สวัสดีครับท่านผู้ติดตาม Stakehow ทุกคน บทความนี้ผมจะมา สอนเล่น บาคาร่า ซึ่งเป็นเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนสามารถครองอันดับ 1 ของเกมคาสิโนในทุกเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งบทความนี้ผมจะมาสอนวิธีการเล่นตั้งแต่วิธีการนับแต้มไพ่ กติกาการเรียกไพ่ใบที่สาม รวมถึงรายละเอียดในการเดิมพันและอัตราการจ่ายเงินรางวัลในเนื้อหาด้านล่างนี้ด้วย ไปดูกันเลย
สอนเล่น บาคาร่า
ก่อนการเล่นบาคาร่าออนไลน์นั้น เราจะต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐานของเกมบาคาร่า ซึ่งจะมีให้เลือกเดิมพันได้ คือ เดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player) ฝั่งเจ้ามือ (Banker) และเสมอ ในการแจกไพ่แต่ละฝั่งจะได้ไพ่อย่างน้อย 2 ใบ (สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้อีก 1 ใบ ตามกฎที่กำหนดไว้) จากนั้นนำแต้มมารวมกันเพื่อให้ได้แต้มที่ใกล้เคียง 9 มากที่สุด
การเล่นจะคล้ายกับไพ่ป๊อกเด้งที่เรารู้จักกันดี แต่จะแตกต่างกันที่เราไม่ต้องลุ้นไพ่ เรียกไพ่เอง แต่เกมจะให้เราเลือกเดิมพันว่าฝั่งไหนที่จะชนะ ถ้าทายถูกก็ได้เงินรางวัล โดยท่านไม่ต้องคิดอะไรมาก เพียงแค่เลือกว่าฝั่งไหนจะมีแต้มรวมมากกว่ากันเท่านั้นเอง
วิธีการนับแต้มไพ่
การนับแต้ม ไพ่ที่เป็นตัวเลข 2 ถึง 9 ให้นับตามจำนวนตัวเลขหน้าไพ่ ไพ่หน้าตัวอักษร A (เอช) จะมีแต้มเท่ากับ 1 เเต้ม และไพ่ที่มีหน้าเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ J Q K รวมถึงไพ่แต้มเลข 10 จะมีแต้มเท่ากับ 0 แต้ม
ส่วนวิธีการนับแต้มไพ่ เมื่อรวมแต้มทุกใบแล้ว หากได้แต้มเป็นจำนวนเลขสองหลัก ให้นับเฉพาะเลขในหลักหน่วย ตามรูปด้านล่างนี้
กฎการเรียกไพ่ใบที่ 3 ของบาคาร่า
การเรียกไพ่ใบที่ 3 ของเจ้ามือ จะเป็นไปตามกฎที่ถูกกำหนดไว้ หากท่านใดสงสัยว่าทำไมดีลเลอร์ต้องทำการเรียกไพ่เพิ่มด้วยทั้งที่ฝั่งตรงข้ามมีแต้มน้อยกว่า ท่านสามารถศึกษาข้อมูลกฎการเรียกไพ่ใบที่ 3 ได้ ดังนี้
กฎการเรียกไพ่ฝั่ง Player
- หากไพ่ 2 ใบแรกของ Player มีแต้มรวมกัน 0, 1, 2, 3, 4 หรือ 5 แต้ม จะต้องทำการเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่มทันที
- ถ้าไพ่ 2 ใบแรกของ Player มีแต้มรวมกัน 6 หรือ 7 แต้ม ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม
- เมื่อไพ่ 2 ใบแรกของ Player มีแต้มรวมกัน 8 หรือ 9 แต้ม เรียกว่า ป๊อก หรือแนชเชอรัล จะทำให้เกมนี้จะจบลงทันที โดยไม่มีสิทธิ์เรียกไพ่ใบที่ 3 ทั้ง 2 ฝั่ง
กฎการเรียกไพ่ฝั่ง Banker
- หากไพ่ 2 ใบแรกของ Banker มีแต้มรวมกัน 0 , 1 , 2 , 3 , 4 หรือ 5 แต้ม จะต้องทำการเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม แต่ต้องดูก่อนว่าถ้าหากฝั่ง Player ทำการเรียกไพ่ใบที่ 3 มาแล้ว ไพ่ใบที่ 3 ของทางฝั่ง Player นั้นเป็นเลขอะไร ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินว่า ทางฝั่ง Banker จะสามารถเรียกไพ่ใบที่ 3 ได้หรือไม่
- ถ้าไพ่ 2 ใบแรกของ Banker มีแต้มรวมกัน 6 หรือ 7 แต้ม ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3
- เมื่อไพ่ 2 ใบแรกของ Banker มีแต้มรวมกัน 8 หรือ 9 แต้ม ซึ่งเรียกว่า แนชเชอรัล เกมส์จะจบทันที ไม่สามารถเรียกไพ่ใบที่ 3 ได้ทั้ง 2 ฝั่ง
กฎพิเศษในการเรียกไพ่
ในการเรียกไพ่ใบที่ 3 ของฝั่ง Player นั้นจะเป็นตัวกำหนดการเรียกไพ่ของฝั่ง Banker ว่าสามารถเรียกไพ่ใบที่ 3 ได้หรือไม่ ดังนี้
- ในกรณีที่ฝั่ง Banker ได้ไพ่ 2 ใบแรก รวมกัน 3 แต้ม และทางฝั่ง Player มีการเรียกไพ่ใบที่ 3 แล้วได้ไพ่เลข 8 เกมจะหยุดทันที แม้ว่าทางฝั่ง Banker จะมี 3 แต้ม ก็ไม่สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้
- กรณีที่ฝั่ง Banker ได้ไพ่ 2 ใบแรก รวมกัน 4 แต้ม และทางฝั่ง Player มีการเรียกไพ่ใบที่ 3 แล้วได้เลข 1 – 8 – 9 – 10 – J – Q – K เกมจะหยุดทันที แม้ว่าทางฝั่ง Banker จะมี 4 แต้ม ก็ไม่สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้
- ในกรณีที่ฝั่ง Banker ได้ไพ่ 2 ใบแรก รวมกัน 5 แต้ม และทางฝั่ง Player มีการเรียกไพ่ใบที่ 3 แล้วได้เลข 1 – 2 – 3 – 8 – 9 – 10 – J – Q – K เกมจะหยุดทันที แม้ว่าทางฝั่ง Banker จะมี 5 แต้ม ก็ไม่สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้
- ในกรณีที่ฝั่ง Banker ได้ไพ่ 2 ใบแรก รวมกัน 6 แต้ม และทางฝั่ง Player มีการเรียกไพ่ใบที่ 3 แล้วได้เลข 1 – 2 – 3 – 4 – 5– 8 – 9 – 10 – J – Q – K เกมจะหยุดทันที ทางฝั่ง Banker จะไม่สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้
การวางเดิมพันและอัตราการจ่าย Next88
ในส่วนของการเล่นบาคาร่าจะมีรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงอัตราการจ่ายเงินรางวัล เราทำการยกตัวอย่างจากเว็บ Next88 เพื่อศึกษาการวางเดิมพันก่อนที่จะเข้าเล่นจริง ดังนี้ (ดูรูปประกอบพร้อมคำอธิบายด้านล่าง)
กรอบสีชมพู
1. เพลเยอร์ จะเเบ่งออกเป็น 4 เงื่อนไข ก็คือ
- เพลเยอร์ออกคู่ คือ ไพ่ 2 ใบแรกทางฝั่งเพลเยอร์ต้องออกไพ่หน้าเดียวกัน อัตราการจ่าย 11 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 1100 บาท
- เพลเยอร์ คือ ไพ่ฝั่งเพลเยอร์รวมแต้มแล้วต้องชนะฝั่งเจ้ามือ อัตราการจ่าย 1 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 100 บาท
- เพลเยอร์ ป๊อก 8 คือ ไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งเพลเยอร์จะต้องรวมแล้วได้ 8 แต้ม อัตราการจ่าย 8 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 800 บาท
- เพลเยอร์ ป๊อก 9 คือ ไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งเพลเยอร์จะต้องรวมแล้วได้ 9 แต้ม อัตราการจ่าย 8 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 800 บาท
2. ใหญ่ คือ จะต้องมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 ฝั่งไหนก็ได้ อัตราการจ่าย 0.5 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 50 บาท
กรอบสีเขียว
1. เสมอ คือ ไพ่ทั้ง 2 ฝั่ง จะต้องมีแต้มรวมแล้วเท่ากัน อัตราการจ่าย 8 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 800 บาท
2. ซุปเปอร์ 6+ คือ ฝั่งแบงค์เกอร์จะต้องชนะโดยมีไพ่เลข 6 อย่างน้อย 2 ใบ
- แบงค์เกอร์ชนะได้ไพ่เลข 6 จำนวน 2 ใบ อัตราการจ่าย 12 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 1200 บาท
- แบงค์เกอร์ชนะได้ไพ่เลข 6 จำนวน 3 ใบ อัตราการจ่าย 18 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 1800 บาท
กรอบสีส้ม
1. แบงค์เกอร์ จะเเบ่งออกเป็น 4 เงื่อนไข ก็คือ
- แบงค์เกอร์ออกคู่ คือ ไพ่ 2 ใบแรกทางฝั่งแบงค์เกอร์ต้องออกไพ่หน้าเดียวกัน อัตราการจ่าย 11 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 1100 บาท
- แบงค์เกอร์ คือ ไพ่ฝั่งแบงค์เกอร์รวมแต้มแล้วต้องชนะ อัตราการจ่าย 0.5 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 95 บาท
- แบงค์เกอร์ ป๊อก 8 คือ ไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งแบงค์เกอร์จะต้องรวมแล้วได้ 8 แต้ม อัตราการจ่าย 8 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 800 บาท
- แบงค์เกอร์ ป๊อก 9 คือ ไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งแบงค์เกอร์จะต้องรวมแล้วได้ 9 แต้ม อัตราการจ่าย 8 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 800 บาท
2. เล็ก คือ จะต้องไม่มีการเรียกไพ่ใบที่ 3 ของทั้ง 2 ฝั่ง อัตราการจ่าย 1.5 : 1 แทง 100 บาท จ่าย 150 บาท
ทิ้งท้าย สอนเล่น บาคาร่า แนะนำขั้นตอนการเล่นสำหรับมือใหม่
จบลงไปแล้วครับ สำหรับ สอนเล่น บาคาร่า แนะนำขั้นตอนการเล่นสำหรับมือใหม่ เมื่อคุณอ่านจบแล้ว ผมมั่นใจเลยว่าคุณจะเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการนับแต้ม กฎการเรียกไพ่ การวางเดิมพันและอัตราการจ่ายเงินรางวัล เมื่อเข้าใจแล้วก็สามารถสร้างรายได้จากเกมบาคาร่าได้อย่างแน่นอน แต่การลงทุนทุกครั้งมีความเสี่ยง แนะนำให้เล่นอย่างมีสตินะครับ
หากชอบบทความของเรากดเพิ่ม LINE Stakehowเอาไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน พร้อม กดกระดิ่งด้านขวา ล่างของหน้าจอ เพื่อแจ้งเตือนบทความใหม่ๆ จากทางเราได้ครับ สำหรับบทความนี้ผมขอจบเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่ติดตาม Stakehow พบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ