สวัสดีครับผู้ที่กำลังติดตาม Stakehow ทุกท่าน บทความนี้ผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับ baccarat เกม เกมยอดนิยมในเว็บคาสิโนออนไลน์ที่นักเดิมพันให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างเกมบาคาร่าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นบาคาร่า กฎกติกาการเดิมพัน หรืออัตราการจ่ายเงิน และผมจะมาแนะนำเว็บไซต์เพื่อเข้าเล่นเกมเดิมพันบาคาร่าในบทความนี้ด้วย ไปติดตามเนื้อหาด้านในได้เลยครับ
baccarat เกม คาสิโนยอดนิยม
baccarat หรือ บาคาร่า เป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากสองประเทศ คือ ประเทศอิตาลี และประเทศฝรั่งเศส มีความหมายว่าแต้มเป็นศูนย์ หรืออีกความหมาย คือ แต้มที่มีค่ามากที่สุดบนหน้าไพ่ มีลักษณะการเล่นที่คล้ายกับไพ่ป๊อกเด้งเป็นอย่างมาก
ถ้าหากฝ่ายใดมีแต้มรวมกันใกล้เคียงกับ 9 แต้มมากที่สุด จะเป็นฝ่ายชนะการเดิมพัน ผู้เล่นก็จะได้รับเงินรางวัลเท่ากับจำนวนที่วางเดิมพันไว้ เกมบาคาร่าออนไลน์เป็นเกมที่มีนักเดิมพันให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยรูปแบบการเดิมพันที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน บาคาร่าจึงเป็นเกมยอดนิยมในเว็บคาสิโนออนไลน์
วิธีเล่นเดิมพันบาคาร่าออนไลน์
1. ก่อนเข้าไปเล่นเกมบาคาร่าออนไลน์ท่านจะต้องทำการสมัครสมาชิกให้เรียบร้อย จากนั้นทำการโอนเงินเข้าเพื่อเล่นเดิมพันบาคาร่าออนไลน์
2. ต่อไปเข้าสู่เกมบาคาร่า ผู้เล่นจะต้องวางเดิมพันให้ทันภายในระยะเวลาที่ทางเว็บได้กำหนดเอาไว้ (หากผู้เล่นนั้นไม่สามารถวางเดิมพันได้ ภายในระยะเวลาที่ทางเว็บกำหนดเอาไว้ ผู้เล่นจะต้องรอวางเดิมพันในตาถัดไป) ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันได้ทั้งหมด 19 รูปแบบด้วยกัน
3. หลังจากที่หมดเวลาในการวางเดิมพันแล้ว ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้ฝ่ายละสองใบเท่าๆ กัน โดยจะเริ่มแจกที่ฝ่ายผู้เล่นก่อน และตามด้วยฝ่ายเจ้ามือ จนครบฝ่ายละสองใบ หากไพ่ของฝ่ายใดมีแต้มไม่ถึง 5 แต้ม สามารถเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่มได้
4. การตัดสินผลแพ้ และผลชนะ จะดูจากแต้มรวมของไพ่ถ้าหากฝ่ายใดมีแต้ม 9 แต้ม หรือมีแต้มมากกว่าอีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายชนะในการเดิมพัน และจบเกมทันที
5. หลังจากชนะในการวางเดิมพัน ทางทีมงานจะโอนเงินที่ท่านได้รับเข้าสู่บัญชีของท่านทันที หลังจากที่รู้ผลแพ้ผลชนะในเกม นั้นๆ แล้ว ดีลเลอร์จะเริ่มเกมใหม่โดยจะเปิดเวลาในการวางเดิมพันในตาถัดไป
กฎกติกาการเล่น baccarat เกม
สำหรับท่านใดที่สนใจเกมบาคาร่าแต่ยังไม่เข้าใจในกฎกติกาในการเล่นของเกม หรือยังสับสนอยู่ ผมจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎกติกาของเกมบาคาร่าแบบละเอียด ไปชมกันเลยครับ
กฎการนับแต้ม
การนับแต้มของบาคาร่านั้นง่ายมากๆ เพียงดูจากเลขบนหน้าไพ่ที่ท่านได้รับไป โดยไพ่ 2-9 จำนวนแต้มของไพ่แต่ละใบนั้นก็ตรงกับหน้าไพ่เลย แต่หากเป็น A จะนับเป็น 1 แต้ม และถ้าหากเป็นตัวภาษาอังกฤษ อย่างเช่น J-Q-K ก็จะนับเป็น 0 แต้ม หากใครที่ได้แต้มใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะการเดิมพัน
ตัวอย่างการนับแต้มไพ่บาคาร่า
- ไพ่ฝ่ายเจ้ามือมี 9 ดอกจิก 10 ดอกจิก จะเท่ากับว่าฝ่ายเจ้ามือมีแต้มเท่ากับ 9 + 10 = 9 แต้ม
- หรือ ไพ่ฝ่ายเจ้ามือมี 8 ดอกจิก 10 ข้าวหลามตัด K ดอกจิก จะเท่ากับว่าฝ่ายเจ้ามือมีแต้มเท่ากับ 8 + 0 = 8 แต้ม
ลำดับการแจกไพ่
การแจกไพ่นั้นมันก็มีข้อกำหนดของมัน เพราะว่าในการเล่นบาคาร่าแต่ละครั้ง ดีลเลอร์จะแจกไพ่เพียงสองฝ่ายเท่านั้น ก็คือฝ่ายเจ้ามือ และฝ่ายผู้เล่น โดยท่านสามารถลงเดิมพันฝั่งใดก็ได้ แต่ละฝ่ายจะได้รับไพ่จำนวนสองใบเท่ากัน ถ้าฝั่งใดได้แต้มน้อยกว่า 5 แต้ม ดีลเลอร์จะแจกไพ่ใบที่สามตามกติกาและเงื่อนไขที่กำหนด
กฎของการเรียกไพ่ใบที่สาม
เนื่องจากเกมบาคาร่าออนไลน์ฝ่ายผู้เล่นจะเป็นฝ่ายที่ได้รับไพ่ก่อน ดังนั้นในการเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม จะต้องพิจารณาจากแต้มรวมของไพ่สองใบแรกของฝ่ายผู้เล่นก่อนว่ามีแต้มเท่าไหร่ จากนั้นจึงพิจารณาว่าจะอยู่ หรือเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม
ผู้เล่น (Player)
ตามกฎการเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม หากผู้เล่นเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม จะต้องดูต่อว่าผู้เล่นนั้นเรียกได้ไพ่อะไร จากนั้นค่อยไปพิจารณาต่อว่าฝ่ายเจ้ามือ จะต้องเรียกไพ่เพิ่มหรือไม่
กฎของการเรียกไพ่ใบที่สามของผู้เล่น (Player) | |
แต้มรวมของไพ่สองใบแรกของผู้เล่น (Player) | กฎการเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
เมื่อผู้เล่นนั้นได้แต้ม 0 , 1 , 2 , 3 , 4 , 5 แต้ม | ผู้เล่นจะต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
เมื่อผู้เล่นนั้นได้แต้ม 6 , 7 แต้ม | อยู่ ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
เมื่อผู้เล่นนั้นได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้ม | ไพ่ป๊อก ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม และเกมเดิมพันจะหยุดทันที |
เจ้ามือ (Banker)
แต้มรวมไพ่สองใบแรกของเจ้ามือ (Banker) | กฎการเรียกไพ่ใบที่สามของเจ้ามือ (Banker) | |
ถ้าไพ่ใบที่สามของผู้เล่นได้แต้มดังนี้
ฝ่ายเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
ถ้าไพ่ใบที่สามของผู้เล่นได้แต้มดังนี้
ฝ่ายเจ้ามือไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
|
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 3 แต้ม | 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 9 , 0 เจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม | 8 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 4 แต้ม | 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 เจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม | 1 , 8 , 9 , 0 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 5 แต้ม | 4 , 5 , 6 , 7 เจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม | 1 , 2 , 3 , 8 , 9 , 0 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 6 แต้ม | 6 , 7 เจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม | 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 8 , 9 , 0 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 7 แต้ม | – | อยู่ ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 8 – 9 แต้ม | – | ไพ่ป๊อก ไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม และเกมเดิมพันจะหยุดทันที |
การหักเงินในเกมบาคาร่าออนไลน์
การหักเงินในเกมบาคาร่าก็สามารถหักได้ 2 รูปแบบ ก็คือ
- การหักแบบ 5% โดยการหัก 5% นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อท่านได้วางเดิมพันในฝ่ายเจ้ามือและชนะการเดิมพัน
- แบบที่ไม่หักเลย และการไม่หักเงินเลย ก็คือการที่ท่านนั้นวางเดิมพันในฝ่ายของผู้เล่นนั้นเองครับ
ตำแหน่งการวางเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงินรางวัล
เกมบาคาร่าออนไลน์เป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทุกคาสิโนออนไลน์ ด้วยรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่ายมากๆ คล้ายกับการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง สำหรับรูปแบบการลงเดิมพันเกมบาคาร่าออนไลน์นั้น จะมีทั้งหมด 19 รูปแบบ ซึ่งอัตราการจ่ายเงินรางวัลจะต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับรูปแบบการเดิมพันนั้นๆ ดังนี้
1. ลงเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น (Player)
เป็นการลงเดิมพันว่าฝ่ายผู้เล่น หรือฝ่ายสีน้ำเงิน จะเป็นฝ่ายที่ชนะการเดิมพัน การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 1 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น (Player) จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
2. ลงเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ (Banker)
เป็นการลงเดิมพันว่าฝ่ายเจ้ามือ หรือฝ่ายสีแดง จะเป็นฝ่ายที่ชนะการเดิมพัน การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 0.95 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ (Banker) จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
3. ลงเดิมพันตำแหน่งเสมอ (Tie)
เป็นการลงเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะมีแต้มเท่ากัน หรือเสมอกันนั่นเองครับ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 8 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งเสมอ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 900 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
4. ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น
เป็นการเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น (Player) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน อย่างเช่น ฝ่ายผู้เล่นได้รับไพ่เลข 9 จำนวน 2 ใบ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 1,200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
5. ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ
เป็นการเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน อย่างเช่น ฝ่ายเจ้ามือได้รับไพ่เลข 9 จำนวน 2 ใบ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 1,200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
6. ลงเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะได้ไพ่คู่ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 25 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 2,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
7. ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้
เป็นการเดิมพันว่าไพ่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะออกเป็นไพ่คู่ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 5 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 2,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
8. ลงเดิมพันตำแหน่งต่ำ
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ได้จั่วไพ่เพิ่มเลย การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1.5 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งต่ำ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 250 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
9. ลงเดิมพันตำแหน่งสูง
เป็นการเดิมพันว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเปิดไพ่ใบที่ 3 การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 0.54 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งสูง จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 154 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
10. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 0
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 0 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 150 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 0 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 15,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
11. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 1
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 1 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 215 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 1 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 21,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
12. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 2
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 2 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 220 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 2 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 22,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
13. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 3
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 3 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 200 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 3 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 20,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
14. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 4
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 4 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 120 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 4 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 12,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
15. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 5
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 5 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 110 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 5 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 11,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
16. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 6
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 6 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 6 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 4,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
17. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 7
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 7 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 7 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 4,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
18. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 8
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 8 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 8 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 8,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
19. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 9
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 9 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 9 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 8,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
วิธีเข้าเล่นบาคาร่า
บาคาร่า เป็นเกมยอดนิยมที่นักพนันออนไลน์ให้ความนิยมเป็นอันดับ 1 ซึ่งปัจจุบันหาเล่นได้ง่ายมากขึ้นในคาสิโนออนไลน์ โดยก็มีเว็บคาสิโนหลายเจ้าที่น่าสนใจและเป็นที่ขึ้นชื่อในการเดิมพันคาสิโนสด และเว็บยอดนิยมเหล่านั้น เราก็ได้รวบรวมมาให้ทุกท่านได้ศึกษากัน ดังนี้
- Next88 อ่านรีวิวเว็บไซต์ คลิก
- Dafabet อ่านรีวิวเว็บไซต์ คลิก
- Winclub88 อ่านรีวิวเว็บไซต์ คลิก
- Fun88 อ่านรีวิวเว็บไซต์ คลิก
และเว็บที่ผมจะมายกตัวอย่างการเล่นให้ดูกันก็คือเว็บ next88 สาเหตุที่ผมเลือกเว็บนี้เพราะเป็นเว็บที่ผมใช้เดิมพันเป็นประจำ และเป็นเว็บใหม่ที่มาแรง ใช้เงินเดิมพันขั้นต่ำเพียงแค่ 50 บาทเท่านั้น สำหรับท่านที่สนใจเข้าเล่นบาคาร่าออนไลน์ จะต้องทำการโอนเงินจากกระเป๋าเงินหลัก ไปยังกระเป๋าคาสิโนสดก่อน เมื่อเสร็จสิ้นการโอนเงินแล้ว เงินที่ถูกโอนมาจะอยู่ในกระเป๋าคาสิโนสดทันที จากนั้นท่านสามารถทำตามขั้นตอนการเข้าสู่ห้องบาคาร่า ได้ดังนี้
ขั้นตอนการเข้าสู่ห้องเล่นบาคาร่า
เมื่อเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์แล้ว ให้กดที่ปุ่ม คาสิโนสด (ในกรอบสีแดง) ตรงแถบเมนูสีฟ้าด้านบน
จากนั้นให้ทำการเลือกแบรนด์เดิมพัน ในตัวอย่างผมจะเลือกที่ CLUB GPI ซึ่งมีอยู่ 2 โซน ซึ่งท่านจะเลือกเข้าโซนไหนก็ได้ เมื่อกดเข้าไปแล้วก็จะพบกับหน้าเกมเดิมพัน
เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอหน้าคาสิโนสด ให้เลือกที่เมนู บาคาร่า (ในกรอบสีแดง) จากนั้นจะมีห้องบาคาร่าให้เลือกเล่นมากมาย จากนั้นให้ท่านทำการกดเข้าห้องเกม โดยเมื่อท่านเลือกห้องแล้วจะมีจำนวนเงินในการเดิมพันให้เลือกได้ตามความต้องการ จากนั้นก็สามารถเริ่มเดิมพันได้ทันที
ตัวอย่างการเดิมพัน
หลังจากที่ศึกษาวิธีการเข้าเล่น และรายละเอียดกติกาต่างๆ ของการเล่นบาคาร่าแล้ว ต่อไปผมจะมาอธิบายการแทงบาคาร่า ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 ขั้นตอน (ดูรูปประกอบพร้อมคำอธิบายด้านล่าง)
1. เลือกเหรียญในการเดิมพัน
ให้ท่านทำการเลือกเหรียญที่ต้องการอยากจะลงเงินเดิมพันตามความต้องการ ซึ่งจะมีเหรียญ 25 , 100 , 500 , 1000 , 5000 ให้ทำการกดไปที่เหรียญ 1 ครั้ง จากนั้นเหรียญจะลอยขึ้นมาให้ทราบว่าท่านได้ทำการเลือกเหรียญนี้แล้ว
2. วางเดิมพัน
หลังจากที่ท่านเลือกเหรียญได้แล้ว ให้ทำการเลือกตำแหน่งที่ต้องการจะลงเงินเดิมพัน จากนั้นคลิก 1 ครั้ง เหรียญจะถูกวางลงในตำแหน่งที่ท่านเลือก หากท่านอยากจะเดิมพันที่ 50 บาท ให้กดเลือกเหรียญ 25 บาท แล้ววางไปในตำแหน่งเดิมอีกครั้ง เงินจะรวมกันเป็น 50 บาท
3. ยืนยันการเดิมพัน
เมื่อวางเหรียญเดิมพันตามที่ต้องการแล้ว จากนั้นให้ทำการกดปุ่มยืนยัน เพื่อที่จะยืนยันมาแทงในครั้งนี้ หากท่านกดไม่ทันภายในเวลาที่กำหนด การเดิมพันในครั้งนั้นก็จะถูกยกเลิกทันทีหลังหมดเวลานับถอยหลัง 15 วินาที