สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับ ว่า baccarat สูตร เทคนิควิธีการเล่นบาคาร่าจะเป็นอย่างไร และสูตรเดินเงินบาคาร่าแบบไหนบ้าง ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะชนะให้เรามากยิ่งขึ้น และลดโอกาสที่จะเสียเงินให้เหลือน้อยที่สุด ถ้าทุกคนพร้อมแล้วไปดูรายละเอียดกันต่อได้เลย
หรือถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจอยากรู้ว่า ในประเทศไทยเรามีเว็บคาสิโนออนไลน์เจ้าไหนให้บริการเกมคาสิโนสดอะไรบ้าง สามารถ คลิ๊ก เข้าไปอ่านรีวิวเว็บคาสิโนออนไลน์ที่นี่ได้เลยครับ
baccarat สูตรวิธีการวางเดิมพัน
สำหรับวิธีการเล่นเดิมพันบาคาร่านั้น โดยส่วนมากแล้วจะนิยมใช้สูตรบาคาร่าตามเค้าไพ่ (ผลไพ่ที่ออกก่อนหน้า) จากนั้นก็นำผลที่ได้ มาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของผลที่จะเกิดขึ้นในตาต่อไป หลายๆ สูตรจะใช้การดูผลการออกของไพ่บาคาร่า 3-4 ครั้งสุดท้าย หรือไม่บางสูตรจะใช้วิธีการนับไพ่ที่ถูกเปิดขึ้นก็มี ซึ่งแต่ละสูตรจะมีชื่อเรียก และวิธีการใช้งานดังต่อไปนี้
สูตรบาคาร่าเป่าจินจง
สำหรับสูตรบาคาร่าเป่าจินจงนี้ จะเป็นสูตรบาคาร่าที่แปลกแตกต่างไปจากสูตรอื่นๆ เป็นอย่างมากเพราะ จะไม่ได้ดูเค้าไพ่เลย แต่จะดูที่ไพ่ที่ถูกเปิดขึ้นของแต่ละฝั่งเท่านั้น โดยจะมีกฎง่ายๆ 2 ข้อดังนี้
- ถ้าฝั่งใดก็ตามที่ชนะด้วยไพ่ 2 ใบ ตาต่อไปจะต้องเดิมพันที่ ฝั่งผู้เล่น/เพลเยอร์ ดังภาพตัวอย่างนี้ จะเห็นว่า แบงค์เกอร์ชนะด้วยไพ่ 2 ใบ ไม่ว่าจะกี่แต้มก็ตาม ตาต่อไปให้เราวางเดิมพันไปที่ฝั่ง ผู้เล่น ได้เลย
- ถ้าฝั่งใดก็ตามชนะด้วยไพ่ 3 ใบ ตาต่อไปจะต้องวางเดิมพันที่ ฝั่งเจ้ามือ/แบงค์เกอร์ ดังภาพตัวอย่าง จะเห็นว่า แบงค์เกอร์ชนะด้วยไพ่ 3 ใบ ไม่ว่าจะได้แต้มไพ่รวมเท่าไหร่ก็ตาม ตาต่อไปให้วางเดิมพันที่ฝั่ง แบงค์เกอร์ ต่อได้เลย
***เนื่องจากสูตรนี้ มีโอกาสที่ผลจะคลาดเคลื่อนได้ จึงแนะนำว่าถ้าจะเล่นเดิมพันบาคาร่าด้วยสูตรนี้นั้น จะต้องใช้ควบคู่กับสูตรเดินเงินบาคาร่าด้วย ไม่ว่าจะเป็น สูตรเดินเงินฟิโบนัชชี หรือสูตรเดินเงินมาร์ติงเกลก็ได้ จะทำให้สูตรได้ผลมากยิ่งขึ้นครับ
สูตรบาคาร่าคู่ คี่
สำหรับสูตรนี้นั้น เราจะดูเค้าไพ่ 4 ครั้งสุดท้ายว่าออกมาเป็นแบบคู่ หรือแบบคี่ ซึ่งจะสามารถดูได้ดังนี้
- เค้าไพ่แบบคู่ จะเห็นได้ว่าผลการออกของไพ่ 4 ครั้งสุดท้ายออกมาเป็นคู่กัน คือทั้งสีแดง ก็จะเป็นเลขคู่คือ 2 กับ 4 และสีน้ำเงินเองก็มีเป็นเลขคู่คือ 2 กับ 4 เช่นกัน อย่างนี้เรียกว่าเค้าไพ่แบบคู่
การเดิมพันให้เราเดิมพันต่อเป็นแบบเลขคู่นี้ต่อไปได้เลย เช่น ผลสี่ครั้งสุดท้ายคือ แดง-แดง–น้ำเงิน-น้ำเงิน อย่างนี้ ตาต่อไปให้วางเดิมพันต่อที่ แดง ได้เลย ก็จะกลายเป็น แดง–น้ำเงิน-น้ำเงิน–แดง อย่างนี้ก็จะเรียกว่าเค้าไพ่คู่อยู่เช่นเดิม เป็นต้น - เค้าไพ่แบบคี่ จะเห็นได้ว่าผลการออกของเค้าไพ่ 4 ครั้งสุดท้ายจะออกมาเป็นเลขคี่ คือถ้าสีแดงมี 1 สีน้ำเงินจะต้องมี 3 หรือไม่ก็สีน้ำเงินมี 1 สีแดงจะมี 3 เช่นกัน อย่างนี้เราจะเรียกว่าเค้าไพ่แบบคี่
การวางเดิมพันนั้น ให้เดิมพันเป็นเลขคี่ต่อไปได้เลย เช่น ผลสี่ครั้งสุดท้ายออกมาเป็น แดง–น้ำเงิน-น้ำเงิน-น้ำเงิน ตาต่อไปให้เราเดิมพันที่ แดง ก็จะกลายเป็น น้ำเงิน-น้ำเงิน-น้ำเงิน–แดง อย่างนี้ก็จะยังเรียกว่าเป็นเค้าไพ่แบบคี่อยู่ เป็นต้น
***โดยส่วนมากแล้วการออกของเค้าไพ่แบบคู่-คี่ นี้ จะออกติดกันประมาณ 5 ถึง 6 ตาก็จะเปลี่ยนไป ฉะนั้นเมื่อเราชนะหรือได้กำไรพอควรแล้ว ก็ควรที่จะหยุดเล่น หรือเปลี่ยนห้องจะดีที่สุด และสูตรบาคาร่านี้ จะสามารถใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้นหากใช้ควบคู่กับสูตรเดินเงินบาคาร่า ส่วนจะเป็นสูตรเดินเงินไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรามีเงินทุนสำรองมากน้อยแค่ไหนด้วยนะครับ
baccarat สูตร แพ็คเก็จรวม 4 สูตร
เป็นวิธีจัดการกับรูปแบบของเค้าไพ่ทั้งหมดที่มีอยู่เลยก็ได้ เพราะจะเป็นการดูเค้าไพ่ถึง 4 แบบ พร้อมวิธีจัดการง่ายๆ เป็นสูตรที่ไม่ต้องทบเงินเดิมพันเมื่อเสีย แต่สูตรนี้เราจะต้องใช้เวลาในการเล่นเดิมพันมากกว่าสูตรอื่นๆ ใครที่ชอบเล่นบาคาร่าแบบทั้งวันทั้งคือต่อเนื่องกันนั้น เหมาะที่สุดที่จะเลือกใช้สูตรแพ็คเก็จนี้ โดยการดูเค้าไพ่มีดังนี้
- เค้าไพ่แบบออกติด เราจะดูการออกของไพ่เพียง 2 ครั้งสุดท้ายเท่านั้น ถ้าออกมาเป็นสีเดียวกันเช่น แดง-แดง หรือน้ำเงิน-น้ำเงิน อย่างนี้ ให้วางเดิมพันต่อสีที่ออกติดกันนี้ได้เลย
- เค้าไพ่แบบออกสลับ เราจะดูการออกของเค้าไพ่ 3 ครั้งสุดท้าย ถ้าเค้าไพ่ออกมาเป็น แดง–น้ำเงิน–แดง หรือ น้ำเงิน–แดง–น้ำเงิน อย่างนี้เรียกว่าเค้าไพ่ออกแบบสลับ ตาต่อไปให้เดิมพันต่อในแบบสลับกับสีที่ออกสุดท้ายได้เลย
- เค้าไพ่แบบติดสองสลับหนึ่ง 2-1 แบบนี้เราจะดูเค้าไพ่ 3 ครั้งสุดท้าย ถ้าเค้าไพ่ออกมาเป็น แดง-แดง–น้ำเงิน หรือ น้ำเงิน-น้ำเงิน–แดง อย่างนี้เราจะเรียกว่าเค้าไพ่แบบ 2-1 การเดิมพันให้เราเดิมพันสลับกับเค้าไพ่ที่ออกครั้งสุดท้ายได้เลย
- เค้าไพ่แบบ 2-2-2 แบบนี้เราจะดูเค้าไพ่ 4 ครั้งสุดท้าย ถ้าเค้าไพ่ออกมาเป็นแบบ แดง-แดง–น้ำเงิน-น้ำเงิน หรือ น้ำเงิน-น้ำเงิน–แดง-แดง ถ้าเค้าไพ่ออกมาเป็นแบบนี้ เราจะเรียกว่าเป็นเค้าไพ่ 2-2-2 การวางเดิมพัน ให้เราเดิมพันในฝั่งที่ตรงข้ามกับเค้าไพ่ 2 ครั้งสุดท้ายได้เลย
***การใช้ทั้ง 4 สูตรนี้เราจะต้องใช้ให้ต่อเนื่องสัมพันธ์กันตามเค้าไพ่ที่ออกมา สูตรอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดตามเค้าไพ่ ฉะนั้นการเดินเงินเดิมพันจะต้องเดิมพันแบบคงที่เท่านั้น และเมื่อเล่นได้กำไร 10-30% ของเงินทุนแล้วก็ควรพอ หรือเปลี่ยนห้องเล่น ถ้าเล่นได้แล้วไม่รู้จักพออาจจะทำให้หมดตัวได้ในที่สุด
baccarat สูตรวิธีการเดินเงิน
การเล่นเดิมพันกับคาสิโนออนไลน์ทุกประเภท จะได้ผลมากยิ่งขึ้น หรือจะลดโอกาสเสียได้ หากเราใช้สูตรเดินเงินเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งแต่ละสูตรเดินเงินก็จะมีรูปแบบวิธีการที่แตกต่างกันออกไป เช่น สูตรเดินเงินมาร์ติงเกล เป็นสูตรที่จะต้องทบเงินเดิมพันขึ้นทุกครั้งที่เราเดิมพันแพ้ แต่ถ้าทบไปแล้วเราชนะ เราก็จะได้ทั้งเงินทุนที่เสียไปก่อนหน้า และกำไรนิดหน่อยกลับคืนมา อย่างนี้เป็นต้น รายละเอียดและสูตรเดินเงินในแบบต่างๆ มีดังต่อไปนี้
สูตรเดินเงินบาคาร่าแบบมาร์ติงเกล
การเดินเงินแบบมาร์ติงเกลนี้ จะมีกฎง่ายๆ อยู่เพียง 2 ข้อ ซึ่งสามารถใช้ได้กับทั้งสูตรมาร์ติงเกล และสูตรซุปเปอร์มาร์ติงเกลด้วย คือ
- ทบเงินเดิมพันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าทุกครั้งที่แพ้
- จะกลับมาเริ่มที่ 1 หน่วยใหม่ทุกครั้งที่ชนะ ไม่ว่าจะทบไปกี่ไม้แล้วก็ตาม
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคนจะนิยมทบเงินเดิมพันขึ้นเพียง 5 ไม้เท่านั้น แต่ก็มีหลายคนใช้การทบเงินขึ้นเพียง 3 ไม้ แต่ยิ่งเราทบเงินไปหลายไม้ เราจะยิ่งลดโอกาสที่จะแพ้ลงไปได้มากที่สุดเท่านั้นด้วย
ตัวอย่างการเดินเงินบาคาร่าแบบมาร์ติงเกล ที่ทบเงินเดิมพัน 5 ไม้ เราจะทบเงินเดิมพันตามสเต็ปดังนี้
1 – 2 – 4 – 8 – 16 = 31 หน่วย
การเดินเงินแบบมาร์ติงเกล เราจะสามารถแพ้ติดกันได้ถึง 4 ครั้ง เมื่อชนะในครั้งที่ 5 เราจะได้เงินทุนที่เสียไปก่อนหน้าทั้ง 4 ครั้งกลับคืนมา อีกทั้งยังได้กำไรมาเพิ่มอีก 1 หน่วยด้วย
ตัวอย่างการเดินเงินบาคาร่าแบบซุปเปอร์มาร์ติงเกล ที่ทบเงินเดิมพัน 5 ไม้ เราจะทบเงินเดิมพันตามสเต็ปดังนี้
1 – 3 – 7 – 15 – 31 = 57 หน่วย
การเดินเงินแบบซุปเปอร์มาร์ติงเกล เราจะสามารถแพ้ติดกันได้ถึง 4 ครั้ง เมื่อชนะในครั้งที่ 5 เราจะได้เงินทุนที่เสียไปก่อนหน้าทั้ง 4 ครั้งกลับคืนมา อีกทั้งยังได้กำไรมาเพิ่มอีก 5 หน่วยด้วย แต่แบบนี้ก็ต้องใช้เงินทุนสำรองที่มากกว่าเช่นกัน
การเลือกใช้สูตรเดินเงินแบบมาร์ติงเกลนี้ เราจะสามารถเลือกใช้ได้ตามเงินทุนที่เรามี เพราะถ้าเรามีเงินทุนที่น้อยแล้วเลือกใช้สูตรนี้ โอกาสที่เราจะเสียเงินทั้งหมดไปก็เป็นเรื่องง่ายมาก แต่ถ้าเรามีเงินทุนที่มากกว่า 100 หน่วย ก็จะทำให้เรามีโอกาสคืนทุนกลับมาเมื่อแพ้ และโอกาสชนะก็จะมีมากกว่าอีกด้วย
สูตรเดินเงินบาคาร่าแบบฟิโบนัชชี
สำหรับการเดินเงินแบบฟิโบนัชชีนี้ จะมีรูปแบบการเดินเงินที่ค่อนข้างละเอียดมาก หากคิดจะใช้สูตรเดินเงินนี้ จำเป็นจะต้องมีการจดลำดับการวางเงินเดิมพันไว้ก่อน เพื่อที่จะได้ไม่สับสนเวลาที่เราวางเงินเดิมพันจริงๆ การเดินเงินจะมีกฎอยู่ 2 ข้อคือ
- เดิมพันแพ้ให้เดินหน้าไป 1 สเต็ป
- เดิมพันชนะให้ถอยหลังมา 2 สเต็ป
โดยสเต็ปการเดินเงินจะมีวิธีการคิด คือ นำ 2 สเต็ปก่อนหน้ามาบวกกันแล้วจะได้จำนวนของสเต็ปถัดไป เช่น 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55,… อย่างนี้เป็นต้น ถ้าเราต้องการเดิมพันครั้งละ 20 บาท เราจะต้องแทนค่าตามสูตรคือ 20, 20, 40, 60, 100, 160, 260, 420, 680, 1,100,… อย่างนี้เป็นต้น
การเลือกใช้สูตรเดินเงินนี้ จะทำให้เราได้กำไรมากกว่าหากเดิมพันที่ 1 หน่วยแล้วชนะเลย ไม่ต้องเพิ่มเงินเดิมพันไปถึงสเต็ปที่ 6, 7, 8, เพราะจะทำให้เราเสียเงินทุนจำนวนมากได้ แต่หากเราสามารถชนะติดกันเพียง 3 ครั้ง เราก็จะได้เงินทุนที่เสียไปกลับคืนมาได้ง่ายๆ เช่นกัน
ทิ้งท้าย
เป็นไงกันบ้างครับ กับ baccarat สูตร ต่างๆ ทั้งสูตรการเล่นบาคาร่า ทั้งสูตรเดินเงินบาคาร่า ทุกแบบที่ผมได้นำเสนอจบไปนั้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนไม่มากก็น้อย แต่เท่าที่ผมได้ใช้สูตรต่างๆ ที่ว่ามานี้ก็ไม่เคยผิดหวังกับสูตรไหนเลย ส่วนมากแล้วก็ได้กำไรแทบทุกสูตร ขึ้นอยู่กับโอกาส และการรู้จักพอของเราด้วยนะครับ สำหรับบทความนี้ ผมก็ขอจบลงก่อน
พบกันใหม่ในบทความหน้า ถ้าอยากได้ความรู้เพิ่มเติม เข้าไปอ่านได้ที่ Stakehow คือแหล่งรวมรีวิวที่ดีที่สุดละเอียดที่สุดในประเทศไทย ครบทุกเรื่องเกี่ยวกับคาสิโน ถ้าคุณชอบบทความดีๆ แบบนี้ กดเพิ่ม Line Stakehow เอาไว้ พร้อม กดกระดิ่งด้านขวา ล่างของหน้าจอ ด้วยนะครับ เพื่อติดตาม เวลาผมบทความดีๆ ใหม่ๆ ผมจะได้แจ้งคุณได้อย่างทันที