่นชนะ ท่านชนะการเดิมพันชนะ และจะได้เงินรางวัล 200 บาท ไม่รวมทุน |
3. Tie Game (เสมอ)
คือ การเดิมพันว่าแต้มไพ่ของ ฝั่ง Player (ผู้เล่น) และ ฝั่ง Banker (เจ้ามือ) นั้นมีค่าเท่ากัน ซึ่งถ้าลงเงินเดิมพันแล้วผลของไพ่ทั้ง 2 ฝั่ง เท่ากันหรือเสมอกัน นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพัน และจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 8
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพัน “เสมอ” เป็นจำนวนเงิน 200 บาท หากผลของไพ่ฝั่งผู้เล่นได้ไพ่เลข 9♥ / 9♠ และฝั่งเจ้ามือได้ไพ่เลข 8♠ / K♣ นั่นหมายความว่า ฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือมีแต้มไพ่เท่ากัน หรือเสมอกัน ดังนั้นท่านจึงชนะการเดิมพัน และจะได้เงินรางวัล 1,600 บาทไม่รวมทุน |
4. Banker Pair (เจ้ามือออกไพ่คู่)
คือ การเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งเจ้ามือจะออกเป็นหน้าไพ่เหมือนกันหรือไม่ หากเดิมพันแล้ว ผลออกไพ่คู่เลขเหมือนกัน นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพัน และจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 11
|
5. Player Pair (ผู้เล่นออกไพ่คู่)
คือ การเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งผู้เล่น จะออกเป็นหน้าไพ่เหมือนกันหรือไม่ หากเดิมพันแล้วผลออกไพ่คู่เลขเหมือนกัน นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพันและจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 11
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันไพ่คู่ฝั่งผู้เล่น เป็นจำนวนเงิน 200 บาท หากผลของไพ่ฝั่งผู้เล่น ออกมาเป็นเลขคู่เหมือนกัน เช่น เลข 4♥ / 4♣ นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพัน และจะได้เงินรางวัล 2,200 บาท ไม่รวมทุน |
6. Small (เล็ก)
คือ การเดิมพันว่าไพ่ของทั้งสองฝั่งทั้ง Player (ผู้เล่น) และ Banker (เจ้ามือ) ว่าจะได้ไพ่แค่สองใบเป็นป๊อก 8 หรือ ป๊อก 9 หากเดิมพันแล้วไพ่ของทั้งสองฝั่งออกผลป๊อก 8 หรือ ป๊อก 9 นั่นหมายความว่า ผลออก (small) คือท่านชนะการเดิมพันและจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 1.5 ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันไพ่ (small) เป็นจำนวนเงิน 200 บาท หากเดิมพันแล้ว ผลของไพ่ฝั่งผู้เล่นออกเลข 9♥ / 10♣ และ ฝั่งเจ้ามือออกเลข 8♥ / K♣ นั่นหมายความว่า ผลของไพ่ออก (small) ท่านชนะการเดิมพัน และจะได้เงินรางวัลเท่ากับ 300 บาท ไม่รวมทุน |
7. Big (ใหญ่)
คือการเดิมพันว่าฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ทั้ง Banker (เจ้ามือ) หรือ ฝั่ง Player (ผู้เล่น) จะได้ไพ่ 3 ใบ หรือทั้ง 2 ฝั่งได้ไพ่ 3 ใบพร้อมกัน นั่นหมายความว่า ผลออก (Big) ท่านชนะการเดิมพันและจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 0.5
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันไพ่ (Big) เป็นเงินจำนวน 200 บาท หากเดิมพันแล้ว ผลของไพ่ฝั่งเจ้ามือ หรือ ฝั่ง ผู้เล่นได้ไพ่ 3 ใบ หรือ ทั้ง 2 ฝั่งได้ไพ่ 3 ใบพร้อมกัน นั่นหมายความว่า ผลของไพ่ออก (Big) ท่านชนะการเดิมพัน และจะได้เงินรางวัลเท่ากับ 100 บาท ไม่รวมทุน |
8. Player ป๊อก 8
เป็นการเดิมพันว่าฝั่ง Player (ผู้เล่น) จะได้แต้มไพ่หรือคะแนนไพ่ เท่ากับ 8 แต้ม หรือที่เรียกว่า ” ป๊อก 8″ นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพัน และจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 8
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันไพ่ Player ป๊อก 8 เป็นจำนวนเงิน 200 บาท ถ้าผลของไพ่ฝั่ง Player (ผู้เล่น) ออกมาเป็น 8♥ / K♣ นั่นหมายความว่า ผลออก “Player ป๊อก 8” ท่านจะชนะการเดิมพัน และได้เงินรางวัลเท่ากับ 1,600 บาท ไม่รวมทุน |
9. Player ป๊อก 9
คือการเดิมพันว่าฝั่ง Player (ผู้เล่น) จะได้แต้มไพ่หรือคะแนนไพ่ เท่ากับ 9 แต้ม หรือที่เรียกว่า ” ป๊อก 9″ นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพัน และจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 8
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันไพ่ Player ป๊อก 9 เป็นจำนวนเงิน 200 บาท ถ้าผลของไพ่ฝั่ง Player (ผู้เล่น) ออกมาเป็น 9♥ / K♣ นั่นหมายความว่า ผลออก “Player ป๊อก 9” ท่านจะชนะการเดิมพัน และได้เงินรางวัลเท่ากับ 1,600 บาท ไม่รวมทุน |
10. Banker ป๊อก 8
คือการเดิมพันว่าฝั่ง Banker (เจ้ามือ) จะได้แต้มไพ่หรือคะแนนไพ่ เท่ากับ 8 แต้ม หรือที่เรียกว่า ” ป๊อก 8″ นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพันและจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 8
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันไพ่ Banker ป๊อก 8 เป็นจำนวนเงิน 200 บาท ถ้าผลของไพ่ฝั่ง ออกมาเป็น 8♥ / K♣ นั่นหมายความว่า ผลออก “Banker ป๊อก 8” ท่านจะชนะการเดิมพัน และได้เงินรางวัลเท่ากับ 1,600 บาท ไม่รวมทุน |
11. Banker ป๊อก 9
คือการเดิมพันว่าฝั่ง Banker (เจ้ามือ) จะได้แต้มไพ่หรือคะแนนไพ่ เท่ากับ 9 แต้ม หรือที่เรียกว่า ” ป๊อก 9″ นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพันและจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 8
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันไพ่ Banker ป๊อก 9 เป็นจำนวนเงิน 200 บาท ถ้าผลของไพ่ฝั่ง ออกมาเป็น 9♥ / K♣ นั่นหมายความว่า ผลออก “Banker ป๊อก 9” ท่านจะชนะการเดิมพัน และได้เงินรางวัลเท่ากับ 1,600 บาท ไม่รวมทุน |
12. Super (ซูเปอร์) 6+
คือ การเดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะชนะฝั่งผู้เล่นด้วยไพ่ 6 แต้ม หากผลของไพ่ฝั่งเจ้ามือออกมาเท่ากับ 6 แต้ม นั่นหมายความว่า ท่านชนะการเดิมพันและจะได้อัตราเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 18
ตัวอย่างการเดิมพัน : เมื่อลงเงินเดิมพันไพ่ Super (ซูเปอร์) 6+ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท ถ้าผลของไพ่ฝั่ง Banker (เจ้ามือ) ออกมาเป็นเลข A♠ / 5♣ ซึ่งเท่ากับ 6 แต้ม นั่นหมายความว่า ผลออก “Super (ซูเปอร์) 6+” ท่านชนะการเดิมพัน และจะได้เงินรางวัลเท่ากับ 3,600 บาท ไม่รวมทุน |
ขั้นตอนการเล่นบาคาร่า
1. เลือกแบรนด์เกมส์
หลังจากที่สมัครสมาชิกฝากเงินเข้าระบบแล้ว ให้ท่านเลือกแบรนด์เข้าสู่หมวดเกมส์คาสิโนสดประเภทบาคาร่า เช่น เลือกแบรนด์ CLUB GPI
2. เลือกหมวดเกมส์บาคาร่า
เมื่อเลือกแบรนด์เกมส์แล้ว ให้กดเลือกประเภทเกมส์ “บาคาร่า”
3. ให้เลือกห้องเกมส์ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
- กด “เข้าสู่ห้องเกมส์”
- เลือกอัตราการเดิมพัน เช่น 50 – 5,000 บาท
4. เริ่มเดิมพัน ซึ่งขั้นตอนการเดิมพันให้ท่านทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ให้ท่านเลือกชิปก่อน ซึ่งในห้องนี้ที่ผมเลือกขั้นต่ำในการเดิมพัน คือ 50 บาท แต่ชิปมีราคา 25 บาท, 100 บาท, 500 บาท, 1,000 บาท และ 5,000 บาท ดังนั้น หากจะเดิมพันในราคา 50 บาท (ท่านต้องกดชิปราคา 25 บาท 2 ครั้งนะครับ)
- เมื่อเลือกชิปได้แล้ว ให้เลือกรูปแบบการเดิมพัน เช่น เลือกแทงฝั่ง Banker
- จากนั้น กดปุ่ม “ยืนยัน” ได้เลย
เพียงเท่านี้ ขั้นตอนการเล่นเกมส์บาคาร่าก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็รอลุ้นผลรางวัลได้เลย
ทิ้งท้าย
ก็จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับบทความดีๆ เกี่ยวกับกติกาการเล่น และอัตราการจ่ายเงินรางวัลของเกมส์บาคาร่าออนไลน์ ที่ผมได้อธิบายไปเมื่อสักครู่นี้ ทุกท่านก็คงเข้าใจกันแล้ว และในโอกาสหน้า ผมจะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเล่นเกมส์บาคาร่าแบบทีละสเต็ป ให้ทุกๆ ท่านได้เข้าใจมากขึ้น บอกได้เลยว่า ใครไม่อยากเสียโอกาสดีๆ ห้ามพลาดเลยครับ
หากชอบบทความของเรากดเพิ่ม LINE Stakehowเอาไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานเรา พร้อม กดกระดิ่งด้านขวา ล่างของหน้าจอ เพื่อรับแจ้งเตือนบทความใหม่ๆ จากทางเราได้ สำหรับวันนี้ผมขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่อีกครั้งในบทความหน้า สวัสดีครับ