สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน จากบทความที่แล้วที่ผมได้พูดถึง กติกาป๊อกเด้ง ไปแล้ว บทความนี้ผมจะมาพูดถึง เกมไพ่ที่มีวิธีเล่นคล้ายคลึงกัน นั่นคือ ป๊อกเด้ง และ บาคาร่า โดยเราจะมาดูข้อแตกต่างระหว่างเกมไพ่สองเกมนี้ที่ได้รับความนิยมในบ้านเราทั้งคู่ ข้อแตกต่างของ ป๊อกเด้ง บาคาร่า จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยครับ
ป๊อกเด้ง คืออะไร
ป๊อกเด้ง(Pokdeng card game) เป็นเกมไพ่ชนิดหนึ่งที่เล่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มีผู้แจกไพ่ที่เรียกว่าเจ้ามือ และผู้เล่นที่เรียกว่าขา เป็นเกมไพ่ที่นิยมเล่นในบ้านเราเป็นอย่างมากทั้งในเวลาว่างๆ ตามงานเทศกาล และงานสังสรรค์ต่างๆ เพื่อความสนุกสนานและผ่อนคลาย
ป๊อกเด้งเป็นเกมที่ค่อนข้างจบไว เล่นง่าย เน้นดวงมากกว่าเทคนิค มีวิธีการเล่นคร่าวๆ ดังนี้ครับ
เริ่มเล่นโดยเจ้ามือทำการจากไพ่ให้กับผู้เล่นทุกคนรวมถึงตัวเจ้ามือเองด้วย คนละ 2 ใบ โดยเจ้ามือจะได้ไพ่เป็นคนสุดท้ายเสมอ เมื่อผู้เล่นทุกคนได้รับไพ่ครบคนละ 2 ใบ ผู้เล่นจะต้องรวมผลบวกของไพ่สองใบเป็นคะแนนมาตัดสินแพ้ชนะกับเจ้ามือ โดยการเล่นจะแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ
ช่วงไพ่ 2 ใบ – ผู้เล่นที่รวมคะแนนไพ่ได้ 8 และ 9 คะแนนจะเรียกว่าป๊อกเด้ง ผู้เล่นที่ได้ไพ่แต้มนี้จะต้องโชว์ไพ่ออกมาและวัดกับเจ้ามือทันที ถ้าเจ้ามือไม่ป๊อกผู้ที่ได้ป๊อกจะได้เงินเดิมพันจากเจ้ามือทันที แต่ถ้าเจ้ามือป๊อก เจ้ามือจะโชว์ไพ่และวัดคะแนนกับผู้เล่นทุกคนทันที และจบเกมนั้นไป
ช่วงไพ่ 3 ใบ – เป็นช่วงหลังจากที่เจ้ามือ และผู้เล่นที่ไม่ป๊อกมาเล่นกันต่อ ในรอบนี้ผู้เล่น และเจ้ามือจะเลือกได้ว่าจะเรียกไพ่เพิ่มอีก 1 ใบหรือไม่ ส่วนใหญ่จะไม่เรียกเพิ่มถ้าแต้มอยู่ระหว่าง 5 ถึง 7 หรือมีเด้งอยู่ในมือแล้วต้องการวัดกับเจ้ามือหวังเดิมพันพิเศษ
ถ้าสนใจกติกาของป๊อกเด้งอย่างละเอียด คลิ๊ก เข้าไปอ่านได้เลย
บาคาร่า คืออะไร
บาคาร่า(Baccarat) เป็นเกมไพ่อีกชนิดหนึ่งที่นิยมเล่นกันมากในคาสิโน โดยจะมี ผู้แจกไพ่ (ดีลเลอร์) จะทำการแจกไพ่ให้กับฝั่งเจ้ามือ (Banker) และฝั่งผู้เล่น (Player) ฝั่งละ 2 ใบ และนำแต้มของทั้งสองฝั่งมาวัดคะแนนกัน ซึ่งก่อนที่จะเริ่มทำการแจกไพ่และวัดผลนั้น เราก็ต้องลงเดิมพันว่าฝั่งใดจะชนะ เช่น ทายว่าฝั่ง Banker ชนะ ผลออกมา Banker ชนะ เราก็ได้เงิน จากนั้นก็จะทำการเริ่มรอบเดิมพันใหม่อีกครั้ง
และนอกจากการเดิมพันที่ลงได้ทั้งฝั่ง Player และ Banker แล้วนั้น เรายังสามารถลงเดิมพันในฝั่งเสมอได้ด้วย ซึ่งถ้าในตานั้นเราลงเดิมพันเสมอ แล้วผลปรากฎว่าไพ่ทั้งสองฝั่งคะแนนเท่ากัน เราจะได้เงินเดิมพันสูงถึง 8 เท่า แต่ถ้าเราเดิมพันในฝั่ง Player หรือ Banker แล้วผลในตานั้นออกมาเสมอ เราก็จะไม่เสียเงินเดิมพันในรอบนั้นๆ ครับ
สำหรับวิธีเล่นบาคาร่าก็ไม่ยากครับ ผมจะอธิบายคร่าวๆ ดังนี้
บนโต๊ะจะมีดีลเลอร์(ผู้แจกไพ่) ทำหน้าที่ดำเนินเกม พร้อมกับแจกไพ่ให้กับฝั่ง Player และ Banker ผู้เดิมพัน ในที่นี้ คือ ผู้เล่นบนโต๊ะที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินเกม หลักการของเกมคือ ดีลเลอร์ทำการแจกไพ่ 2 ใบให้กับ Player และ Banker และจะทำการวัดไพ่ทั้งสองฝั่ง หากฝั่งใดได้แต้ม 9 หรือมีแต้มสูงกว่าอีกฝั่ง ฝั่งนั้นก็จะชนะ ผู้เดิมพันแค่ลงเดิมพันทายว่าฝั่งไหนจะชนะแค่นั้นครับ (หรือจะลงเดิมพันว่าเสมอก็ได้) และมีการเรียกไพ่เพิ่มตามกฎโดยอ้างอิงจากคะแนนด้วย
ยกตัวอย่าง Player ได้ไพ่ 2 ใบ คือ 7 และ 9 รวมกันได้ 16 แสดงว่า Player มีคะแนนคือ 6 และ Banker มีไพ่ 2 ใบคือ 1 และ 8 รวมกันเป็น 9 แสดงว่า Banker มี 9 คะแนน หมายความว่าว่า Bankerชนะ เพราะมีแต้มมากกว่าครับ
ผู้เล่นที่ลงเดิมพันกับ Player จะเสียเงินเดิมพันทั้งหมด และผู้เล่นที่ลงเดิมพันกับ Banker จะได้เงินเดิมพัน 1:1 จากเงินที่ลงเดิมพัน ทั้งนี้ในการลงเดิมพันฝั่ง Banker หากชนะ อาจจะมีการหักค่าคอมมิชชั่นประมาณ 5% หรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละโต๊ะจะกำหนด
หากท่านใดอยากรู้จักบาคาร่าอย่างละเอียด ผมแนะนำให้อ่านบทความนี้ครับ รับรองว่าครบและละเอียดแน่นอน บาคาร่าคืออะไร
ข้อแตกต่างระหว่าง ป๊อกเด้ง และ บาคาร่า
จากที่อ่านมาข้างต้นหลายคนอาจจะเริ่มสังเกตเห็นแล้วว่า ป๊อกเด้ง และบาคาร่ามีความคล้ายกันอย่างมากตรงที่แต้มของไพ่ 2 ใบ แรก ต้องเข้าใกล้ 9 มากที่สุด ถึงจะชนะ และถ้าไพ่มีแต้มต่ำก็จะมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 มาเพิ่มเหมือนกันเลย แต่ในด้านของรายละเอียดแล้วยังมีความแตกต่างกันหลายอย่างทีเดียว มีอะไรบ้างผมสรุปเป็นส่วนๆ ดังนี้
สถานที่
ป๊อกเด้งจะเล่นกันทั่วไปเลย เล่นที่ไหนก็ได้ตามที่ต้องการ เพราะมีอุปกรณ์การเล่นไม่มาก แค่มีไพ่ 1 สำรับ กับผ้าปูกันไพ่ลอก และให้หยิบจับง่าย ส่วนบาคาร่าต้องใช้สถานที่สำหรับวางโต๊ะเดิมพัน และที่นั่งให้ผู้เดิมพัน ส่วนใหญ่จึงเล่นในคาสิโนสด หรือคาสิโนออนไลน์
อุปกรณ์การเล่น
ป๊อกเด้งจะใช้ไพ่ 1 สำรับ ผ้าปู และมีผู้เล่นแค่นั้นก็เพียงพอที่จะเล่นแล้ว แต่บาคาร่า ใช้ไพ่ถึง 8 สำรับ โต๊ะวางเดิมพัน และผู้แจกไพ่สำหรับดำเนินเกม รวมไปถึงเก้าอี้สำหรับให้ผู้เดิมพันมานั่งด้วย
การเดิมพัน
ป๊อกเด้งจะเดิมพันกับไพ่บนมือของตัวเองและเจ้ามือ และผู้เล่นลงเดิมพันเท่าไหร่ก็ได้ แต่ไม่เกินที่เจ้ามือกำหนด แต่บาคาร่าผู้เล่นจะเดิมพันว่า Player กับ Banker ฝั่งไหนจะชนะ ไม่ได้ลุ้นไพ่ของตัวเอง เป็นการลุ้นไพ่กองกลางจากผู้ดำเนินเกม
อัตราจ่าย
ป๊อกเด้งมีอัตราจ่ายที่ชัดเจนกำหนดไว้เป็นกติกา เช่น 2 เด้ง ได้เดิมพัน 2 เท่า ตองได้เดิมพัน 5 เท่า ส่วนบาคาร่า การเดิมพันปกติจะได้ 1 เท่าของเดิมพันถ้าเดิมพันฝั่งที่ชนะ และมีการลงเดิมพันอื่นๆ ที่ให้อัตราจ่ายเยอะขึ้น เช่น เสมอ อัตราจ่าย 8 เท่า จะไม่มีส่วนของการเด้งเหมือนป๊อกเด้ง
การเรียกไพ่
การเรียกไพ่ใบที่ 3 ป๊อกเด้งจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นเองว่าพอใจกับแต้มไพ่ของตัวเองแล้วหรือยัง ถ้าพอใจก็ไม่เรียก แต่บาคาร่าจะมีกฎในการเรียกไพ่ใบที่ 3 ดังนี้
- กรณีที่ ของฝั่ง Player หรือ Banker ได้ 8 -9 (แนเชอรัล) ให้ทำการตัดสินทันที
- กรณีที่ ฝั่ง Player ได้แต้ม 6-7 ให้อยู่ (Still) ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
- กรณีเจ้ามือ ได้ 6-7 แต้ม ไม่ต้องจั่วเพิ่ม ให้ทำการตัดสินไพ่ทันที
- ถ้าเจ้ามือได้ 0-5 แต้ม ให้ทำการจั่วไพ่ใบที่ 3 (Draw) ก่อนตัดสิน
- กรณีที่ ฝั่ง Player ได้ 0-5 แต้ม ให้ทำการจั่วไพ่ใบที่ 3 หลังจากนั้นเจ้ามือจะจั่วไพ่เพิ่มหรือไม่ จะต้องอิงจากแต้มสองใบฝั่งเจ้ามือ และแต้มสามใบของผู้เล่น ดังรูปภาพด้านล่าง ดังนี้
หมายเหตุ S = Still (อยู่ ไม่ต้องจั่วไพ่) , D = Draw (เจ้ามือจั่วไพ่)
ทิ้งท้าย
จบไปแล้วครับสำหรับบทความ ป๊อกเด้ง บาคาร่า ข้อแตกต่างระหว่างเกมไพ่ที่คล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน ซึ่งไพ่ทั้งสองชนิดนี้นิยมเล่นกันมากในบ้านเรา แต่ป๊อกเด้งมีจุดประสงค์เพื่อผ่อนคลาย และเล่นเพื่อพบปะสังสรรค์กันมากกว่า ส่วนบาคาร่าออกจะเป็นแนวของการเล่นเพื่อเดิมพันในคาสิโนเพื่อหวังกำไรซะส่วนใหญ่ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะครับ บทความนี้ขอจบเพียงเท่านี้ครับขอบคุณที่ติดตาม Stakehow ครับ
หากชอบบทความของเรากดเพิ่ม LINE Stakehowเอาไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน พร้อม กดกระดิ่งด้านขวา ล่างของหน้าจอ เพื่อแจ้งเตือนบทความใหม่ๆจากทางเราได้ครับ พบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ