สูตรบาคาร่าฮ่องกง แทงอย่างไรให้คาสิโนพังยับกับสูตรนี้

สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ สูตรบาคาร่าฮ่องกง กันครับ ว่าวิธีการใช้งานสูตรฮ่องกงนี้ จริงๆ แล้วเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะเท่าที่ผมรู้มานี้ เพื่อนๆ หลายคนถึงกับงงเลย หรือจะเรียกได้ว่าเข้าใจเฉพาะคนที่คิดสูตรนี้ขึ้นมารึป่าว คนอื่นจะไปใช้ด้วยนี้ต้องใช้อย่างไร เดี๋ยววันนี้ผมจะมาอธิบายให้เข้าใจกันอย่างละเอียดเลยครับ

แทงบาคาร่าด้วยตนเอง ไม่ต้องรอคนนำ มาอ่านที่คลังสูตรที่ใหญ่ที่สุดของ stakehow สิ คลิ๊ก

สูตรบาคาร่าฮ่องกง

สำหรับสูตรนี้นั้น ผมได้ยินหลายคนพูดถึงกันมากเลยครับว่า “เค้าไพ่สวยๆ แบบนี้เข้าสูตรฮ่องกงเลย” ถ้าพูดแค่นี้ ใครจะแทงตามได้หละครับ อย่างน้อยก็น่าจะอธิบายยาวๆ ไปหน่อยนะครับว่า ให้เลือกห้องบาคาร่าที่เล่นไปแล้วประมาณ 18 – 20 ครั้งนะ แล้วดูที่เค้าไพ่เป็นหลัก ว่าผู้เล่นออกไปกี่ครั้งแล้ว หรือเจ้ามือออกไปกี่ครั้งแล้ว ถ้าบอกประมาณนี้ก็พอจะเข้าใจได้ใช่ไหมครับ เอาเป็นว่า เดี๋ยวเราไปดูเค้าไพ่แบบสูตรฮ่องกงกันก่อนเลยครับ

ผมจะอธิบายสูตร ทั้งสองแบบ ด้านล่างนี้ โดยใช้ ตารางบาคาร่าแบบลูกปัด (Bead Plate) นะครับ ใครดูตารางบาคาร่าไม่ออก อ่านได้ที่นี่

การเค้าไพ่สูตรฮ่องกง แบบที่ 1

วิธีการดูเค้าไพ่ฮ่องกงแบบที่หนึ่งนี้ ให้ดูที่ห้องที่มีการเล่นไปแล้ว 18-20 เกมขึ้นไปครับ อย่างภาพตัวอย่างนี้ B ออกไปแล้ว 10 ครั้ง และ P ออกไปแล้ว 6 ครั้ง ให้ระยะห่างระหว่าง P กับ B เท่ากับ 4 เกมนะครับสูตรนี้ ตาต่อไปให้เราทาง P ได้เลยครับ และถ้าแทงครั้งแรกยังไม่ชนะก็ให้แทงที่ย้ำ P ตัวเดิมต่อไป

ด้วยเหตุผลคือ B ออกไปเยอะแล้ว ตาต่อไปมันควรจะออก P บ้าง เพราะสถิติคาสิโนบอกไว้ว่าทุกอย่างจะเข้าใกล้ค่ากึ่งกลางทางสถิติ  และผมแนะนำให้ใช้ สูตรเดินเงิน 1-2-4-8-16 ร่วมด้วยนะครับ

ถ้ามีเวลาสามารถ คลิก เข้าไปอ่านรายละเอียดสูตรนี้เพิ่มเติมที่นี่ได้เลยครับ รายละเอียดจะมีมากกว่านี้ แน่นอนครับ

วิธีดูเค้าไพ่สูตรฮ่องกง แบบที่ 2

ต่อมา มาดูการดูเค้าไพ่สูตรบาคาร่าฮ่องกงแบบที่ 2 กันครับ เลือกเข้าห้องที่มีเกมผ่านไปแล้ว 18 ครั้ง เท่านี้กำลังดีครับ โดยแต่ละห้องเราจะเลือกเล่นเพียง 6 เกมเท่านั้นนะครับ ใน 6 เกมนี้ชนะ 4 เกมก็คุ้มแล้วครับ ครบ 6 แล้วย้ายห้องครับ แบบนี้ดีที่สุดครับ เดี๋ยวไปกันต่อเลยครับ

1. แถวที่ 1 นี้จะเห็นว่าไพ่ออกมาเป็น PBB แล้วตาต่อไปต้องออก P แน่นอน เพราะคุณอาจคิดว่าเมื่อ B มาแล้วสองครั้ง ต่อไปต้องเปลี่ยนแน่นอน ประกอบกับเค้าไพ่ล่าสุด ที่เป็นมังกรด้วย คุณจึงต้องแทงที่ P ต่อไป
2. และแถวที่ 2 นี้จะเห็นว่าไพ่ออกมาเป็น PPB ตาต่อไปต่อไปต้องออก P แน่นอน เพราะในแถวนี้ ครั้งก่อนโดน B ตัดไปแล้ว ตานี้จึงต้องออก P แน่นอน (ใช้เค้าไพ่ตัวตัด PPBPP หรือ BBPBB เพื่อวิเคราะห์)
3. ส่วนแถวที่ 3 นี้จะเห็นว่าไพ่ออกมาเป็น BPP ครั้งนี้คุณอาจลังเลได้ว่า แถวที่ 1 ออก PBB แล้วก็มาออก P อีก   ครั้งนี้เราเลยอาจเดาว่าต้องออก B แต่ผลที่ออกคือ P แบบนี้เราจะแพ้ แต่มันก็มีโอกาสแพ้ได้  รอจนครบคอลัมน์แล้วรอแทงแถวที่ 3 ตาถัดไปเป็น B อีกครั้งตามรูปขวา (BPPP ออก P สามครั้งแล้ว ไม่น่าพลาดแทง B เลย) และทบเงิน ตามสูตรเดินเงิน Martingale 1-2-4-8-16 อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะชนะ ค่อยกลับมาเดินที่ 1 หน่วยอีกครั้ง

   

4. แถวที่ 4 นี้จะเห็นว่าไพ่ออกมาเป็น PTP ตามสูตรฮ่องกงนี้ ถ้ามีเสมออยู่ในแถวคุณอาจจะไม่วางเดิมพันก็ได้นะ
5. และแถวที่ 5 ให้เราสังเกตเลยว่าทุกแถวนั้น ออกเรียงกันไม่ถึง 4 ครั้งเลยสักแถว จะเห็นว่าไพ่ออกมาเป็น PPP แล้วตาต่อไปต้องลงที่ B เพื่อตัดให้ P เท่ากับทุกแถว
6. ส่วนแถวที่ 6 นี้จะเห็นว่าไพ่ออกมาเป็น BPP ถ้าเรามองไปดูที่แถวที่ 1 จะเห็นว่าการออกคล้ายกันคือ ออกฝั่งละ 2 ครั้ง ดังนั้นตานี้คุณต้องแทงที่ B เพื่อให้ทั้งสองฝั่งมีสีเท่ากันนั่นเอง

สรุปทั้งสองอย่างนี้ ก็คือการดูเค้าไพ่แบบฮ่องกง และยิ่งเค้าไพ่สวยมากเท่าไหร่นั้น ยิ่งเป็นเค้าไพ่แบบฮ่องกงครับ เพราะถ้าจะใช้สูตรนี้จะต้องหาห้องที่เค้าไพ่สวยๆ เท่านั้น

ทิ้งท้าย

เป็นไงกันบ้างทุกคน กับสูตรบาคาร่าฮ่องกง พร้อมกับการดูเค้าไพ่ทั้งสองแบบ จริงๆ สูตรนี้มีอีกหลายแบบมากครับ แต่ผมขอสรูปง่ายๆ เลยก็คือเค้าไพ่ไหนสวยนั้นเรียกว่าเค้าไพ่ฮ่องกงนะครับ สำหรับบทความนี้ ผมก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้

พบกันใหม่ในบทความหน้า ถ้าอยากได้ความรู้เพิ่มเติม เข้าไปอ่านได้ที่ Stakehow คือแหล่งรวมรีวิวที่ดีที่สุดละเอียดที่สุดในประเทศไทย ครบทุกเรื่องเกี่ยวกับคาสิโน ถ้าคุณชอบบทความดีๆ แบบนี้ กดเพิ่ม Line Stakehow เอาไว้ พร้อม กดกระดิ่งด้านขวา ล่างของหน้าจอ ด้วยนะครับ เพื่อติดตาม เวลาผมบทความดีๆ ใหม่ๆ ผมจะได้แจ้งคุณได้อย่างทันที