เกมไพ่ บาคาร่า คืออะไรบทความนี้มีคำตอบ

สวัสดีผู้ติดตาม Stakehow ทุกท่านบทความนี้ผมก็จะมาอธิบายเกี่ยวกับเกมยอดนิยมอย่าง เกมไพ่ บาคาร่า คืออะไร โดยในบทความนี้ผมจะอธิบายรายละเอียดทั้งหมด สำหรับท่านใดที่ยังไม่รู้ว่า เกมส์บาคาร่ามีกฎกติกาในการเล่นอย่างไรและรูปแบบการเดิมพันเป็นแบบไหนบ้าง ในเนื้อหาบทความนี้ผมก็จะมาบอกทั้งหมดเรียกได้ว่า อ่านเสร็จแล้วเล่นเป็นอย่างแน่นอน มารับชมกันได้เลย

 

เกมไพ่ บาคาร่า คือ อะไร

เกมส์บาคาร่า หรือที่เรียกอีกอย่างว่า baccarat ถือว่าเป็นเกมส์คาสิโนที่ได้รับความนิยมตลอดกาล เพราะรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างง่าย สามารถเล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย แถมอัตราการจ่ายเงินรางวัลยังสูง ซึ่งจ่ายสูงสุดถึง 220 เท่าเลยทีเดียวครับ ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เกมส์บาคาร่าได้รับความนิยมมาโดยไม่ตลอด

อุปกรณ์ในการเล่นเกมส์บาคาร่าจะใช้ไพ่จำนวน 6-8 สำรับ หรือ 312-416 ใบ ลักษณะการเล่นจะมีความคล้ายกับการเล่นป๊อกเด้ง ในการเล่นจะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเจ้ามือ (banker) , ฝ่ายผู้เล่น (player) ซึ่งแต้มสูงสุดของเกมไพ่บาคาร่าเท่ากับ 9 แต้ม หากฝ่ายไหนมีแต้มเยอะกว่าก็จะชนะไปทันทีครับ

 

กติกาการแจกไพ่

ในการเล่นเกมส์บาคาร่าแต่ละรอบ ดีลเลอร์จะแจกไพ่ให้กับฝ่ายเจ้ามือ (banker) และฝ่ายผู้เล่น (player) ฝ่ายละ 2 ใบ โดยไพ่ใบที่ 1 กับใบที่ 3 จะแจกให้กับฝ่ายผู้เล่น (player) ไพ่ใบที่ 2 กับไพ่ใบที่ 4 จะแจกให้กับฝ่ายเจ้ามือ (banker) หากได้รับไพ่ครบทั้ง 2 ใบแล้ว และแต้มไม่ถึงหรือน้อยกว่า 5 แต้ม จะได้รับไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม ตามเงื่อนไขการรับไพ่เพิ่ม

 

กติกาการนับแต้ม

ในการเล่นเกมส์บาคาร่าหากไพ่ของฝ่ายไหนมี 9 แต้ม หรือมีแต้มที่ใกล้เคียงกับ 9 แต้มมากที่สุด จะเป็นฝ่ายชนะทันที สำหรับวิธีการนับแต้มไพ่บาคาร่ามีวิธีการนับ ดังนี้ครับ

• A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
• 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 และ 9 มีค่าเท่ากับ เลขตามหน้าไพ่
• 10 , J , Q และ K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม

 

กติกาการเรียกไพ่เพิ่ม

กติกาการเรียกไพ่เพิ่มของทั้ง 2 ฝ่าย จะมีกติกาที่ต่างกัน ผมเชื่อว่าในหัวข้อนี้ยังมีหลายคนที่ยังคงสับสนอยู่ ผมเลยจะมาอธิบายอย่างละเอียดเพื่อให้ท่านได้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น โดยกติกาการเรียกไพ่เพิ่มนั้นมีดังนี้ครับ

การเรียกไพ่เพิ่มฝ่ายผู้เล่น (player)

กฎการเรียกไพ่ใบที่สามของฝ่ายผู้เล่น (player)
แต้มรวมของไพ่สองใบแรกของผู้เล่น (player)	การเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม
เมื่อผู้เล่นได้แต้ม 0 , 1  , 2 , 3 , 4 , 5 แต้ม	จะต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม
เมื่อผู้เล่นได้แต้ม 6 , 7 แต้ม	อยู่ ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม
เมื่อผู้เล่นได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้ม	ไพ่ป๊อก ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม และเกมส์เดิมพันจะหยุดทันที

 

การเรียกไพ่เพิ่มฝ่ายเจ้ามือ (banker)

การเรียกไพ่เพิ่มของฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะอิงจากแต้มหรือไพ่ใบที่ 3 ของฝ่ายผู้เล่น (player) ว่าได้ไพ่แต้มอะไร จากนั้นจึงจะพิจารณาว่าจะเรียกไพ่เพิ่มหรือไม่ ดังตารางด้านล่างนี้ครับ

แต้มรวมไพ่สองใบแรกของเจ้ามือ (banker)	กฎการเรียกไพ่ใบที่สามของฝ่ายเจ้ามือ (banker)
	ถ้าไพ่ใบที่สามของผู้เล่นมีแต้มต่อไปนี้ ฝ่ายเจ้ามือจะ ต้อง เรียกไพ่เพิ่ม	ถ้าไพ่ใบที่สามของผู้เล่นมีแต้มต่อไปนี้ ฝ่ายเจ้ามือ ไม่ต้อง เรียกไพ่เพิ่ม
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 3 แต้ม	1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 9 , 0 ฝ่ายเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม	8 เกมส์จะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 4 แต้ม	2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 ฝ่ายเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม	1 , 8 , 9 , 0 เกมส์จะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 5 แต้ม	4 , 5 , 6 , 7 ฝ่ายเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม	1 , 2 , 3 , 8 , 9 , 0 เกมส์จะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 6 แต้ม	6 , 7 ฝ่ายเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม	1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 8 , 9 , 0 เกมส์จะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 7 แต้ม	อยู่ ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม	อยู่ ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้ม	ไพ่ป๊อก ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม และเกมส์เดิมพันจะหยุดทันที	ไพ่ป๊อก ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม และเกมส์เดิมพันจะหยุดทันที

 

กติกาการหักเงิน

ในการเล่นเกมส์บาคาร่าจะมีการหักเงิน 2 รูปแบบด้วยกัน คือ การหักเงิน 5 เปอร์เซ็นต์ , การที่ไม่หักเงินเลย สำหรับการหักเงิน 5 เปอร์เซ็นต์ หรือเรียกว่าค่าต๋ง จะหักก็ต่อเมื่อผู้เล่นลงเดิมพันในฝ่ายเจ้ามือ (banker) และฝ่ายเจ้ามือนั้นเกิดชนะการเดิมพัน ส่วนการไม่หักเลยคือการลงที่ผู้เล่นลงเดิมพันในฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายผู้เล่นชนะการเดิมพันนั่นเองครับ

 

ตำแหน่งการเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงินรางวัล

ตำแหน่งในการวางเดิมพันเกมส์บาคาร่าออนไลน์จะมี 19 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ ตำแหน่งผู้เล่น (player) , ตำแหน่งเจ้ามือ (banker) , ตำแหน่งเสมอ (tie) , ตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น , ตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ , ตำแหน่ง Perfect Pair , ตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ , ตำแหน่งต่ำ , ตำแหน่งสูง , ตำแหน่งหมายเลข 0 , ตำแหน่งหมายเลข 1 , ตำแหน่งหมายเลข 2 , ตำแหน่งหมายเลข 3 , ตำแหน่งหมายเลข 4 , ตำแหน่งหมายเลข 5 , ตำแหน่งหมายเลข 6 , ตำแหน่งหมายเลข 7 , ตำแหน่งหมายเลข 8 และตำแหน่งหมายเลข 9  ดูรูปภาพด้านล่างประกอบได้เลยครับ

 

ตำแหน่งการเดิมพัน

ตำแหน่งลงเดิมพัน	เงื่อนไขการเดิมพัน	ตัวอย่างการลงเดิมพัน
ตำแหน่งผู้เล่น (player)	เป็นการทายว่าแต้มของฝ่ายผู้เล่น (player) จะมีมากกว่าอีกฝ่าย	เมื่อลงเดิมพันฝ่ายผู้เล่น (player) หากไพ่ของฝ่ายผู้เล่นได้แต้ม 7 แต้ม และฝ่ายเจ้ามือได้แต่ 6 แต้ม แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งเจ้ามือ (banker)	เป็นการทายว่าแต้มของฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีมากกว่าอีกฝ่าย	เมื่อลงเดิมพันฝ่ายเจ้ามือ (banker) หากไพ่ของฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 7 แต้ม และฝ่ายผู้เล่นได้แต่ 6 แต้ม แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งเสมอ (tie)	เป็นการทายว่าแต้มของฝ่ายผู้เล่น (player) และแต้มของฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะเท่ากัน	เมื่อลงเดิมพันเสมอ (tie) หากไพ่ของฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 7 แต้ม และฝ่ายผู้เล่นได้แต่ 7 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น	เป็นการทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น (player) จะออกเป็นหน้าเดียวกัน	เมื่อลงเดิมพันไพ่คู่ของผู้เล่น หากไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่นออกมาเป็นไพ่เลข 7 , 7 แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ	เป็นการทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะออกเป็นหน้าเดียวกัน	เมื่อลงเดิมพันไพ่คู่ของเจ้ามือ หากไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือออกมาเป็นไพ่เลข 7 , 7 แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่ง Perfect Pair	เป็นการทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น (player) และของฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะออกเป็นหน้าเดียวกัน	เมื่อลงเดิมพัน Perfect Pair หากไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่นออกมาเป็นไพ่เลข 7 , 7 และไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือออกมาเป็นไพ่เลข 6 , 6 แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้	เป็นการทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น (player) หรือไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะออกเป็นหน้าเดียวกัน	เมื่อลงเดิมพันไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ หากไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น (player) หรือไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ (banker) ออกมาเป็นไพ่เลข 7 , 7 แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งต่ำ	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะไม่มีฝ่ายไหนที่เรียกไพ่เพิ่มเลย	เมื่อลงเดิมพันต่ำ หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) ไม่มีฝ่ายไหนเรียกไพ่เพิ่มเลย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งสูง	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) หรือฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่งที่เรียกไพ่เพิ่ม	เมื่อลงเดิมพันสูง หากฝ่ายผู้เล่น (player) หรือฝ่ายเจ้ามือ (banker) เรียกไพ่เพิ่ม แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน

 

ตำแหน่งการเดิมพันหมายเลข

ตำแหน่งหมายเลข 0	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 0 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 0 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 0 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งหมายเลข 1	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 1 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 1 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 1 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งหมายเลข 2	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 2 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 2 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 2 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งหมายเลข 3	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 3 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 3 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 3 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งหมายเลข 4	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 4 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 4 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 4 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งหมายเลข 5	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 5 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 5 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 5 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งหมายเลข 6	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 6 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 6 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 6 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งหมายเลข 7	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 7 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 7 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 7 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งหมายเลข 8	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 8 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 8 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 8 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน
ตำแหน่งหมายเลข 9	เป็นการทายว่าฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) จะมีแต้มที่เท่ากัน คือ 9 แต้ม	เมื่อลงเดิมพันหมายเลข 9 หากฝ่ายผู้เล่น (player) และฝ่ายเจ้ามือ (banker) มีแต้ม 9 แต้มทั้ง 2 ฝ่าย แบบนี้ถึงจะชนะเดิมพัน

และทั้งหมดนี้ก็เป็นรายละเอียดของ เกมไพ่ บาคาร่า ซึ่งในรูปแบบการเล่นนั้นมีเยอะมากๆ หากท่านเข้าใจรู้หลักวิธีการเล่นแล้ว ท่านจะสามารถสร้างกำไรไปกับเกม บาคาร่า อย่างแน่นอนครับ