วงล้อรูเล็ต มีรูปแบบการวางเดิมพันอย่างไร

สวัสดีผู้ติดตาม Stakehow ทุกท่าน บทความนี้ผมก็จะมาอธิบายถึงวิธีเล่นการของ วงล้อรูเล็ต ออนไลน์ กับเว็บคาสิโนไซต์ชั้นนำ ซึ่งบทความนี้ เหมาะสำหรับมือใหม่ทุกท่าน ที่ยังไม่เคยเล่น หรือพึ่งจะหัดเล่นเกมส์รูเล็ต โดยในบทความนี้ผมจะอธิบายรายละเอียดตั้งแต่ รูปแบบของการเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงินของเกมส์นี้เป็นอย่างไร เพราะจะทำให้ท่านเข้าใจในวิธีการเล่นอย่างถูกต้อง โดยในเนื้อหาจะมีอะไรบ้างนั้น  หากท่านพร้อมแล้วเรามารับชมกันได้เลย

 

วงล้อรูเล็ต ออนไลน์

วงล้อรูเล็ต เป็นเกมส์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับตัว เกมส์บาคาร่า  เกมส์เสือมังกร และ เกมส์คาสิโนเกมส์อื่นๆ เลยครับ ด้วยรูปแบบการเล่นที่มีความหลากหลาย สามารถวางเดิมพันได้มาถึง 10 รูปแบบ และอัตราการจ่ายเงินรางวัลยังสูงสุดที่ 35 เท่าเลยทีเดียว จึงทำให้เกมส์รูเล็ตได้รับความนิยมอย่างมากมาโดยตลอด

สำหรับอุปกรณ์ในการเล่นเกมส์รูเล็ต ประกอบไปด้วย วงล้อที่ประกอบไปด้วยตัวเลขทั้งหมด 37 ตัวเลข คือ หมายเลข 0 ถึง 36 และลูกเหล็ก ที่ใช้ในการโยนเพื่อหมุนหารางวัล ในการเล่นเดิมพันหากผลลัพธ์ออกมาตรงกับตำแหน่งที่ผู้เล่นทายไว้ ก็จะได้รับเงินรางวัลตามอัตราการจ่ายที่ทางคาสิโนกำหนดเอาไว้

 

อัตราการจ่ายเงินรางวัล และ ตำแหน่งของการเดิมพัน

การเล่นเกมส์รูเล็ตออนไลน์ ผู้เล่นจะสามารถวางเงินเดิมพันได้ทั้งหมดมากถึง 10 รูปแบบ คือ การเดิมพันแบบเต็งตัวเลข , การเดิมพันแบบคู่ หรือ คี่ , การเดิมพันแบบสีแดง หรือ สีดำ , การเดิมพันสูง หรือ ต่ำ , การเดิมพันแบบค่อม 2 ตัวเลข , การเดิมพันแบบค่อม 3 ตัวเลข , การเดิมพันแบบค่อม 4 ตัวเลข , การเดิมพันแบบค่อม 6 ตัวเลข , การเดิมพันแบบเต็งโซน และการเดิมพันแบบเต็งแถว โดยการเดิมพันแต่ละรูปแบบนั้นจะมีเงื่อนไข และอัตราการจ่ายเงินรางวัลที่แตกต่างกันอยู่บ้าง ดังต่อไปนี้ (ท่านสามารถดูตัวอย่างได้ที่ด้านล่างนี้)

การเดิมพันแบบเต็งตัวเลข

การเต็งตัวแลขจะเป็นการทายตัวเลขเพียง 1 ตัว เท่านั้น โดยผู้เล่นจะสามารถเลือกวางเดิมพันได้ทั้งหมด 37 ตัวเลขด้วยกัน คือ เลข 0 ถึง 36 ส่วนวิธีการวางเดิมพันให้ผู้เล่นนำชิปไปวางไว้ที่ตรงกลางหมายเลขที่ต้องการเดิมพัน โดยที่จะลงเดิมพันกี่หมายเลขก็ได้ อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 35 เท่า

ตัวอย่างของการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่งเลข 0 ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 3,600 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันทั้งหมดแล้ว

การวางเดิมพันแบบ 1 ถึง 18 (ต่ำ) , 19 ถึง 36 (สูง)

จะเป็นการทายว่าผลการเดิมพันจะออกเป็นแต้มต่ำ คือ 1 ถึง 18 แต้ม หรือแต้มสูง คือ 19 ถึง 38 วิธีการวางเดิมพันให้ผู้เล่นนำชิปไปวางไว้ที่ตำแหน่ง 1 ถึง 18 หรือตำแหน่ง 19 ถึง 36 อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 1 ต่อ 1 หรือ 1 เท่าของเิงนเดิมพันนั่นเอง

หมายเหตุ หากว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นหมายเลข 0 ผู้เล่นก็จะแพ้การเดิมพันทันที

ตัวอย่างของการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่ง 1 ถึง 18 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท หากผู้เล่นชนะการเดิมพันครั้งนี้ จะได้รับเงินรางวัล 200 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันทั้งหมดแล้ว

การวางเดิมพันแบบตัวเลขคู่ – ตัวเลขคี่

จะเป็นการทายว่าผลการเดิมพันจะออกเป็นเลขคู่ หรือเป็นเลขคี่ วิธีการวางเดิมพันให้ผู้เล่นนำชิปไปวางไว้ที่ตำแหน่งเลขคู่ หรือตำแหน่งเลขคี่ อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 1 เท่า

หมายเหตุ หากว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นหมายเลข 0 ท่านจะแพ้การเดิมพันทันที เช่นเดียวกันกับการเดิมพันเต็งตัวเลข

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่งเลขคู่ ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากผู้เล่นชนะการเดิมพันในครั้งนี้ จะได้รับเงินรางวัล 200 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันทั้งหมดแล้ว

การวางเดิมพันแบบสีแดง – สีดำ

จะเป็นการทายว่าผลของการเดิมพัน ที่จะออกเป็นสีแดง หรือสีดำ โดยในตัวเลขทั้ง 37 ตัวเลขจะมีสีกำกับเอาไว้ทั้งหมดเลข ดังต่อไปนี้ครับ

1. สีแดง ประกอบไปด้วย 1 – 3 – 5 – 7 – 9 – 12 – 14 – 16 – 18 – 19 – 21 – 23 – 25 – 27 – 30 – 32 – 34 – 36
2. สีดำ ประกอบไปด้วย 2 – 4 – 6 – 8 – 10 – 11 – 13 – 15 – 14 – 20 – 22 – 24 – 26 – 29 – 31 – 33 – 35

สำหรับวิธีการวางเดิมพันให้ผู้เล่นนำชิปไปวางไว้ที่ตำแหน่งสีแดง หรือตำแหน่งสีดำ อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 1 เท่า

หมายเหตุ หากว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นหมายเลข 0 ท่านจะแพ้การเดิมพันทันที

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่งสีแดง ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากผู้เล่นชนะการเดิมพันในครั้งนี้ จะได้รับเงินรางวัล 200 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันทั้งหมดแล้ว

การวางเดิมพันแบบเต็งโซน

เป็นการวางเดิมพันตัวเลขในช่อง 1st12 , 2nd12 , 3rd12 โดยในแต่ละช่องจะประกอบไปด้วยตัวเลข 12 ตัวเลขที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้ครับ

1. 1st12 ประกอบไปด้วยหมายเลข 1 – 2 – 3 – 4 – 5 – 6 – 7 – 8 – 9 – 10 – 11 และ 12
2. 2nd12 ประกอบไปด้วยหมายเลข 13 – 14 – 15 – 16 – 17 – 18 – 19 – 20 – 21 และ 22
3. 3rd12 ประกอบไปด้วยหมายเลข 25 – 26 – 27 – 28 – 29 – 30 – 31 – 32 – 33 – 34 – 35 และ 36

สำหรับวิธีการวางเดิมพัน ให้ผู้เล่นนำชิปเงินไปวางไว้ที่ตำแหน่ง 1st12 , 2nd12 หรือตำแหน่ง 3rd12 อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 2 เท่า

หมายเหตุ หากว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นหมายเลข 0 ท่านจะแพ้การเดิมพันทันที

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่ง 1st12 ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากผู้เล่นชนะการเดิมพันครั้งนี้ จะได้รับเงินรางวัล 300 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันทั้งหมดแล้ว

การวางเดิมพันแบบเต็งแถว

จะเป็นการวางเดิมพันตัวเลขในช่อง แถวบน , แถวกลาง , แถวล่าง โดยในแต่ละช่องจะประกอบไปด้วยตัวเลขทั้งหมด 12 ตัวเลขที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้ครับ

1. แถวบน ประกอบไปด้วยหมายเลข 3 – 6 – 9 – 12 – 15 – 18 – 21 – 24 – 27 – 30 – 33 และ 36
2. แถวกลาง ประกอบไปด้วยหมายเลข 2 – 5 – 8 – 11 – 14 – 17 – 20 – 23 – 26 – 29 – 32 และ 35
3. แถวล่าง ประกอบไปด้วยหมายเลข 1 – 4 – 7 – 10 – 13 – 16 – 19 – 22 – 25 – 28 – 31 และ 34

สำหรับวิธีการวางเดิมพันให้ผู้เล่นนำชิปเงินไปวางไว้ที่ตำแหน่ง 2to1 ในแถวบน , แถวกลาง หรือแถวล่าง อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 2 เท่า

หมายเหตุ หากว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นหมายเลข 0 ท่านจะแพ้การเดิมพันทันที

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่ง2to1 แถวบน ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัล 300 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว

การวางเดิมพันแบบค่อม 2 ตัวเลข

จะเป็นการวางเดิมพันระหว่างตัวเลข 2 ตัวเลขที่อยู่ติดกันเท่านั้น สำหรับวิธีการวางเดิมพันให้ผู้เล่นนำชิปเงินไปวางไว้ที่ตรงกลางระหว่างตัวเลข 2 ตัวที่อยู่ติดกัน ยกตัวอย่างในการวางเช่น 14-17 อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 17 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่งค่อมหมายเลข 14-17 ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากผู้เล่นชนะการเดิมพันครั้งนี้ ก็จะได้รับเงินรางวัล 1,800 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันทั้งหมดแล้ว

การวางเดิมพันแบบค่อม 3 ตัวเลข

เป็นการวางเดิมพันระหว่างตัวเลข 3 ตัวเลขที่อยู่แถวเดียวกันในแนวตั้งเท่านั้น สำหรับวิธีการวางเดิมพันให้ผู้เล่นนำชิปไปวางไว้ที่แถวด้านล่างตัวเลข 3 ตัวที่อยู่แถวเดียวกัน ยกตัวอย่างในการวางเดิมพันเช่น 13-14-15 อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 11 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่งค่อมหมายเลข 13-14-15 ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากผู้เล่นชนะการเดิมพันในครั้งนี้ จะได้รับเงินรางวัล 1,200 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันทั้งหมดแล้ว

การวางเดิมพันแบบค่อม 4 ตัวเลข

จะเป็นการวางเดิมพันระหว่างตัวเลข 4 ตัวเลขที่อยู่ติดกันเท่านั้น สำหรับวิธีการวางเดิมพันให้ผู้เล่นนำชิปไปวางไว้ที่มุมตรงกลางระหว่างตัวเลข 4 ตัวเลข (ให้สังเกตรูปภาพตัวอย่างที่ด้านล่าง) ยกตัวอย่างในการเดิมพันเช่น 13-14-16-17 อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 8 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่งค่อมหมายเลข 13-14-16-17 ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากผู้เล่นชนะการเดิมพันครั้งนี้ ก็จะได้รับเงินรางวัล 900 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันทั้งหมดแล้ว

การวางเดิมพันแบบค่อม 6 ตัวเลข

เป็นการวางเดิมพันระหว่างตัวเลข 6 ตัวเลข การวางเดิมพันในแถวที่มีหมายเลข 3 ตัวติดกันในแนวตั้ง สำหรับวิธีการวางเดิมพันให้ผู้เล่นนำชิปเงินไปวางไว้ที่แถวด้านล่างระหว่างแถวทั้ง 2 ที่ติดกัน ยกตัวอย่างเช่น 13-14-15-16-17-18 อัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 5 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน : ผู้เล่นลงเดิมพันตำแหน่งค่อมหมายเลข 13-14-15-16-17-18 ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท หากผู้เล่นชนะการเดิมพันรอบนี้ จะได้รับเงินรางวัล 600 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันทั้งหมดแล้ว

 

เพียงเท่านี้ท่านก็จะเข้าใจในรูปแบบการวางเดิมพันของเกมส์ วงล้อรูเล็ต แล้วครับ รูปแบบการเล่นไม่ได้ยากอย่างที่คิด เดิมพันวางกับตัวเลขหรือจะคล่อมเลข แล้วแต่ว่าท่านต้องการผลตอบแทนสูงมากน้อยแค่ไหน