สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงเกมส์ไพ่ 2 ชนิดที่ทางคาสิโนออนไลน์ได้ให้บริการ นะครับ นั่นคือ เสือมังกร บาคาร่า โดยทั้งสองเกมส์นี้ เป็นเกมส์ไพ่ที่มีการเล่นที่คล้ายๆ กันหรือแตกต่างกันอย่างไร และมีวิธีเล่น กฏกติกา ยังไงบ้าง เลื่อนลงไปดูกันเลยครับ
เสือมังกร
สำหรับเกมส์ เสือมังกร เป็นเกมส์ไพ่ชนิดหนึ่ง ที่แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง เพื่อให้นักเดิมพันทุกท่านได้ทำการเลือกเดิมพัน โดยจะมีฝั่งเสือ (Tiger) และ ฝั่งมังกร (Dragon) ซึ่งจะมีการแจกไพ่ฝั่งละ 1 ใบ โดยจะวัดแพ้ชนะด้วยจำนวนแต้มของหน้าไพ่ ซึ่งหน้าไพ่ที่มีแต้มเยอะที่สุดนั่นคือ ไพ่ K (13 แต้ม) และหน้าไพ่ที่มีแต้มน้อยสุดนั่นคือ ไพ่ A (1 แต้ม) โดยจะเรียงตามนี้ (A – 2 – 3 – 4 – 5 – 6 – 7 – 8 – 9 – 10 – J – Q – K)
โดยเกมส์เสือมังกรจะมีวิธีการเล่น คือ จะมีพนักงานหรือดีลเลอร์ ทำการแจกไพ่ให้กับทั้งสองฝั่ง โดยจะทำการหงายไพ่ ฝั่งล่ะ 1 ใบ ไพ่ฝั่งไหนจะแต้มเยอะหรือใกล้เคียง 13 แต้มมากที่สุด ก็จะเป็นฝั่งที่ชนะครับ
สำหรับการเล่น เสือมังกร ออนไลน์ กับทางคาสิโนออนไลน์ โดยจะมีระยะเวลาในการเดิมพัน ให้นักเดิมพันได้เลือกลงเดิมพัน เมื่อหมดเวลาเดิมพันแล้ว ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ โดยหงายไพ่ ให้กับทั้งสองฝั่ง และทำการนับแต้มของไพ่แต่ละฝั่ง ซึ่งไพ่ฝั่งไหนระหว่างเสือกับมังกร มีแต้มเยอะกว่า ก็จะเป็นฝั่งที่ชนะ
การนับแต้มหน้าไพ่ เสือมังกร
สำหรับการนับแต้มหน้าไพ่จะมีวิธีการดูหน้าไพ่และนับแต้มหน้าไพ่ดังนี้
A = มีแต้มเท่ากับ 1 แต้ม
2 – 10 = มีแต้มเท่ากับจำนวนของหน้าไพ่
J = มีแต้มเท่ากับ 11 แต้ม
Q = มีแต้มเท่ากับ 12 แต้ม
K = มีแต้มเท่ากับ 13 แต้ม
ตำแหน่งการวางเดิมพันและอัตราจ่าย
สำหรับตำแหน่งในการวางเดิมพันของเกมส์ เสือมังกร จะมีตำแหน่งให้วางเดิมพัน 7 ตำแหน่งด้วยกัน ดังนี้
- เสือ (Tiger) : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าไพ่ฝั่ง เสือ จะเป็นฝั่งที่มีแต้มเยอะกว่าฝั่งมังกร (อัตราจ่าย 1:1)
- มังกร (Dragon) : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าฝั่ง มังกร จะเป็นฝั่งที่มีแต้มเยอะกว่าฝั่งเสือ (อัตราจ่าย 1:1)
- เสมอ (Tie) : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะมีแต้มเท่ากัน (อัตราจ่าย 1:8)
- เสือคู่ : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าไพ่ฝั่งเสือ จะมีหน้าไพ่เป็นแต้มคู่ (อัตราจ่าย 1:1) การวางเดิมพันตำแหน่งนี้จะเสีย เมื่อหน้าไพ่มีแต้มเท่ากับ 7 แต้ม
- เสือคี่ : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าไพ่ฝั่งเสือ จะมีหน้าไพ่เป็นแต้มคี่ (อัตราจ่าย 1:1) การวางเดิมพันตำแหน่งนี้จะเสีย เมื่อหน้าไพ่มีแต้มเท่ากับ 7 แต้ม
- มังกรคู่ : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าไพ่ฝั่งมังกร จะมีหน้าไพ่เป็นแต้มคู่ (อัตราจ่าย 1:1) การวางเดิมพันตำแหน่งนี้จะเสีย เมื่อหน้าไพ่มีแต้มเท่ากับ 7 แต้ม
- มังกรคี่ : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าไพ่ฝั่งมังกร จะมีหน้าไพ่เป็นแต้มคี่ (อัตราจ่าย 1:1) การวางเดิมพันตำแหน่งนี้จะเสีย เมื่อหน้าไพ่มีแต้มเท่ากับ 7 แต้ม
บาคาร่า
สำหรับเกมส์ บาคาร่า เป็นเกมส์ไพ่ชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเกมส์ไพ่ที่เล่นง่าย และมีมานาน ซึ่งเกมส์บาคาร่า จะมีรูปแบบการเล่นที่ง่ายมาก เพียงแค่เลือกเดิมพันว่าฝั่งไหนจะมีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุด ระหว่าง เจ้ามือ (Banker) และ ผู้เล่น (Player)
โดยวิธีการเล่น จะมีดิลเลอร์ที่คอยทำการแจกไพ่ ให้ฝั่งล่ะ 2-3 ใบ โดยจะขึ้นอยู่จำนวนแต้มของไพ่ ซึ่งเมื่อเปิดไพ่ 2 ใบแรกแล้วมี แต้มระหว่าง 0-5 แต้ม ดีลเลอร์จะทำการจั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ แต่ถ้ามีแต้มระหว่าง 6 – 9 แต้ม จะไม่มีการจั่วไพ่เพิ่ม โดยไพ่ 2 ใบแรกที่มีแต้ม 8 – 9 แต้ม จะชนะไพ่ 2 ใบที่มีแต้มระหว่าง 0 – 7 แต้มทันที
สำหรับการเล่น บาคาร่าออนไลน์ จะมีเวลาในการวางเดิมพันแต่ละตำแหน่ง โดยจะมีระยะเวลาในการวางเดิมพัน 15 วินาที เมื่อเวลาเดิมพันหมด ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับทั้งสองฝั่ง พร้อมทำการหงายไพ่
จากนั้นดีลเลอร์จะทำการดูแต้มหน้าไพ่ ถ้าแต้มอยู่ระหว่าง 0-5 จะแจกไพ่เพิ่ม 1 ใบ แต่ถ้ามีแต้ม 6-9 แต้มจะไม่ทำการแจกไพ่เพิ่ม โดยไพ่ฝั่งไหนมีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุด ก็จะเป็นฝั่งที่ชนะครับ
การนับแต้มหน้าไพ่ บาคาร่า
สำหรับการนับแต้มหน้าไพ่ของเกมส์บาคาร่า จะมีวิธีการนับแต้มดังนี้
A = มีแต้มเท่ากับ 1 แต้ม
2 – 9 = มีแต้มเท่ากับหน้าไพ่
10 – J – Q – K = มีแต้มเท่ากับ 0 แต้ม
ตำแหน่งการวางเดิมพันและอัตราจ่าย
สำหรับตำแหน่งการวางเดิมพันของเกมส์บาคาร่า จะมีอยู่ 12 ตำแหน่งดังนี้
- ผู้เล่น (Player) : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าฝั่ง ผู้เล่น จะมีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากกว่าฝั่งเจ้ามือ (อัตราจ่าย 1:1)
- เจ้ามือ (Banker) : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าฝั่ง เจ้ามือ จะมีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากกว่าฝั่งผู้เล่น (อัตราจ่าย 1:1)
- เสมอ (Tie) : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะมีแต้มเท่ากัน (อัตราจ่าย 1:1)
- ผู้เล่นคู่ : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าหน้าไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่น จะมีหน้าไพ่เหมือนกัน (อัตราจ่าย 1:11)
- เจ้ามือคู่ : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าหน้าไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือ จะมีหน้าไพ่เหมือนกัน (อัตราจ่าย 1:11)
- ผู้เล่นป๊อก 8 : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นจะมีแต้มเท่ากับ 8 แต้ม (อัตราจ่าย 1:8)
- ผู้เล่นป๊อก 9 : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่น จะมีแต้มเท่ากับ 9 แต้ม (อัตราจ่าย 1:8)
- เจ้ามือป๊อก 8 : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือ จะมีแต้มเท่ากับ 8 แต้ม (อัตราจ่าย 1:8)
- เจ้ามือป๊อก 9 : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือ จะมีแต้มเท่ากับ 9 แต้ม (อัตราจ่าย 1:8)
- เล็ก (Small) : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่า มีการแพ้ชนะด้วยไพ่ทั้งหมด 4 ใบ หรือ ไม่มีการจั่วไพ่เพิ่ม (อัตราจ่าย 1:1.5)
- ใหญ่ (Big) : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่า มีการแพ้ชนะด้วยไพ่ทั้งหมด 5 – 6 ใบ หรือ มีการจั่วไพ่เพิ่ม (อัตราจ่าย 1:0.5)
- ซุปเปอร์ 6+ : เป็นตำแหน่งการวางเดิมพันว่า ไพ่ 2 ใบแรก หรือ 3 ใบของฝั่งที่ชนะ จะชนะด้วยแต้ม 6 แต้ม (โดยอัตราจ่ายของไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 1:12 ส่วน อัตราจ่ายของไพ่ 3 ใบแรก เท่ากับ 1:18)
ทิ้งท้าย
สำหรับเกมส์ เสือมังกร บาคาร่า จะมีวิธีการเล่นที่คล้ายๆ กัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ เกมส์ไพ่เสือมังกร จะแจกไพ่แค่ฝั่งละ 1 ใบ และมีวิธีการนับแต้มหน้าไพ่ที่แตกต่างจากบาคาร่า ส่วนเกมส์ไพ่บาคาร่า จะมีการแจกไพ่ ฝั่งละ 2 – 3 ใบ สำหรับเพื่อนๆ ท่านใดสนใจเกมส์ไพ่ทั้งสอง เกมส์นี้ สามารถหาเล่นได้ตามเว็บคาสิโนออนไลน์ทั่วไปได้ครับ
หากเพื่อนๆ ท่านใด ชอบใจบทความดีๆ ของเราแบบนี้ อยากจะติดตามข่าวสาร ให้เพื่อนๆ ทุกท่าน กดกระดิ่งสีแดง ที่มุมขวาล่าง และ กดแอด Line : Stakehow ไว้นะครับ ถ้ามีบทความใหม่ๆ มา ทางเราจะรีบแจ้งเตือนให้ทุกท่านได้ทราบโดนทันที