บาคาร่า สด สุดยอดเกมนิยม เซียนตัวจริงต้องไม่พลาด

สวัสดีครับทุกๆ ท่านที่ติดตาม Stakehow วันนี้ผมจะมาอธิบายวิธีการเล่น บาคาร่า สด เกมคาสิโนออนไลน์ยอดนิยมอันดับหนึ่งในเว็บคาสิโนออนไลน์ โดยเนื้อหาในบทความนี้ก็จะเป็นการอธิบายตั้งแต่ทางเข้าสู่เว็บไซต์ พร้อมวิธีการเล่นบาคาร่าออนไลน์อย่างละเอียด ให้ทุกท่านได้รับชมกันครับ เนื้อหาจะมีอะไรบ้างเชิญอ่านได้ที่ด้านล่างนี้เลยครับ

 

บาคาร่า สด คืออะไร

บาคาร่า สด หรือ baccarat คือเกมเดิมพันออนไลน์ที่เหล่านักเล่นนักเดิมพันคุ้นเคยกันดีเป็นพิเศษ ด้วยความคลาสสิคน่าหลงใหลทำให้บาคาร่าเป็นเกมพนันยอดฮิตในทุกยุคทุกสมัยก็ว่าได้ หากใครยังไม่รู้จักบาคาร่า ทำความเข้าใจได้ไม่ยากครับ

บาคาร่าเป็นเกมไพ่ที่เล่นง่ายๆ และได้เงินไว ซึ่งวิธีการเล่นก็ไม่ยาก มือใหม่ที่ไม่เคยเล่นเกมพนัน หรือไม่เคยเล่นเกมไพ่มาก่อนเลย ก็สามารถเริ่มเล่นบาคาร่าได้ด้วยตัวเอง วิธีการเล่นบาคาร่า สิ่งที่ต้องเรียนรู้ คือ การเล่นบาคาร่า โดยเกมบาคาร่าจะมีให้เลือกลงเดิมพัน ระหว่างเจ้ามือ (Banker) , ผู้เล่น (Player) , (Tie เสมอ) นอกจากนั้นท่านยังสามารถลงเดิมพันเพิ่มได้อีก ซึ่งสามารถเลือกลงเดิมพันได้ตามงบเดิมพันของคุณได้เลย

 

วิธีการเล่นไพ่บาคาร่าสด

วิธีเล่น หรือวิธีการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ ก็เหมือนกับการเล่นไพ่บาคาร่าในบ่อนคาสิโนสถานที่จริง โดยรูปแบบการเล่นหลักๆ แล้ว จะมีดังนี้ครับ

  1. ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันได้ 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเจ้ามือ(Banker) , ฝ่ายผู้เล่น(Player) หรือจะเดิมพันแบบอื่นๆ เพิ่มเติมก็ได้ (แต่ไม่สามารถที่จะเดิมพัน 2 ฝ่ายพร้อมกันได้)
  2. เมื่อหมดเวลาวางเดิมพัน ดีลเลอร์ หรือคนแจกไพ่ จะทำการแจกไพ่ให้ฝ่ายละ 2 ใบ ซึ่งไพ่ที่แจกจะแจกแบบหงายหน้าไพ่ให้ผู้เล่นได้เห็น
  3. ฝ่ายไหนได้ไพ่ 2 ใบ แล้วมีแต้มรวมกันเป็น 8 หรือ 9 แต้ม ถือว่าชนะการเดิมพันทันที (ถ้าหากทั้ง 2 ฝ่าย ได้แต้มเท่ากัน การเดิมพันเป็นเสมอ)
  4. หากฝ่ายเจ้ามือ(Banker) หรือ ฝ่ายผู้เล่น(Player) ได้แต้มน้อยกว่า 5 แต้ม จะมีสิทธิ์ได้จั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม ในกรณีจั่วไพ่เพิ่มผู้เล่นไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเอง ทางดีลเลอร์จะเป็นคนกำหนดว่าจะจั่วหรือไม่จั่ว โดยการจั่วไพ่ใบที่ 3 จะเป็นไปตามกฎกติกาของทางเว็บไซต์นั้นๆ

 

กฎกติกาบาคาร่าสด

ในหัวข้อนี้จะกล่าวถึง กฎการนับแต้ม , กฎการจั่วไพ่ใบที่ 3 ของบาคาร่า ที่ผู้เล่น หรือนักลงทุน หลายท่านอาจจะสงสัยกันหลายท่าน เนื่องจากบางครั้งฝ่ายเจ้ามือก็อยู่บางทีก็จั่ว จึงทำให้หลายท่านเกิดอาการสับสน ทางเราจึงเขียนบทความนี้ขึ้น เพื่ออธิบายถึงวิธีการกฎติกาของบาคาร่า ให้ทุกท่านได้คลายข้อสงสัย เนื้อหาจะเป็นยังไงไปดูกันเลยครับ

วิธีการนับแต้ม บาคาร่า สด

บาคาร่าสด มีวิธีการนับไพ่ที่ง่ายมากๆ ครับ การนับแต้มจะคล้ายกับไพ่ป๊อกเด้งของไทยเรา โดยไพ่ที่เป็นตัวเลขทุกตัว จะมีค่าเท่ากับหน้าไพ่ของมันเอง โดยไพ่แต่ละหน้าจะมีแต้ม ดังต่อไปนี้

  • ไพ่ตัวอักษร A (Ace) มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
  • ไพ่หมายเลข 2 – 9 มีค่าเท่ากับหน้าไพ่มันเอง อย่างเช่น ไพ่หมายเลข 2 มีค่าเท่ากับ 2 แต้ม
  • ส่วนไพ่หมายเลข 10 จะถือเป็น 0
  • ไพ่ตัวอักษร J , Q , K ก็นับเป็น 0 ด้วยเหมือนกันครับ

หมายเหตุ * ในการเล่นบาคาร่าสด ดอกของไพ่จะไม่มีผลต่อการวัดผลแพ้ – ผลชนะ

บาคาร่า สด
วิธีการนับแต้ม บาคาร่า สด

 

กฎการจั่วไพ่ใบที่ 3

กฎที่กล่าวมามีไว้เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้เล่นเนื่องจากบางท่านที่เห็นแต้มในฝ่ายที่ตนมีอยู่ บ้างก็อยากให้จั่ว บ้างก็อยากอยู่ไม่ต้องจั่ว กลัวจะดึงมาแล้ว คะแนนจะลดลงซึ่งก็เป็นปัญหา และข้อสงสัยมากมาย กับผู้เล่นไม่น้อยที่เล่นบาคาร่า

ฉะนั้น กฎการจั่วไพ่ใบที่ 3 จึงถูกตั้งขึ้นมาเพื่อขจัดข้อสงสัยต่างๆ และสิ่งที่ผู้เล่นคาดการณ์ว่าจะต้องเป็นไปยังไง ให้เข้าใจไปในทางเดียวกันเมื่อ เจ้ามือ กับ ผู้เล่น มีแต้มที่เท่าไร ต่อจากนี้จะต้องดึงหรือไม่ หรือจะอยู่ กฎตัวนี้จึงถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้เข้าใจ กันทุกคนถึงการทำงานของเกมไพ่ดังนี้

ฝ่ายผู้เล่น ( Player )

กฎการเรียกไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น (Player)
แต้มรวมไพ่สองใบแรกของผู้เล่น (Player)  การจั่วไพ่เพิ่ม
ผู้เล่นได้แต้มรวม 0 , 1  , 2 , 3 , 4 , 5 แต้ม จะต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม
ผู้เล่นได้แต้มรวม 6 , 7 แต้ม อยู่ ไม่ต้องจั่วไพ่
ผู้เล่นได้แต้มรวม 8 หรือ 9 แต้ม ไพ่ป๊อก ไม่ต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม และเกมเดิมพันจะหยุดทันที

 

ฝ่ายเจ้ามือ ( Banker )

ส่วนกติกาการเรียกไพ่ใบที่สามของฝ่ายเจ้ามือ (ฺBanker) มีเงื่อนไขดังนี้

แต้มรวมไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ กฎกติกาการเรียกไพ่ใบที่ 3 ของฝ่ายเจ้ามือ (Banker)
ถ้าผู้เล่นเรียกไพ่ใบที่สามได้ไพ่ที่มีแต้มต่อไปนี้

ฝ่ายเจ้ามือ ต้อง เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม

ถ้าผู้เล่นเรียกไพ่ใบที่สามได้ไพ่ที่มีแต้มต่อไปนี้

ฝ่ายเจ้ามือ ไม่ต้อง เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม

เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 3 แต้ม 1 – 2 – 3 – 4 – 5 – 6 – 7 – 9 – 0 เจ้ามือต้องเรียกไพ่ใบที่ 3เพิ่ม 8 เกมส์จะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 4 แต้ม 2 – 3 – 4 – 5 – 6 – 7 เจ้ามือต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม 1 – 8 – 9 – 0 เกมจะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 5 แต้ม 4 – 5 – 6 – 7 เจ้ามือต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม 1 – 2 – 3 – 8 – 9 – 0 เกมจะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 6 แต้ม 6 – 7 เจ้ามือต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม 1 – 2 – 3 – 4 – 5 – 8 – 9 – 0 เกมจะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 7 แต้ม เจ้ามือไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้ม ไพ่ป๊อก เจ้ามือไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม เกมจะหยุดทันที

 

ตำแหน่งการวางเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงินรางวัลเกม บาคาร่า สด

เกมบาคาร่าออนไลน์เป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทุกคาสิโนออนไลน์ ด้วยรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่ายมากๆ คล้ายกับการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง สำหรับรูปแบบการลงเดิมพันเกมบาคาร่าออนไลน์นั้น จะมีทั้งหมด 19 รูปแบบ ซึ่งอัตราการจ่ายเงินรางวัลจะต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับรูปแบบการเดิมพันนั้นๆ ดังนี้ครับ

1. ลงเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น (Player)

เป็นการลงเดิมพันว่าฝ่ายผู้เล่น หรือฝ่ายสีน้ำเงิน จะเป็นฝ่ายที่ชนะการเดิมพัน การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 1 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น (Player) จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

2. ลงเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ (Banker)

เป็นการลงเดิมพันว่าฝ่ายเจ้ามือ หรือฝ่ายสีแดง จะเป็นฝ่ายที่ชนะการเดิมพัน การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 0.95 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ (Banker) จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

3. ลงเดิมพันตำแหน่งเสมอ (Tie)

 เป็นการลงเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะมีแต้มเท่ากัน หรือเสมอกันนั่นเองครับ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 8 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งเสมอ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 900 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

4. ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น

เป็นการเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น (Player) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน อย่างเช่น ฝ่ายผู้เล่นได้รับไพ่เลข 9 จำนวน 2 ใบ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 1,200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

5. ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ

เป็นการเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน อย่างเช่น ฝ่ายเจ้ามือได้รับไพ่เลข 9 จำนวน 2 ใบ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 1,200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

6. ลงเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะได้ไพ่คู่ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 25 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 2,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

7. ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้

เป็นการเดิมพันว่าไพ่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะออกเป็นไพ่คู่ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 5 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 2,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

8. ลงเดิมพันตำแหน่งต่ำ

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ได้จั่วไพ่เพิ่มเลย การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1.5 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งต่ำ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 250 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

9. ลงเดิมพันตำแหน่งสูง

เป็นการเดิมพันว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเปิดไพ่ใบที่ 3 การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 0.54 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งสูง จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 154 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

10. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 0

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 0 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 150 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 0 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 15,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

11. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 1

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 1 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 215 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 1 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 21,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

12. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 2

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 2 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 220 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 2 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 22,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

13. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 3

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 3 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 200 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 3 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 20,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

14. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 4

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 4 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 120 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 4 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 12,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

15. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 5

 เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 5 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 110 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 5 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 11,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

16. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 6

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 6 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 6 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 4,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

17. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 7

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 7 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 7 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 4,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

18. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 8

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 8 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 8 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 8,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

19. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 9

เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 9 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน

ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 9 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 8,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

 

แนะนำเว็บไซต์เล่นไพ่บาคาร่าสด

เว็บไซต์สำหรับเดิมพันบาคาร่าออนไลน์นั้นมีอยู่หลากหลายเว็บไซต์ให้ท่านได้เลือกมากมาย  ซึ่งวันนี้มีผมมีเว็บคาสิโนออนไลน์ที่ให้บริการทางด้านคาสิโนออนไลน์มาแนะนำให้ทุกท่าน พร้อมรีวิวแต่ละเว็บไซต์ต่างๆ ดังนี้

และในบทความนี้ ผมจะใช้เว็บไซต์ FUN88 มายกตัวอย่างการในการเดิมพันเกมไพ่บาคาร่าออนไลน์ ให้ทุกท่านได้ศึกษากันครับ โดยสาเหตุที่ผมเลือกเว็บไซต์ FUN88 เนื่องจากผมได้ใช้เว็บไซต์นี้ในการเดิมพันเป็นประจำอยู่แล้ว เป็นเว็บไซต์ที่สะดวก รวดเร็ว เข้าใจง่าย การันตีความปลอดภัย และมีโปรโมชั่นมากมายให้กับสมาชิก

ลำดับแรกในการเดิมพันไพ่บาคาร่าออนไลน์ หากว่าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิกกับทางเว็บไซต์ FUN88 ผมมีวิธีสมัครสมาชิกให้ครับ สามารถศึกษาตามนี้ได้เลย คลิก

 

ขั้นตอนเข้าเล่น ไพ่บาคาร่า ออนไลน์

ขั้นตอนที่ 1 เข้าสู่เว็บไซต์หลัก FUN88

ในการเดิมพันเกมบาคาร่า ออนไลน์ให้ท่านเข้าสู่เว็บไซต์หลัก FUN88 จากนั้นให้ท่าน ล็อคอินเข้าสู่ระบบ โดยการพิมพ์ ยูสเซอร์เนม และ รหัสผ่าน (กรอบสีแดง) แล้วกดเข้าไปที่คำว่า เข้าสู่ระบบ ได้เลยครับ

บาคาร่า สด
ขั้นตอนที่ 1 เข้าสู่เว็บไซต์หลัก FUN88

 

ขั้นตอนที่ 2 เข้าสู่โหมดเกมคาสิโน

เมื่อท่านได้ทำการล็อคอินเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปให้ท่านกดคลิกที่โหมด คาสิโน ตรงแถบเมนูสีฟ้าของเว็บไซต์ (กรอบสีแดง)

ขั้นตอนที่ 2 เข้าสู่โหมดเกมคาสิโน

 

ขั้นตอนที่ 3 เลือกแบรนด์คาสิโน

หลังจากที่ท่านเข้าสู่โหมดคาสิโน จะสังเกตเห็นว่ามีหลากหลายแบรนด์ให้ท่านเลือก ได้แก่ FUN88 พาเลซ , EVO พาเลซ , สกาย พาเลซ ,อี พาเลซ , แฮปปี้ พาเลซ และ รอยัล พาเลซ ทั้งนี้ท่านสามารถเลือกเดิมพันแบรนด์ไหนก็ได้ตามที่ท่านต้องการเลยครับ แต่ในวันนี้ผมจะใช้หน้าคาสิโนแบรนด์ FUN88 พาเลซ (กรอบสีแดง) มาเป็นตัวอย่างในการเดิมพันให้ทุกๆ ท่านได้ศึกษารับชมกัน

บาคาร่า สด
ขั้นตอนที่ 3 เลือกแบรนด์คาสิโน

 

ขั้นตอนที่ 4 เลือกประเภทของเกม

เมื่อท่านได้เข้าหน้าแบรนด์ FUN88 พาเลซ เรียบร้อยแล้ว จะมีเกมหลากหลายประเภทมาให้ท่านเลือกเล่น ให้ท่านทำการเลือก บาคาร่า ตรงแถบเมนูประเภทเกมทางซ้ายของจอ (กรอบสีแดง)

บาคาร่า สด
ขั้นตอนที่ 4 เลือกประเภทของเกม

 

ขั้นตอนที่ 5 เลือกห้องบาคาร่าที่จะเล่น

จากนั้นจะมีห้องบาคาร่าออนไลน์ให้ท่านเลือกเล่นอย่างมากมาย ท่านสามารถเลือกเล่นได้ตามความชอบเลยครับ ซึ่งในแต่ละห้องจะมีวิธีการเล่นที่เหมือนกัน เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถเริ่มเดิมพันเกมบาคาร่าออนไลน์กับทางเว็บไซต์ FUN88 ได้แล้วครับ

บาคาร่า สด
ขั้นตอนที่ 5 เลือกห้องบาคาร่าที่จะเล่น

 

ทิ้งท้ายบทความ บาคาร่า สด

จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับบทความอธิบายเกี่ยวกับเกม บาคาร่า สด ให้ทุกท่านได้ศึกษากัน หากท่านใดสนใจอยากจะลองเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ ก็ลองศึกษา และสมัครเข้ามาได้เลยครับ มีโปรโมชั่นต่างๆ อย่างมากมาย แต่ขอแนะนำว่าควรเล่นอย่างพอดี และมีสติในการเล่นนะครับ วันนี้ผมก็ขอจบบทความไว้เพียงเท่านี้ พบกันใหม่บทความต่อไป สวัสดีครับ

หากชอบบทความของเรากดเพิ่ม LINE Stakehowเอาไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน พร้อม กดกระดิ่งด้านขวา ล่างของหน้าจอ เพื่อแจ้งเตือนบทความใหม่ๆ จากทางเราได้ครับ สำหรับบทความนี้ผมขอจบเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่ติดตาม Stakehow นะครับ สำหรับวันนี้ผมขอตัวลาไปก่อนไว้พบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ