สวัสดีครับทุกๆ ท่านที่ติดตาม Stakehow วันนี้ผมจะมาอธิบาย เกมคาสิโนออนไลน์ยอดนิยมอันดับหนึ่ง นั่นคือเกมบาคาร่า สำหรับท่านใดที่ยังไม่รู้จักเกมนี้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักไปพร้อมๆ กัน ซึ่งผมจะอธิบายอย่างละเอียด ตั้งแต่ บาคาร่า ออนไลน์ คืออะไร เล่นอย่างไร มีรูปแบบการวางเดิมพัน อัตราการจ่ายอย่างไร พร้อมวิธีการเล่นบาคาร่าออนไลน์อย่างละเอียด ให้ทุกท่านได้รับชมกันครับ เนื้อหาจะมีอะไรบ้างเชิญอ่านได้ที่ด้านล่างนี้เลย
บาคาร่า ออนไลน์ คืออะไร (Baccarat)
กติกาบาคาร่า
การแจกไพ่
การแจกไพ่ของเกมบาคาร่าออนไลน์จะมีข้อกำหนดของมัน เพราะว่าในการเล่นเกมแต่ละครั้ง ดีลเลอร์ หรือคนแจกไพ่จะแจกไพ่เพียงแค่ 2 ฝั่งเท่านั้น ก็คือฝั่งเจ้ามือ (Banker) และ ฝั่งผู้เล่น (Player) โดยแต่ละฝั่งจะได้รับไพ่ 2 ใบเท่ากัน และสามารถที่จะเรียกไพ่เพิ่มได้อีก 1 ใบ ตามกติกาที่กำหนด
การนับแต้มไพ่บาคาร่า
สำหรับหน้าแต้มไพ่แต่ละประเภทนั้นไม่เหมือนกัน โดยเราจะแบ่งหน้าแต้มไพ่ออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
- ไพ่เอซ (A) นับได้อย่างเดียวคือ 1 แต้ม
- ไพ่หมายเลข 2-9 พวกนี้ให้นับแต้มตามหน้าไพ่ของตัวมันเองได้เลย
- ไพ่ 10 , J , Q และ K มีค่าเท่ากับ 0 (ไม่ใช่ 10 นะครับ อย่าจำสับสน)
ยกตัวอย่างการนับหน้าไพ่ ถ้าหากผู้เล่นได้ไพ่ A กับไพ่ 7 แสดงว่าได้ 8 แต้ม เจ้ามือได้ไพ่ 6 กับไพ่ K แสดงว่าเจ้ามือได้ 6 แต้ม ผู้เล่นเป็นฝั่งชนะไป เป็นต้น
กติกาการเรียกไพ่ของบาคาร่า
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกติกาที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับกติกาการเรียกไพ่ใบที่สาม โดยจะแบ่งเป็น 2 กรณี คือฝั่งของผู้เล่น (Player) และ เจ้ามือ(Banker) เพื่อเป็นการป้องกันผู้เล่นลักไก่ไพ่ จึงได้มีการกำหนดกติกาการดึงไพ่ใบที่สามออกมาด้วย เริ่มจากฝั่งผู้เล่นก่อน ซึ่งกติกากำหนดเอาไว้ ดังนี้
ผู้เล่น ( Player )
กฎการเรียกไพ่ใบที่สามของผู้เล่น (Player) | |
แต้มรวมของไพ่สองใบแรกของผู้เล่น (Player) | การเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
เมื่อผู้เล่นได้แต้ม 0 , 1 , 2 , 3 , 4 , 5 แต้ม | จะต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
เมื่อผู้เล่นได้แต้ม 6 , 7 แต้ม | อยู่ ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
เมื่อผู้เล่นได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้ม | ไพ่ป๊อก ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม และเกมเดิมพันจะหยุดทันที |
เจ้ามือ ( Banker )
ส่วนกติกาการเรียกไพ่ใบที่สามของฝั่งเจ้ามือ (ฺBanker) มีดังนี้
แต้มรวมไพ่สองใบแรกของเจ้ามือ (Banker) | กฎการเรียกไพ่ใบที่สามของเจ้ามือ (Banker) | |
ถ้าไพ่ใบที่สามของผู้เล่นมีแต้มต่อไปนี้
ฝ่ายเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่เพิ่ม |
ถ้าไพ่ใบที่สามของผู้เล่นมีแต้มต่อไปนี้
ฝ่ายเจ้ามือไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม |
|
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 3 แต้ม | 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 9 , 0 ฝั่งเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่สาม | 8 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 4 แต้ม | 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 ฝั่งเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่สาม | 1 , 8 , 9 , 0 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 5 แต้ม | 4 , 5 , 6 , 7 ฝั่งเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่สาม | 1 , 2 , 3 , 8 , 9 , 0 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 6 แต้ม | 6 , 7 ฝั่งเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่สาม | 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 8 , 9 , 0 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 7 แต้ม | – | อยู่ ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้ม | – | ไพ่ป๊อก ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม และเกมเดิมพันจะหยุดทันที |
วิธีการวางเดิมพัน และอัตราการจ่ายบาคาร่าออนไลน์
ท่านสมาชิกจะสามารถวางเงินเดิมพันได้ตามรูปแบบการแทงบาคาร่าออนไลน์ ดังต่อไปนี้
1. เลือกเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น (Player) คือการวางเดิมพันทางฝั่งผู้เล่น หรือฝั่งสีน้ำเงินว่าจะเป็นฝั่งที่ชนะการเดิมพัน มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 1 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player) จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 100 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 200 บาท)
2. เลือกเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ (Banker) คือการวางเดิมพันทางฝั่งเจ้ามือ หรือฝั่งสีแดงว่าจะเป็นฝั่งที่ชนะการเดิมพัน มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 0.95 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker) จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 95 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 195 บาท)
3. เลือกเดิมพันตำแหน่งเสมอ (Tie) คือการลงเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะมีแต้มเท่ากัน หรือเสมอกันนั่นเองครับ มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 8 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเสมอ (Tie) จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 800 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 900 บาท)
4. เลือกเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น คือการเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งผู้เล่น (Player) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ฝั่งผู้เล่นได้รับไพ่เลข 9 จำนวน 2 ใบ มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันไพ่คู่ของผู้เล่น จำนวนงเิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 1,100 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 1,200 บาท)
5. เลือกเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ คือการเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งเจ้ามือ (Banker) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ฝั่งเจ้ามือได้รับไพ่เลข 9 จำนวน 2 ใบ มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันไพ่คู่ของเจ้ามือ จำนวนงเิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 1,100 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 1,200 บาท)
6. เลือกเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะได้ไพ่คู่ มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 25 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพัน Perfect Pair จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 2,500 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 2,600 บาท)
7. เลือกเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ คือการเดิมพันว่าไพ่ของฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะออกเป็นไพ่คู่ มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 5 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 500 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 600 บาท)
8. เลือกเดิมพันตำแหน่งต่ำ คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะไม่ได้จั่วไพ่เพิ่มเลย มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1.5 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันต่ำ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 150 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 250 บาท)
9. เลือกเดิมพันตำแหน่งสูง คือการเดิมพันว่าจะมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะเปิดไพ่ใบที่สาม มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 0.54 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันสูง จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 54 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 154 บาท)
10. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 0 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกันที่ 0 แต้ม มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 150 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 0 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 15,000 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 15,100 บาท)
11. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 1 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกันที่ 1 แต้ม มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 215 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 1 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 21,500 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 21,600 บาท)
12. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 2 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกันที่ 2 แต้ม มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 220 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 2 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 22,000 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 22,100 บาท)
13. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 3 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 3 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 200 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 3 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 20,000 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 20,100 บาท)
14. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 4 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกันที่ 4 แต้ม มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 120 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 4 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 12,000 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 12,100 บาท)
15. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 5 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกันที่ 5 แต้ม มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 110 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 5 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 11,000 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 11,100 บาท)
16. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 6 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกันที่ 6 แต้ม มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 6 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 4,500 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 4,600 บาท)
17. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 7 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกันที่ 7 แต้ม มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 7 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 4,500 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 4,600 บาท)
18. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 8 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกันที่ 8 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 8 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 8,000 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 8,100 บาท)
19. เลือกเดิมพันตำแหน่งเลข 9 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกันที่ 9 แต้ม มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 9 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 8,000 บาท (รวมเงินลงเดิมพัน = 8,100 บาท)
แนะนำเว็บคาสิโนออนไลน์
ปัจจุบันบาคาร่าเป็นเกมคาสิโนออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก หาเล่นได้ง่ายในคาสิโนออนไลน์ โดยมีหลายเว็บที่น่าสนใจ และสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวก รวดเร็วในการสมัครและเข้าเล่น ซึ่งผมมีเว็บไซต์ที่คนนิยมมากที่สุด ที่คนไทยนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดีจะมาแนะนำให้ทุกท่าน ดังต่อไปนี้
- Next88 อ่านรีวิวเว็บไซต์ คลิ๊กที่นี่
- 1Xbet อ่านรีวิวเว็บไซต์ คลิ๊กที่นี่
- W88 อ่านรีวิวเว็บไซต์ คลิ๊กที่นี่
- Alpha88 อ่านรีวิวเว็บไซต์ คลิ๊กที่นี่
- Fun88 อ่านรีวิวเว็บไซต์ คลิ๊กที่นี่
และเว็บที่ผมจะมาแนะนำ และยกตัวอย่างในการเล่นเดิมพันให้ดู ก็คือเว็บ Next88 สาเหตุที่ผมเลือกเว็บนี้ก็เพราะว่าเป็นเว็บที่ผมเล่นเป็นประจำ สามารถที่จะสมัครได้ง่ายสะดวก ปลอดภัย โปร่งใส สามารถที่จะฝาก-ถอนได้ตลิด 24 ชั่วโมง และมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ ความช่วยเหลือตลอดทั้งวัน
ขั้นตอนการเข้าเล่นเกมบาคาร่าออนไลน์เว็บ
หากท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิกกับทางเว็บ NEXT88 ให้ท่านทำการสมัคร โดยท่านสามารถศึกษาขั้นตอนต่างๆ ได้จากบทความ สมัครสมาชิก หลังจากที่ท่านสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถศึกษาขั้นตอนการเข้าเล่นเกมบาคาร่าออนไลน์ได้ตามบทความด้านล่าง ดังนี้ครับ
1. ในการเล่นเกม บาคาร่าออนไลน์ (Baccarat) ขั้นตอนแรกท่านจะต้องเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ NEXT88 หรือ กดเข้าเว็บที่นี่ เพื่อทำการเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ หลังจากนั้นให้ใส่ ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน และกด เข้าสู่ระบบ (กรอบสีแดง)
2. เมื่อท่านเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะเข้าไปเล่นเกม บาคาร่าออนไลน์ (Baccarat ) ให้ท่านกดเข้าไปที่คำว่า คาสิโนสด (กรอบสีแดง) ตรงแถบเมนูสีน้ำเงินด้านบนครับ
3. เมื่อเข้าสู่หมวดเกมคาสิโนสดเรียบร้อยแล้ว ท่านจะเห็นว่าในเว็บ NEXT88 จะมีอยู่ 4 แบรนด์ให้ท่านได้เลือกเล่น คือ PLAYTECH LIVE , AE CASINO , CLUB GPI และ MicroGaming LIVE ท่านจะเลือกแบรนด์ไหนก็ได้ครับตามที่ต้องการ สำหรับวันนี้ผมจะขอยกตัวอย่างจากแบรนด์ PLAYTECH LIVE (กรอบสีแดง) มาให้ดูกันครับ
4. เมื่อเข้าสู่แบรนด์ PLAYTECH LIVE เรียบร้อยแล้ว ท่านจะเห็นว่ามีเกมคาสิโนออนไลน์ให้ท่านได้เลือกเดิมพันหลากหลายเกม เพื่อเข้าเล่นเกมบาคาร่าให้ท่านคลิกที่คำว่า BACCARAT (กรอบสีแดง) และคลิ๊กที่ห้องเดิมพันด้านล่าง เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถเข้าเล่นเดิมพันเกมบาคาร่าออนไลน์ได้แล้วครับ
ทิ้งท้ายบทความ บาคาร่า ออนไลน์ คืออะไร
ก็จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับบทความอธิบายวิธีเล่นเดิมพันเกมบาคาร่าออนไลน์ ที่ผมได้เขียนไว้สำหรับท่านใดที่เป็นมือใหม่ผมขอแนะนำให้ท่านศึกษาข้อมูลต่างๆ ก่อนเข้าเล่นอย่างละเอียด เพื่อผลประโยชน์ของตัวท่านเอง เพราะถึงแม้เกมบาคาร่าออนไลน์จะดูเล่นง่ายๆ แต่มันก็เป็นเกมที่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจของตัวผู้เล่นเองอยู่พอสมควรครับ
และเมื่อทุกท่านได้ทราบกฎกติกาเกมบาคาร่าออนไลน์แล้ว ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเล่นดีไหม หรือจะเล่นกับเว็บไหนดี ลองมาศึกษารายละเอียดกันดูก่อนนะครับ แล้วค่อยๆ ไปลองเล่นกันดู รับรองว่าการเล่นพนันออนไลน์ของคุณจะมีสีสัน และความสนุกเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ
หากชอบบทความของเรากดเพิ่ม LINE Stakehowเอาไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน พร้อม กดกระดิ่งด้านขวา ล่างของหน้าจอ เพื่อแจ้งเตือนบทความใหม่ๆ จากทางเราได้ครับ สำหรับบทความนี้ผมขอจบเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่ติดตาม Stakehow นะครับ สำหรับวันนี้ผมขอตัวลาไปก่อนไว้พบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ