สวัสดีครับผู้ที่กำลังติดตาม Stakehow ทุกท่าน บทความนี้ผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับกติกาพื้นฐานในการ เล่นเกมบาคาร่า เกมคาสิโนออนไลน์ยอดนิยมอันดับ 1 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น วิธีการเล่นเกมบาคาร่าออนไลน์ รูปแบบการวางเดิมพัน หรืออัตราการจ่ายเงินรางวัลรูปแบบต่างๆ และผมจะสอนวิธีเข้าเล่นเดิมพันอย่างละเอียดให้สำหรับนักเดิมพันมือใหม่ทุกๆ ท่าน ไปติดตามกันในบทความนี้ได้เลยครับ
เกมบาคาร่าออนไลน์ คืออะไร
เกมบาคาร่า คือ เป็นเกมพนันชนิดหนึ่งที่อยู่ในคาสิโนออนไลน์ เป็นเกมไพ่ที่มีรูปแบบการเล่น และการวางเดิมพันที่เข้าใจง่ายหลักๆ แล้วจะมีแค่ 3 เดิมพัน ซึ่งการวางเดิมพันทั้ง 3 แบบนี้ จะมีอัตราการจ่ายที่ไม่เหมือนกัน แต่กำไรตอบแทนที่ได้นั้นเกินคุ้มเช่นกัน ก่อนอื่นเราก็ต้องมาทำความรู้จักกับเกมนี้กันก่อน ก่อนที่เราจะไปรู้เรื่องอะไรที่มากกว่านี้ของเกมนี้
โดยลักษณะการเล่นเกมบาคาร่าออนไลน์จะคล้ายๆ กับการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง แต่เกมบาคาร่าจะเป็นเกมที่มีผลลัพธ์ 3 รูปแบบเท่านั้น คือ ฝ่ายผู้เล่น (Player) ฝ่ายเจ้ามือ (Banker) หรือทั้งสองฝ่ายเสมอกัน (Tie Game) ถ้าฝ่ายไหนมีแต้มใกล้เคียงกับ 9 แต้มมากกว่า ฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายชนะในตานั้นๆ
เพราะหลักการในการเล่นบาคาร่า หากฝ่ายใดมีคะแนนรวมกันแล้วใกล้เคียงกับ 9 แต้มมากที่สุด ถือว่าเป็นฝ่ายชนะการเดิมพัน ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล เท่ากับจำนวนที่ผู้เล่นได้วางเดิมพันไว้ (แต่ทุกครั้งที่วางเดิมพันฝ่ายเจ้ามือแล้วชนะนั้นจะต้องโดนหักเงินครั้งละ 5 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนเงินที่วางเดิมพัน)
วิธี เล่นเกมบาคาร่า ออนไลน์
วิธีการเล่น หรือวิธีการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ ก็เหมือนกับการเล่นไพ่บาคาร่าในบ่อนคาสิโนสถานที่จริง โดยรูปแบบการเล่นหลักๆ แล้ว จะมีดังนี้
1. ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันได้ 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเจ้ามือ(Banker) , ฝ่ายผู้เล่น(Player) หรือจะเดิมพันแบบอื่นๆ เพิ่มเติมก็ได้ (แต่ไม่สามารถที่จะเดิมพัน 2 ฝ่ายพร้อมกันได้)
2. เมื่อหมดเวลาวางเดิมพัน ดีลเลอร์ หรือคนแจกไพ่ จะทำการแจกไพ่ให้ฝ่ายละ 2 ใบ ซึ่งไพ่ที่แจกจะแจกแบบหงายหน้าไพ่ให้ผู้เล่นได้เห็น
3. ฝ่ายไหนได้ไพ่ 2 ใบ แล้วมีแต้มรวมกันเป็น 8 หรือ 9 แต้ม ถือว่าชนะการเดิมพันทันที (ถ้าหากทั้ง 2 ฝ่าย ได้แต้มเท่ากัน การเดิมพันเป็นเสมอ)
4. หากฝ่ายเจ้ามือ(Banker) หรือ ฝ่ายผู้เล่น(Player) ได้แต้มน้อยกว่า 5 แต้ม จะมีสิทธิ์ได้จั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม ในกรณีจั่วไพ่เพิ่มผู้เล่นไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเอง ทางดีลเลอร์จะเป็นคนกำหนดว่าจะจั่วหรือไม่จั่ว โดยการจั่วไพ่ใบที่ 3 จะเป็นไปตามกฎกติกาของทางเว็บไซต์นั้นๆ
กติกาพื้นฐานในการ เล่นเกมบาคาร่า
ในหัวข้อนี้ผมจะกล่าวถึง กฎการนับแต้ม , กฎการจั่วไพ่ใบที่ 3 ของบาคาร่า ที่ผู้เล่น หรือนักลงทุน หลายท่านอาจจะสงสัยกันหลายท่าน เนื่องจากบางครั้งฝ่ายเจ้ามือก็อยู่บางทีก็จั่ว จึงทำให้หลายท่านเกิดอาการสับสน ทางเราจึงเขียนบทความนี้ขึ้น เพื่ออธิบายถึงวิธีการและกฎติกาการเล่นของบาคาร่า ให้ทุกท่านได้คลายข้อสงสัย เนื้อหาจะเป็นยังไงไปดูกันเลยครับ
การนับแต้มไพ่
ผมจะพาทุกท่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับการนับแต้มไพ่ โดยในการเล่นบาคาร่านั้น จะนับเหมือนกับป็อกเด้ง โดยจะมีแต้มรวมสูงสุดที่ 9 แต้ม และมีแต้มต่ำสุดอยู่ที่ 0 แต้ม ไพ่ A จะมีค่าเท่ากับ 1 แต้ม ส่วนไพ่ที่เป็นตัวเลขตั้งแต่ 2-9 จะยังคงนับแต้มตามไพ่ ไพ่ 10 , J , Q , K จะมีแต้มเท่ากับ 0 แต้ม ยกตัวอย่างเช่น
- ผู้เล่นได้ไพ่ 10 กับ 9 จะเท่ากับว่ามี 9 แต้ม
- เจ้ามือได้ไพ่ J กับ 8 จะเท่ากับว่ามี 8 แต้ม
- กรณีที่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม เจ้ามือได้ J กับ 3 เรียกใบที่สามมาได้ 5 จะเท่ากับว่ามี 8 แต้ม
ในกรณีตัวอย่างนี้ ฝ่ายผู้เล่นจะชนะ และได้ยอดเงินเดิมพันคืนเต็มจำนวน แต่ถ้าฝ่ายเจ้ามือชนะ จะได้รับผลตอบแทนเป็น 95% คือเดิมพันที่ 100 บาท จะได้กลับมา 195 บาท รวมทุน สรุปคือบาคาร่านับแต้มรวมของไพ่ ฝ่ายไหนมีแต้มรวมมากกว่า จะเป็นฝ่ายที่ชนะครับ
กฎกติกาการเรียกไพ่ใบที่สาม
ฝ่ายผู้เล่น ( Player )
เนื่องจากเกมบาคาร่าฝ่ายผู้เล่นจะเป็นฝ่ายที่ได้รับไพ่ก่อน ดังนั้นในการเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม จะต้องพิจารณาจากแต้มรวมไพ่สองใบแรกของฝ่ายผู้เล่นก่อนว่ามีแต้มเท่าไหร่ จากนั้นจึงจะพิจารณาว่าไพ่ของฝ่ายเจ้ามือจะอยู่ หรือเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม ตามกฎการเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม หากผู้เล่นเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม จะต้องดูต่อว่าเรียกได้ไพ่อะไร จากนั้นค่อยไปพิจารณาต่อว่าฝ่ายเจ้ามือ จะต้องเรียกไพ่เพิ่มไหม
กฎการเรียกไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น (Player) | |
แต้มรวมไพ่สองใบแรกของผู้เล่น (Player) | การจั่วไพ่เพิ่ม |
ผู้เล่นได้แต้มรวม 0 , 1 , 2 , 3 , 4 , 5 แต้ม | จะต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม |
ผู้เล่นได้แต้มรวม 6 , 7 แต้ม | อยู่ ไม่ต้องจั่วไพ่ |
ผู้เล่นได้แต้มรวม 8 หรือ 9 แต้ม | ไพ่ป๊อก ไม่ต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม และเกมเดิมพันจะหยุดทันที |
ฝ่ายเจ้ามือ ( Banker )
ส่วน กฎการเรียกไพ่ใบที่สามของฝ่ายเจ้ามือ ก็จะอิงจากไพ่ใบที่สามของฝ่ายผู้เล่น ว่าได้ไพ่เลขใด จึงต้องทำการเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม ดังนี้ครับ
แต้มรวมไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ | กฎกติกาการเรียกไพ่ใบที่ 3 ของฝ่ายเจ้ามือ (Banker) | |
ถ้าผู้เล่นเรียกไพ่ใบที่สามได้ไพ่ที่มีแต้มต่อไปนี้
ฝ่ายเจ้ามือ ต้อง เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
ถ้าผู้เล่นเรียกไพ่ใบที่สามได้ไพ่ที่มีแต้มต่อไปนี้
ฝ่ายเจ้ามือ ไม่ต้อง เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม |
|
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 3 แต้ม | 1 – 2 – 3 – 4 – 5 – 6 – 7 – 9 – 0 เจ้ามือต้องเรียกไพ่ใบที่ 3เพิ่ม | 8 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 4 แต้ม | 2 – 3 – 4 – 5 – 6 – 7 เจ้ามือต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม | 1 – 8 – 9 – 0 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 5 แต้ม | 4 – 5 – 6 – 7 เจ้ามือต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม | 1 – 2 – 3 – 8 – 9 – 0 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 6 แต้ม | 6 – 7 เจ้ามือต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม | 1 – 2 – 3 – 4 – 5 – 8 – 9 – 0 เกมจะหยุดทันที |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 7 แต้ม | – | เจ้ามือไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม |
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้ม | – | ไพ่ป๊อก เจ้ามือไม่ต้องเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม เกมจะหยุดทันที |
ตำแหน่งการวางเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงินรางวัล
เกมบาคาร่าออนไลน์เป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทุกคาสิโนออนไลน์ ด้วยรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่ายมากๆ คล้ายกับการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง สำหรับรูปแบบการลงเดิมพันเกมบาคาร่าออนไลน์จะมีดังนี้
1. ลงเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น (Player)
เป็นการลงเดิมพันว่าฝ่ายผู้เล่น หรือฝ่ายสีน้ำเงิน จะเป็นฝ่ายที่ชนะการเดิมพัน การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัลเท่ากับ 1 : 1 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น (Player) จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
2. ลงเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ (Banker)
เป็นการลงเดิมพันว่าฝ่ายเจ้ามือ หรือฝ่ายสีแดง จะเป็นฝ่ายที่ชนะการเดิมพัน การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 0.95 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ (Banker) จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
3. ลงเดิมพันตำแหน่งเสมอ (Tie)
เป็นการลงเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะมีแต้มเท่ากัน หรือเสมอกันนั่นเองครับ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 8 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งเสมอ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 900 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
4. เล่นเกมบาคาร่า ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น
เป็นการเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น (Player) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน อย่างเช่น ฝ่ายผู้เล่นได้รับไพ่เลข 9 จำนวน 2 ใบ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 1,200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
5. ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ
เป็นการเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน อย่างเช่น ฝ่ายเจ้ามือได้รับไพ่เลข 9 จำนวน 2 ใบ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 1,200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
6. ลงเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะได้ไพ่คู่ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 25 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 2,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
7. ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้
เป็นการเดิมพันว่าไพ่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะออกเป็นไพ่คู่ การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 5 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 2,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
8. ลงเดิมพันตำแหน่งต่ำ
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ได้จั่วไพ่เพิ่มเลย การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 1.5 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งต่ำ จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 250 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
9. ลงเดิมพันตำแหน่งสูง
เป็นการเดิมพันว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเปิดไพ่ใบที่ 3 การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 0.54 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งสูง จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 154 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
10. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 0
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 0 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 150 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 0 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 15,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
11. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 1
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 1 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 215 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 1 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 21,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
12. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 2
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 2 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 220 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 2 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 22,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
13. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 3
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 3 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 200 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 3 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 20,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
14. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 4
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 4 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 120 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 4 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 12,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
15. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 5
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 5 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 110 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 5 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 11,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
16. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 6
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 6 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 6 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 4,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
17. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 7
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 7 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 7 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 4,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
18. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 8
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 8 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 8 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 8,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
19. ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 9
เป็นการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 9 แต้ม การเดิมพันรูปแบบนี้มีอัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเงินที่ลงเดิมพัน
- ตัวอย่างการวางเดิมพัน : วางเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 9 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลจากการชนะเดิมพัน 8,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน
แนะนำเว็บไซต์ เล่นเกมบาคาร่า ออนไลน์
ต่อไปผมจะแนะนำเว็บไซต์ เล่นเกมบาคาร่า ออนไลน์ เว็บไซต์ที่ผมจะแนะนำ เป็นเว็บที่ผมใช้งานเป็นประจำและได้รับเงินจริง อีกทั้งยังสามารถเชื่อถือได้แน่นอน
เว็บคาสิโนออนไลน์ Gclub
หากท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิกกับทางเว็บไซต์ให้ท่านสมัครสมาชิกก่อน โดยท่านสามารถศึกษาขั้นตอนในการสมัคร ได้จากบทความ วิธีสมัครสมาชิกGclub หลังจากท่านสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว สามารถศึกษาขั้นตอนการเข้าเล่นเกมบาคาร่าได้จากด้านล่าง
1. เมื่อสมัครสมาชิกกับทางเว็บเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการล็อคอินเพื่อเข้าสู่ระบบ โดยให้กรอกยูสเซอร์ลูกค้า รหัสผ่าน และรหัส 4 หลักที่ท่านเห็น หลังจากนั้นให้คลิกคำว่า ล็อคอิน ที่มุมขวาสุดของหน้าเว็บไซต์ ดูรูปภาพประกอบข้างล่าง
2. หลังจากท่านทำการล็อคอินเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปให้ท่านคลิกคำว่า คาสิโน อยู่บริเวณด้านซ้ายของหน้าเว็บไซต์ (กรอบสีแดง)
3. เมื่อท่านกดเข้ามาที่หมวดเกมคาสิโนเรียบร้อยแล้ว ท่านจะเห็นว่ามีเกมบาคาร่าออนไลน์ให้ท่านได้เลือกเดิมพันมากมาย ท่านสามารถเลือกห้องเดิมพันที่ท่านต้องการเดิมพันได้เลยครับ
วิธีชนะบาคาร่า 7 สูตรง่ายๆ มีโอกาสชนะถึง 97%
เมื่อเราวางเดิมพัน แน่นอนว่าเราก็ต้องการที่จะชนะ แต่การเอาชนะบาคาร่าได้นั้น ในหลักของความเป็นจริงแล้ว เกมการพนันไม่มีสูตรในการเล่น แต่จะมีเพียงเทคนิค และมีโอกาสการเล่นเพียงแค่นั้น โดยมีเป้าหมายในการทำเงิน ประสบผลสำเร็จ ให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง
สำหรับเทคนิคในการเล่นบาคาร่าที่ว่าก็คือ 7 เทคนิคในการเดิมพัน บาคาร่า ที่เป็นเทคนิคการเล่นที่สุดแสนจะง่าย และใช้หลักพื้นฐานในการเล่นที่ช่วยในการทำเงินให้กับผู้เล่น โดยเทคนิคที่ว่านั้นมีดังนี้
1. เทคนิคการดูเค้าไพ่หลังเสมอ การแทงไพ่เค้าคู่เสมอ เป็นการแทงไพ่ที่ให้เราสังเกตเค้าไพ่ที่มีสถิติการออกก่อนหน้านี้ โดยไพ่ที่ออกก่อนหน้านี้ ต้องเป็นการออกเสมอติดกันยาวๆ 4-5 ตา เช่น ไพ่ออกลักษณะเป็น 10 J / 10K /Jk/ QJ นั้นเอง หากออกลักษณะนี้ติดกัน ให้เราลงแทงที่คู่เสมอได้เลย รับรองว่าได้อย่างแน่ๆ และมีผลกว่า 70-85% ในการเอาชนะบาคาร่า
2. การดูเค้าไพ่ พนันออนไลน์ รูปแบบคู่ รูปแบบคี่ ก็คือเค้าไพ่ที่มีลักษณะการออกที่เป็นทั้งคู่และคี่ เช่น PPPP อันนี้คือไพ่เค้าคู่ แต่ถ้า BBB ชนะ เรียงกันอันนี้คือไพ่เค้าคี่นั้นเอง เป็นเค้าไพ่ที่มีการชนะ ที่มี 2 ลักษณะ หากเราเจอเค้าไพ่แบบไหน ให้เราแทงตามเค้าไพ่นั้นได้เลย
3. เทคนิคการดูเค้าไพ่แบบ 3 แถว เป็นการดูเค้าไพ่ยอดนิยมมากเช่นกัน โดยการสังเกตเค้าไพ่นี้ก่อนการแทง ให้เราสังเกตเค้าไพ่ 3 แถว ก่อนหน้านี้ ว่าตัวหน้าสุด คืออะไร หลังจากนั้นให้เราแทงตามตัวนั้นไปได้เลย
4. การตามเค้าไพ่คู่ เป็นการเล่นที่ต้องอาศัยหลักในการเล่น โดยลงวางที่เค้าไพ่ที่มีการชนะเลขคู่ เช่น ฝั่งไหนมีการชนะ 2 4 6 8 ให้เราลงแทงที่ Player ได้เลย นั้นเอง มันจะมีโอกาสการชนะได้ถึง 98%
5. การตามแบบเค้าไพ่ปิงปอง เป็นการ เล่นบาคาร่า ที่มีการตามเค้าไพ่ปิงปิง ที่มีลักษณะเค้าไพ่ที่เป็นการชนะ แบบออกสลับกันไปมา เค้าไพ่นี้ถือเป็นเค้าไพ่ที่อ่านง่ายที่สุด และมีโอกาสชนะได้ง่ายมากที่สุดเช่นกัน
6. การตามแบบเค้าไพ่มังกร เป็นเค้าไพ่ที่มีการอ่านเค้าไพ่ที่ง่าย เป็นเค้าไพ่ยอดนิยมอย่างสูงมาก เพราะถือว่าเป็นเค้าไพ่ที่ทำเงิน ให้กับผู้เล่นได้มากเช่นกัน และเป็นเทคนิคที่มีผู้เล่นเข้าใช้มากที่สุด
7. เทคนิคการพนันออนไลน์ ดูเค้าไพ่ 2 ตัด 1 เป็นเทคนิคการเล่นที่ผู้เล่นควรจำเป็นจะต้องรู้ก่อนว่า เค้าไพ่ก่อนหน้านี้เป็นเค้าไพ่แบบไหน และมีลักษณฯะการเล่นอย่างไรกันบ้าง เช่น ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่ง มีการชนะ 2 ครั้ง ตาที่สามให้เราเลือกลงตามฝั่งที่มีการชรนะได้่เลยนั้นเอง
จากทั้งหมด 7 เทคนิคการ เล่นเกมบาคาร่า ก็เป็นรูปแบบการเล่นที่มีการคิดแผนในการเล่นมาเป็นอย่างดี และเป็นการเตรียมตัวในการเล่น เพื่อให้ทำเงินจากการเล่นให้ได้มากที่สุด การเล่นบาคาร่าในปัจจุบัน มีการเข้าถึงที่ง่ายมากเพราะว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีได้ก้าวเผ่านามีหน้าที่ในชีวิตเราอย่างมากทำให้มีการพนันออนไลน์เกิดขึ้นมา เเน่อนว่าแวดวง พนันออนไลน์ ก็ได้มีการพัฒนาและมีพัฒนาการใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ ทำให้ผู้เล่นหรือนักพนัน ได้มีทางเลือกในการเล่นมากขึ้นนั้นเอง