สูตรบาคาร่า แพ็คเก็ต ดีที่สุด 2019-2020 ใช้กันยาวๆ เล่นกันได้ทั้งวันทั้งคืน

สวัสดีครับทุกคน ถ้าพูดถึง สูตรบาคาร่า นั้นไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่าเป็นสูตรที่ดีที่สุด และสามารถใช้งานได้ผลร้อยเปอร์เซ็น แต่สูตรที่ผมจะนำมาบอกให้ทุกคนได้รู้ได้ทราบกันนี้ ผมยืนยันได้เลยว่า คุณจะสามารถนั่งเล่นบาคาร่าได้ทั่งวันโดยไม่มีความเสี่ยงแต่อย่างไร โดยการใช้สูตรแบบที่เรียกว่า แพ็คเก็ต คือ จะมีหลายสูตรรวมกันอยู่ เน้นไปที่หารูปแบบที่พบบ่อยและแทงตามกฎของรูปแบบนั้น ไม่ยากเดี๋ยวมาดูกันเลย

หรือถ้าใครสนใจสูตรบาคาร่าอื่นๆ เพิ่มเติมก็สามารถ คลิก เข้าไปดูที่ห้องสมุด Stakehow ของเราได้เลยนะครับ และถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปดูสูตรนี้กันต่อได้เลยครับ

 

รวม 4 สูตรบาคาร่า ที่ดีที่สุด 2019

ขอแสดงความยินดีทุกคนด้วยนะครับ ที่ได้มาเรียนรู้หนึ่งในสูตรที่ผมคิดว่าดีที่สุด สำหรับการเล่นบาคาร่าโดยใช้เดิมพันแบบคงที่เท่านั้น ไม่ต้องใช้การเดินเงินแบบทบเลย เดินเงินเพียงแค่คงที่ไปเรื่อยๆ สูตรนี้จะช่วยให้ทุกคนเล่นได้นานหลายชั่วโมงเท่าที่คุณต้องการได้เลยครับ เพราะไม่เสี่ยงกับการเสียเงินจำนวนมาก

เมื่อผลกำไรของทุกคนเพิ่มขึ้น ทุกคนจะต้องอย่าลืมตั้งเป้าของตัวคุณเองว่าจะหยุดเล่น เมื่อได้กำไรแล้วที่ 10 หน่วย หรือจุดที่ทุกคนคิดว่าคุ้มค่าแล้วในแต่ละวัน บางครั้งคุณก็อาจเสียในการเดิมพันบ้างเล็กน้อย แต่ด้วยสูตรๆนี้ให้มั่นใจได้เลยว่า ท้ายที่สุดแล้วคุณก็จะต้องกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้งอย่างแน่นอนครับ

สำหรับในการเล่นบาคาร่า ด้วยสูตรนี้ ค่อนข้างยืดหยุ่นครับ เนื่องจากทุกคนจะเดิมพันได้ในทุกขอนไพ่บาคาร่าเลยก็ว่าได้ โดยไม่ต้องรอจังหวะอะไร ทุกคนสามารถเข้าห้องบาคาร่า ไปดูเค้าไพ่ให้เข้ากับสูตร  เพียงเท่านี้ก็สามารถตัดสินใจวางเดิมพันต่อไปได้เลยแบบยาวๆ เดิมพันได้บ่อยครั้งถี่ ๆ ตามต้องการ เหมาะกับผู้ที่ชอบเล่นเรื่อยๆ ไม่ชอบหยุดรอนานๆ

เริ่มอยากรู้จักสูตรกันหรือยังครับ  ถ้าอยากรู้แล้วอ่านกันต่อไปได้เลย

 

รู้จักกับรูปแบบเค้าไพ่ แพ็คเก็ต

อย่างที่ทุกคน ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่า ในหนึ่งขอนไพ่บาคาร่านั้น มีไพ่อยู่ถึง 8 สำรับ และเราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าไพ่แต่ละแต้มจะสับกันอยู่อย่างไร และจะออกผลมาเป็นรูปแบบใด แต่ด้วยสูตรที่ผมกำลังจะบอกนี้ จะสามารถเอาชนะ ครอบคลุมรูปแบบที่จะเกิดขึ้นบ่อยที่สุดได้ ทำให้สูตรนี้เรียกได้ว่า มีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ผมพอใจเลยทีเดียว

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักวิธีการดูไพ่กันก่อน  โดยเราจะดูเค้าไพ่ล่าสุด  2, 3 หรือ 4 ตา สุดท้าย จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปครับ 4 แบบด้วยกัน เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้ดู ต่อไป ตามตัวอย่างข้างล่างนี้ ทุกคนจะต้องเข้าใจ ก่อนที่จะเริ่มไปเดิมพันจริง ด้วยจำนวนเงินแบบคงที่ตามที่ผมได้ว่าเอาไว้

ในที่นี้ ผมจะใช้ตัวย่อแทนฝั่งผู้เล่นว่า P และใช้ตัวย่อแทนฝั่งเจ้ามือว่า B

1. ถ้าการออกไพ่ 2 ครั้งสุดท้ายเป็น BB หรือ PP ผมจะเรียกรูปแบบนี้ว่า “ออกติด”

   

2. ถ้าการออกไพ่ 3 ครั้งสุดท้าย สลับกันออกเป็น BPB หรือ PBP ผมจะเรียกรูปแบบนี้ว่า “ออกสลับ”

   

3. และถ้าการออกไพ่ 3 ครั้งสุดท้าย เป็น PPB และ BBP เราจะเรียกว่า “2-1”

   

4. และรูปแบบสุดท้ายที่สูตรนี้ จะพิจารณาคือ รูปแบบ 2-2-2 โดยจะดูจากเค้าไพ่ที่ออกแบบ ออกสลับทีละสอง เช่น ที่ออกมาเป็นแบบ PPBB หรือ BBPP หรือ PBBP หรือ BPPB ดูแล้วให้เข้าใจว่า 4 ไพ่ล่าสุดมี P และ B อย่างละ 2 เท่ากัน แบบนี้ล่ะเรียกรูปแบบ 2-2-2

   

เมื่อรู้จักชื่อของรูปแบบทั้ง 4 แล้ว ก็ไปดูที่หัวข้อถัดไป  ว่า จะใช้งานมันได้ยังไง

 

การนำ สูตรบาคาร่า ไปใช้

การเดิมพัน 2 ครั้งแรกของห้อง

หลังจากที่เราทำการเลือกห้องบาคาร่า และได้เข้ามาที่ห้องบาคาร่าแล้วนั้น ตั้งแต่เริ่มตาแรกเลย แบบยังไม่มีการออกไพ่ ให้รอไพ่ออกผลในตาที่หนึ่งก่อน หลังจากนั้น เมื่อออกผลแล้ว  ในตาต่อไป ตาที่สอง ให้แทงตามได้เลย เช่น ถ้าตาที่ 1 ออก P ก็เดิมพันไปที่ P หรือ ถ้าตาที่ 1 ออก B ก็เดิมพันไปที่ B

หลังจากผ่านไปแล้ว 2 ตา เราจะเดิมพันในตาที่ 3 เป็นตาที่เราจะเริ่มเดิมพันอย่างจริงจังโดยใช้สูตรบาคาร่า เพื่อตัดสินใจ  โดยคุณจะต้องพิจารณารูปแบบที่ผมเคยพูดผ่านไปแล้วข้างต้นร่วมด้วย

 

การเดิมพันในตาที่ 3 เป็นต้นไป

1. พิจารณาการออกไพ่ 2 ครั้งล่าสุด เป็น PP หรือ BB เราจะต้องนำรูปแบบ “ออกติด” มาพิจารณาใช้ และการวางเดิมพันจะต้องวางเดิมพันตามฝั่งที่ชนะครั้งสุดท้าย คือถ้ามันเป็น B ก็ให้วางเดิมพันที่ B หรือถ้ามันเป็น P ก็ให้วางเดิมพันที่ P ต่อได้เลย

2. พิจารณาการออกไพ่ 3 ครั้งล่าสุด เป็น PBP หรือ BPB เราจะพิจารณาตามรูแบบ “ออกสลับ” และการเดิมพันครั้งต่อไป จะตรงกันข้ามกับการออกของไพ่ครั้งสุดท้าย คือถ้าตาสุดท้ายมันเป็น B เราก็จะเดิมพันที่ P หรือถ้ามันเป็น P เราก็จะเดิมพันที่ B ได้เลย

3. พิจารณาออกไพ่ 3 ครั้งสุดท้าย (อีกรูปแบบหนึ่ง) เป็น PPB หรือ BBP เราจะต้องพิจารณาตามรูปแบบ “2-1” และการเดิมพันครั้งต่อไป จะต้องวางเดิมพันให้ตรงข้ามกับไพ่ฝั่งที่ออกสุดท้ายด้วย คือ ถ้าสุดท้ายมันออกเป็น B ก็ให้วางเดิมพันที่ P หรือถ้ามันเป็น P ก็ให้วางเดิมพันที่ B ได้เลย

4. พิจารณาการออกไพ่ 4 ครั้งล่าสุด ถ้าเค้าไพ่ 4 ครั้งล่าสุด เป็น รูปแบบ 2-2-2  เช่น PPBB หรือ BBPP ฯลฯ แบบนี้ให้เราพิจารณาใช้ สูตรบาคาร่า รูปแบบ 2-2-2 ถึงแม้ว่ารูปแบบ PPBB นี้ที่ 2 ครั้งล่าสุดจะดูคล้ายกับรูปแบบ “ออกติด” แต่ในการวางเดิมพันจะให้เราวางเดิมพันไปที่ฝั่งตรงข้ามกับ ที่รูปแบบ ออกติด, ออกสลับ, 2-1 แนะนำ

เช่น ถ้า 4 ครั้งสุดท้าย ออก PPBB เป็น 2-2-2 และ ดูที่ 2 ตาล่าสุดเป็น BB ออกติด แสดงว่า เป็นรูปแบบออกติด แนะนำให้แทงคือ B แต่เราจะแทงตรงข้าม คือแทง P เพราะรูปแบบ 2-2-2 บอกเอาไว้นั่นเองให้แทงตรงข้ามกับที่ ออกติด แนะนำ

การเดิมพันอาจจะมีได้ มีเสีย ไม่ว่าจะมีผลลัพธ์แบบใด หากเกมยังคงต้องเดินต่อไป เรายังคงเล่นต่อ แนะนำให้พิจารณาดูเค้าไพ่ ว่าไพ่ล่าสุดนั้นเป็นรูปแบบ ออกติด, ออกสลับ หรือ 2-1 แล้วใช่รูปแบบนั้น เดิมพันต่อไปเรื่อยๆ

จะสังเกตว่า วิธีการของสูตรนี้ จะอิง การแทงตาม pattern หรือรูปแบบที่ออกบ่อยเท่านั้น ไม่ได้อาศัยการเดินเงินใดๆ ให้ทุกคนแทง ด้วยจำนวนเงินเดิมพัน ที่คงที่เสมอนะครับ  เดี๋ยวในหัวข้อถัดไป ผมจะลองนำวิธีการเหล่านี้ไปลองใช้จริงกันดู ด้วยการเล่น 125 ตา  อ่านต่อไปกันครับ

 

 

การนำ สูตรบาคาร่า ไปใช้ 125 ตา

ทำความเข้าใจความหมายตาราง

ตารางที่ ด้านล่างนี้  ผมจะจำลองการเดิมพัน 125 ครั้ง โดยได้นำผลการออกจากเค้าไพ่จากห้องบาคาร่าจริงๆ และแสดงวิธีการตรวจหารูปแบบที่บอกไว้ข้างต้น เมื่อเจอแล้วก็จะวางเงินเดิมพันครั้งต่อไปตามลำดับ

ความหมาย ของคำในตาราง

คอลัมน์ที่ 1 คือ หมายเลขลำดับหรือหมายเลขของการเดิมพัน

คอลัมน์ที่ 2 แสดงการออกของไพ่ไม่ว่าจะเป็น Player หรือ Banker โดยที่ ถ้าผลมันออก Tie หรือเสมอ จะไม่ถูกนำมาคิด ให้คิดซะว่าไม่เคยมีผลเกิดขึ้น เพราะอะไรน่ะเหรอ ถ้าเราแทงไปที่ Player หรือ Banker เวลาผลมันออก Tie เสมอ โต๊ะจะคืนเงินให้เรานั่นเอง เราก็ไม่ได้เสีย หรือได้อะไร ดังนั้น ผลเสมอ เราจะมองข้ามไปเลย  เราจะมองผลล่าสุดแค่ผลการออกล่าสุด 2, 3 หรือ 4 ครั้งล่าสุดเท่านั้น ที่ไม่นับ Tie

ในการจำลองการเล่นในตาราง  เป็นไปตามอัตราต่อรองที่แท้จริงในคาสิโน ภายใน 10,000 ครั้ง ฝั่งผู้เล่นจะชนะ 4,462 ครั้ง ฝั้งเจ่ามือจะชนะ 4,586 ครั้ง และฝั่งเสมอมีอยู่ 952 ครั้ง แน่นอนว่ามันเป็นค่าเฉลี่ยทางสถิติเท่านั้น

คอลัมน์ที่ 3  คือรูปแบบที่ตรวจพบซึ่งขึ้นอยู่กับการออกของไพ่ 2 และ 3 ครั้งล่าสุด นั่นคือ ออกติด, ออกสลับ และ 2-1  ส่วนรูปแบบ 2-2-2 จะขอแยกใช้อีกคอลัมน์หนึ่ง (คอลัมน์ที่ 4) เพื่อแสดงว่าตอนนี้เราพบ 2-2-2 แล้ว โดยถ้าพบทั้งรูปแบบ 2-2-2 พร้อมกับ (ออกติด หรือ ออกสลับ หรือ 2-1) เราจะแทงตามรูปแบบ 2-2-2 ทันที ซึ่งก็คือ เราจะแทงตรงข้ามกับที่ รูปแบบปกติทั้งสามนั้นแนะนำ

ตัวอย่าง เวลาแทงให้คุณแทงตามกฎ ของรูปแบบ ออกติด, ออกสลับ และออก 2-1 ไปเรื่อยๆ ถ้าพบว่ามัน ออกติด  ให้แทงย้ำซ้ำกับตัวสุดท้าย  แต่ถ้า ออกสลับ ให้เราแทงตรงข้ามกับตัวสุดท้ายล่าสุด หรือ ถ้า ออก 2-1 ให้เราเดิมพันตรงข้ามกับตัวสุดท้าย ระหว่างการตรวจหารูปแบบทั้งสามนี้  ให้เรามองที่ไพ่ 4 ตัวสุดท้ายร่วมด้วยเสมอ

ถ้ามันออก 4 ตาล่าสุด มาเป็น PPBB อย่างนี้ (รูปแบบ 2-2-2)  เราจะพิจารณาได้ว่า 2 ตาล่าสุดคือ BB เป็นการออกติด ปกติต้องแทง B แต่เนื่องจาก 4 ตาล่าสุดเป็น PPBB ด้วย (2-2-2) ซึ่งเราจำเป็นต้องแทงตรงข้ามกับ B ก็คือแทง P นั่นเอง ผมมีตัวอย่างแสดงในตารางข้างล่าง ในลำดับที่ 12 ถึง 16 (เลื่อนๆลงไปดู)

(ไฮไลท์สำคัญ ในตาราง) ในลำดับที่ 15 เราสังเกตว่าการออกไพ่ 2 ครั้งสุดท้าย คือ B และ B ในลำดับที่ 14 และ 15 ตามลำดับ  นั่นเป็นสาเหตุที่คอลัมน์รูปแบบที่ตรวจพบระบุถึง ออกติด อย่างไรก็ตามเมื่อเราดูการออกของไพ่ 4 ครั้งสุดท้าย ร่วมด้วย คือ ตั้งแต่ลำดับที่ 12-15 เราจะเห็นการการออกไพ่เป็น PP BB ซึ่งก็คือรูปแบบ 2-2-2 ตามลำดับ แสดงว่าตาต่อไปนี้ (16-17) ต้องทำตามรูปแบบ 2-2-2 ให้เดิมพัน P แทน จำนวน 2 ครั้ง

มีอีกวิธีการหนึ่ง คือ ถ้า 4 ตาล่าสุด เราพบรูปแบบ 2-2-2 ในตาต่อไปเราสามารถหยุดเล่นได้ ไม่ต้องแทง รอจนกว่ารูปแบบ 2-2-2 จะหมดไป หายไป ค่อยกลับมาแทงใหม่  เพราะบางครั้งมันจะเกิดรูปแบบ 2-2-2 ออกนาน สลับสองไปเรื่อยๆ เช่น PPBBPPBB..  มันอาจจะทำให้เราเสียได้ง่าย

ให้แทงตามปกติ ตามกฎของ ออกติด ออกสลับ และ 2-1 แต่ถ้า 4 ตาล่าสุด เป็น 2-2-2 ให้เราแทงตรงข้ามกับที่ กฎออกติด ออกสลับ และ 2-1 แนะนำ หรือ ถ้าเจอ 2-2-2 ไม่ต้องแทงตรงข้าม แต่ให้หยุดเล่นไปเลย รอจน 2-2-2 หายไปก่อน ค่อยเล่นใหม่  2-2-2 ก็มีอยู่ 4 แบบ เช่น PPBB, PBBP, BBPP, BPPB

 

คอลัมน์การวางเดิมพันตามสูตร P/B ใช้บอกว่าในตาถัดไปนั้นเราแทงอะไร Player / Banker

คอลัมน์ L/W ก็เอาไว้ใช้บอกว่า การตัดสินใจแทงลงไปนั้น ถูก หรือผิด ชนะหรือแพ้

คอลัมน์เงินเดิมพัน ผมใช้คงที่ อยู่ที่ 100 บาท ตรงเงินเดิมพันนี้สามารถปรับแต่งได้เอง  แล้วแต่ทุนของคุณเลยครับ

คอลัมน์เงินสด ใช้บอกกำไรที่ได้ หรือขาดทุนไปเท่าไร  ถ้าแทงแพ้ ก็เสีย 100 บาท  ถ้าชนะฝั่ง P ก็จะได้ 100 บาท ส่วนถ้าชนะฝั่ง B ก็จะได้ 95 บาท

คอลัมน์ยอดรวม ใช้ดูว่า เราได้กำไรอยู่หรือขาดทุน เป็นกำไรสะสม  ถ้าขาดทุนจะแสดงด้วยเครื่องหมายลบ

 

ตาราง แสดงการเล่นใช้ สูตรบาคาร่า นี้

คำอธิบายตาราง

เมื่อคุณเลือกเข้าห้องบาคาร่าในคาสิโนออนไลน์ได้แล้วนั้น ดูที่การออกไพ่ครั้งล่าสุด คือ B ซึ่งเป็นลำดับที่ 1 ในตารางนี้ จากนั้นก็เริ่มทำการวางเดิมพันที่ B จำนวน 100 บาท ในลำดับที่ 2 เมื่อชนะที่ฝั่งเจ้ามือก็จะได้กำไร 95 บาท อีก 5 บาท ระบบจำหักเป็นค่าคอมมิสชั่น และจากนั้นเราก็จะเริ่มพิจารณารูปแบบ แพ็คเก็ต ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในทุกครั้งที่มีการเปิดไพ่ และไม่ว่าเราจะชนะ หรือแพ้ติดกันกี่ครั้งก็ตาม

หากเราวางเดิมพันตาม สูตรบาคาร่า ทั้ง 4 แบบ ไปเรื่อยๆ ในที่สุดแล้วเราก็จะได้เงินทุนและกำไรกลับคืนมาอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญในการใช้สูตรเหล่านี้ก็คือ

1. เมื่อเราเห็นว่าเค้าไพ่ 2 ครั้งสุดท้ายออก BB ติด 2 มาแล้ว 2 ครั้ง อย่างในลำดับที่ 2 และ 3 ตามเงื่อนของรูปแบบ “ออกติด” เราจะต้องวางเดิมพันที่ฝั่งเจ้ามือ B ต่อได้เลย
2. ถ้าเห็นว่าเค้าไพ่ 3 ครั้งสุดท้ายออก BBP ติด 2 สลับ 1 รวมเป็น 3 ครั้ง อย่างในลำดับ 2, 3 และ 4 ตามเงื่อนไขของรูปแบบ “2-1” ตาต่อไปเราต้องวางเดิมพันที่ B ฝั่งเจ้ามือได้เลย
3. เมื่อเราเห็นว่าเค้าไพ่ 3 ครั้งสุดท้ายออกสลับกัน แบบปิงปอง คือ BPB อย่างในลำดับที่ 6, 7 และ 8 ตามเงื่อนไขของรูปแบบ “ออกสลับ” ตาต่อไปให้เราวางเดิมพันไปที่ฝั่งตรงข้าม ฝั่งที่ชนะครั้งสุดท้ายได้เลย
4. และในขณะเดียวกันทุกตา เราจะต้องพิจารณารูปแบบ “2-2-2” ไปด้วย  ถ้าเราเห็นเค้าไพ่ 4 ครั้งล่าสุด เป็นรูปแบบ PPBB หรือ BBPP หรือ PBBP หรือ BPPB อย่างในลำดับที่ 12, 13, 14 และ 15 มันเรียงกันเป็น PPBB ตามเงื่อนไขของรูปแบบ “2-2-2” ถ้าเค้าไพ่ออกมาแบบนี้ ที่ 2 ตาล่าสุด ออกติด BB ปกติเราจะแทง B แต่ในเมื่อมี รูปแบบ 2-2-2 ปรากฎเราจะแทงตรงข้าม โดยวางเดิมพันไปที่ P นั่นเอง จะไม่วางเดิมพันเหมือนกับที่รูปแบบ “ออกติด” แนะนำ

ทุกคนสามารถไล่ดูตารางได้เลย ถึงเงื่อนไขของการใช้สูตรทั้ง 4 สูตรนี้ เพราะจากที่ผมได้ทดสอบและใช้งานสูตรนี้มาเป็นเวลานาน บอกได้คำเดียวเลยว่าครบเครื่องมาก ส่วนใหญ่แล้วเราจะไม่ค่อยพบ รูปแบบที่แตกต่างจาก 4 สูตรนี้อย่างแน่นอน

 

สูตรเดินเงินคงที่

สำหรับการใช้ สูตรบาคาร่า นี้ สามารถใช้สูตรเดินเงินคงที่ได้เลย ควรใช้เงินทุนเริ่มต้นอย่างต่ำที่ 10 หน่วย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด คือต้องมีเงินทุนที่ 100 หน่วย ถ้าเดิมพันครั้งละ 100 บาท ก็ควรมีเงินทุนน้อยที่สุดเริ่มต้นที่ 1,000 บาท เพราะจากตารางจะเห็นว่าโอกาสที่จะแพ้ติดกัน 5-6 ครั้งก็ยังมีอยู่

แต่ก็ไม่ควรทำการทบเงินเดิมพันโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้คุณเสียเงินก้อนใหญ่ได้ง่าย และเมื่อเสียเงินก้อนใหญ่ไปแล้วการที่จะตามเงินคืนก็จะทำได้ยากมากยิ่งขึ้นด้วย

ถึงสูตรนี้จะสามารถใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายๆ ชั่วโมงได้ก็จริง แต่การที่เรามีการตั้งเป้าหมาย คือกำหนดจุดได้เสียไว้นั้น ก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเดิมพันในคาสิโนออนไลน์ เพราะตามหลักของกฏทองคำคาสิโนแล้ว ระยะยาวคาสิโนจะชนะเสมอ  ระยะสั้นๆ เราได้ต้องรีบถอย

ผมมีสูตรเดินเงินดีๆ อีกเพียบ และสูตรบาคาร่าดีๆแบบนี้ ที่ผมจัดเกรดให้อยู่ในกลุ่มพรีเมียม ที่สำคัญให้อ่านได้ฟรีๆ เข้าดูได้ที่นี่  คลิ๊ก  ทำไมถึง สูตรนี้เป็นสูตรแบบพรีเมียมฟรี ก็เพราะผมทดสอบและกว่าจะเขียนออกมาได้ ใช้เวลาค่อนข้างนาน เป็นสูตรที่ดีสูตรหนึ่งที่ให้ทุกคนได้อ่านฟรีๆครับ

 

ทิ้งท้าย

เป็นไงกันบ้างทุกคน กับ สูตรบาคาร่า ที่ดีที่สุด 2019 – 2020 ที่ผมได้นำเสนอไปนั้น จากที่ผมใช้สูตรทั้ง 4 แพ็คเก็ต นี้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง ถึงเราจะวางเดิมพันแค่หนึ่งหน่วย แต่สุดท้ายแล้วสูตรก็ยังทำเงินได้เป็นอย่างดีอยู่ ถ้าใครมีข้อสงสัยในการใช้สูตรทั้งหมดนี้ก็สามารถแอดไลน์ทักเข้ามาสอบถามกันได้เลยนะครับ สำหรับบทความนี้ ผมก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้

พบกันใหม่ในบทความหน้า ถ้าอยากได้ความรู้เพิ่มเติม เข้าไปอ่านได้ที่ Stakehow คือแหล่งรวมรีวิวที่ดีที่สุดละเอียดที่สุดในประเทศไทย ครบทุกเรื่องเกี่ยวกับคาสิโน ถ้าคุณชอบบทความดีๆ แบบนี้ กดเพิ่ม Line Stakehow เอาไว้ พร้อม กดกระดิ่งด้านขวา ล่างของหน้าจอ ด้วยนะครับ เพื่อติดตาม เวลาผมบทความดีๆ ใหม่ๆ ผมจะได้แจ้งคุณได้อย่างทันที