เกมส์ บาคาร่าออนไลน์ เกมส์ที่มีนักเดิมพันเข้าเล่นมากที่สุด

สวัสดีครับผู้ที่กำลังติดตาม Stakehow ทุกท่าน บทความนี้ผมจะมาพูดถึง เกมส์ บาคาร่าออนไลน์ เกมส์คาสิโนที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยผมจะอธิบายกฎกติกา รูปแบบเงื่อนไขของการเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงินเดิมพัน รวมถึงขั้นตอนการเดิมพันในเว็บคาสิโนอีกด้วย สำหรับนักเดิมพันมือใหม่ไปทำความเข้าใจพร้อมกันในบทความนี้ได้เลยครับ

 

เกมส์ บาคาร่าออนไลน์

เกมส์บาคาร่า หรือเกมมส์ baccarat เป็นเกมส์คาสิโนออนไลน์ที่มีนักเดิมพันให้ความสนใจ และเข้าเล่นมากที่สุด ด้วยรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนมากนัก ลักษณะการเล่นมีความคล้ายกับการเล่นป๊อกเด้ง สำหรับอุปกรณ์ในการเล่นจะใช้ไพ่จำนวน 6-8 สำรับ วิธีการเล่นดีลเลอร์ก็จะแจกไพ่ให้ฝ่ายละ 2 ใบ โดยฝ่ายผู้เล่นจะได้รับไพ่ก่อน หากฝ่ายไหนมีแต้ม 9 แต้ม หรือใกล้เคียงกับ 9 แต้มมากที่สุดฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายที่ชนะการเดิมพัน

 

กติกาเกมส์บาคาร่าออนไลน์

ในส่วนของกติกาการเล่นเกมส์บาคาร่าออนไลน์นั้นสำคัญมาก ผู้เล่นทุกท่านจะต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนเข้าเล่นเดิมพัน เพราะจะทำให้ท่านเสียเปรียบการเดิมพันได้หากไม่เข้าใจในส่วนนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจ โดยผมจะอธิบายอย่างละเอียด ดังนี้ครับ

การแจกไพ่

ในการแจกไพ่ ดีลเลอร์ประจำโต๊ะจะเป็นคนทำการแจกไพ่ให้ทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายผู้เล่น ( Player ) และฝ่ายเจ้ามือ ( Banker ) โดยฝ่ายผู้เล่นจะได้รับไพ่ก่อน ตามด้วยฝ่ายเจ้ามือ ทั้ง 2 ฝ่ายจะได้รับไพ่ 2 ใบเท่ากัน หากฝ่ายไหน หากฝ่ายไหนได้แต้ม 5 แต้มหรือน้อยกว่า 5 แต้ม จะต้องเรียกไพ่เพิ่มตามกฎการเรียกไพ่เพิ่มครับ

 

การนับแต้ม

วิธีการดูแต้มของไพ่บาคาร่านั้นง่ายมาก ให้ดูจากไพ่ที่ได้รับ ถ้าได้รับไพ่ A เท่ากับว่าไพ่ใบนั้นมีแต้มไพ่ 1 แต้ม ถ้าได้รับไพ่ 10 , J , Q , K เท่ากับว่าไพ่ใบนั้นมีแต้มไพ่ 0 แต้ม ถ้าหากได้รับไพ่ 2-9 เท่ากับว่ามีแต้มเท่ากับเลขบนหน้าไพ่ ยกตัวอย่างเช่น ได้รับไพ่เลข 9 เท่ากับว่าไพ่ใบนั้นมีแต้ม 9 แต้ม

วิธีการนับแต้มบาคาร่ามีความคล้ายกับการนับแต้มป๊อกเด้งมากๆ ในการนับแต้มเกมส์บาคาร่าให้นำแต้มของไพ่ในมือทั้งหมดมารวมกัน ถ้าหากได้เกิน 10 แต้ม ให้นับแค่ตัวเลขที่อยู่ด้านหลังเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าได้รับไพ่ 8 และไพ่ 7 นำมารวมกันแล้วได้ 8+7 = 15 เท่ากับว่าผมรวมทั้งหมดของไพ่ในมือคือ 5 แต้ม

เกมส์ บาคาร่าออนไลน์
การนับแต้ม

 

การเรียกไพ่เพิ่ม

เกมส์บาคาร่าฝ่ายผู้เล่นจะเป็นฝ่ายที่ได้รับไพ่ก่อน ดังนั้นในการเรียกไพ่เพิ่มจะพิจารณาจากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่นก่อนว่ามีแต้มรวมทั้งหมดเท่าไหร่ หากได้แต้ม 5 แต้มหรือน้อยกว่า 5 แต้ม จะต้องเรียกไพ่เพิ่มตามกฎ จากนั้นจะดูแต้มรวมของฝ่ายผู้เล่นว่ามีแต้มรวมทั้งหมดเท่าไหร่อีกครั้ง ถึงจะพิจารณาต่อว่าฝ่ายเจ้ามือนั้นควรเรียกไพ่เพิ่มหรือไม่ ดังตารางด้านล่างนี้ครับ

การเรียกไพ่เพิ่มของฝ่ายผู้เล่น ( Player )

กฎการเรียกไพ่เพิ่มของผู้เล่น ( Player )
แต้มรวมไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่น ( Player )  การเรียกไพ่เพิ่ม
เมื่อผู้เล่นได้แต้มรวม 0 , 1  , 2 , 3 , 4 , 5 แต้ม จะต้องเรียกไพ่เพิ่ม
เมื่อผู้เล่นได้แต้มรวม 6 , 7 แต้ม อยู่ ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม
เมื่อผู้เล่นได้แต้มรวม 8 หรือ 9 แต้ม ไพ่ป๊อก ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม และเกมส์เดิมพันจะหยุดทันที

การเรียกไพ่เพิ่มของฝ่ายเจ้ามือ ( Banker )

แต้มรวมไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ ( Banker ) กฎกติกาการเรียกไพ่เพิ่มของฝ่ายเจ้ามือ ( Banker )
ถ้าผู้เล่นเรียกไพ่เพิ่มได้ไพ่ที่มีแต้มต่อไปนี้

ฝ่ายเจ้ามือ ต้อง เรียกไพ่เพิ่ม

ถ้าผู้เล่นเรียกไพ่เพิ่มได้ไพ่ที่มีแต้มต่อไปนี้

ฝ่ายเจ้ามือ ไม่ต้อง เรียกไพ่เพิ่ม

เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 3 แต้ม 1 – 2 – 3 – 4 – 5 – 6 – 7 – 9 – 0 เจ้ามือต้องเรียกไพ่เพิ่ม 8 เกมส์จะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 4 แต้ม 2 – 3 – 4 – 5 – 6 – 7 เจ้ามือต้องเรียกไพ่เพิ่ม 1 – 8 – 9 – 0 เกมส์จะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 5 แต้ม 4 – 5 – 6 – 7 เจ้ามือต้องเรียกไพ่เพิ่ม 1 – 2 – 3 – 8 – 9 – 0 เกมส์จะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 6 แต้ม 6 – 7 เจ้ามือต้องเรียกไพ่เพิ่ม 1 – 2 – 3 – 4 – 5 – 8 – 9 – 0 เกมส์จะหยุดทันที
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 7 แต้ม เจ้ามือไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม
เมื่อเจ้ามือได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้ม ไพ่ป๊อก เจ้ามือไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม เกมส์จะหยุดทันที

 

รูปแบบเงื่อนไขของการเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงินเดิมพัน

รูปแบบการเดิมพันของเกมส์บาคาร่าออนไลน์นั้นมีอยู่ทั้งหมด 19 รูปแบบด้วยกัน โดยแต่ละรูปแบบจะมีเงื่อนไขการเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงินเดิมพันต่างกัน ดังนี้ครับ

รูปแบบการเดิมพันของเกมส์บาคาร่าออนไลน์ เงื่อนไขการเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินเดิมพัน

1. ตำแหน่งผู้เล่น (Player)

การเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น เป็นการทายว่าแต้มของฝ่ายผู้เล่น (Player) จะมีแต้มมากกว่าฝ่ายเจ้ามือ (Banker)

ตัวอย่างเช่น หากท่านเลือกเดิมพันฝ่ายผู้เล่น หากฝ่ายผู้เล่นมี 8 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือมี 7 แต้ม นั่นแปลว่าท่านเป็นผู้ชนะการเดิมพัน

อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 200 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

2. ตำแหน่งเจ้ามือ (Banker) การเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ เป็นการทายว่าแต้มของฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้มมากกว่าฝ่ายผู้เล่น (Player)

ตัวอย่างเช่น หากท่านเลือกเดิมพันฝ่ายเจ้ามือ หากฝ่ายเจ้ามือมี 8 แต้ม ฝ่ายผู้เล่นมี 7 แต้ม นั่นแปลว่าท่านเป็นผู้ชนะการเดิมพัน

อัตราการจ่ายอยู่ที่ 0.95 เท่า (การเดิมพันในตำแหน่งเจ้ามือ (Banker) จะถูกหักค่าคอมมิชชั่นหรือค่าต๋ง 5 เปอร์เซ็นต์)

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 195 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

3. ตำแหน่งเสมอ (Tie game) การเดิมพันตำแหน่งเสมอ เป็นการทายว่าเมื่อเปิดไพ่ครบทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว แต้มทั้ง 2 ฝ่ายออกมาเท่ากัน

ตัวอย่างเช่น เมื่อเปิดไพ่ออกมาแล้วฝ่ายผู้เล่นมี 8 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือมี 8 แต้มเหมือนกัน นั่นแปลว่าฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือเสมอกันครับ

อัตราการจ่ายอยู่ที่ 8 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 900 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

4. ตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น

การเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น เป็นการทายว่าเมื่อเปิดไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น (Player) แล้ว ไพ่จะออกมาเป็นไพ่หน้าเดียวกัน

ตัวอย่างเช่น หากท่านเลือกเดิมพันไพ่คู่ของผู้เล่น เมื่อเปิดไพ่ออกมาแล้วไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่นเป็นไพ่ 4 เหมือนกัน นั่นแปลว่าท่านจะชนะในการเดิมพัน

อัตราการจ่ายอยู่ที่ 11 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 1,200 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

5. ตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ

การเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ เป็นการทายว่าเมื่อเปิดไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือ (Banker) แล้ว ไพ่จะออกมาเป็นไพ่หน้าเดียวกัน

ตัวอย่างเช่น หากท่านเลือกเดิมพันไพ่คู่ของเจ้ามือ เมื่อเปิดไพ่ออกมาแล้วไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือเป็นไพ่ 4 เหมือนกัน นั่นแปลว่าท่านจะชนะในการเดิมพัน

อัตราการจ่ายอยู่ที่ 11 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 1,200 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

6. ตำแหน่ง Perfect Pair

การเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair เป็นการทายว่าไพ่ของทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) เมื่อเปิดไพ่ 2 ใบแรกแล้ว ไพ่จะออกมาเป็นไพ่หน้าเดียวกัน

ตัวอย่างเช่น หากท่านเลือกเดิมพัน Perfect Pair เมื่อเปิดไพ่ออกมาแล้ว ไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่นเป็นไพ่ 4 เหมือนกัน และไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเป็นไพ่ 3 เหมือนกัน นั่นแปลว่าท่านจะชนะในการเดิมพัน

อัตราการจ่ายอยู่ที่ 25 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 2,600 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

7. ตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้

การเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ เป็นการทายว่าไพ่ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เมื่อเปิดไพ่ 2 ใบแรกแล้ว ไพ่จะออกมาเป็นไพ่หน้าเดียวกัน

ตัวอย่างเช่น หากท่านเลือกเดิมพันไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ เมื่อเปิดไพ่ออกมาแล้ว ไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่นเป็นไพ่ 4 เหมือนกัน นั่นแปลว่าท่านจะชนะในการเดิมพัน

อัตราการจ่ายอยู่ที่ 5 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 600 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

8. ตำแหน่งต่ำ

การเดิมพันตำแหน่งต่ำ เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะไม่มีฝ่ายไหนที่เรียกไพ่เพิ่มเลย อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1.5 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 205 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

9. ตำแหน่งสูง

การเดิมพันตำแหน่งสูง เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเรียกไพ่เพิ่ม หรือเรียกไพ่เพิ่มทั้ง 2 ฝ่าย อัตราการจ่ายอยู่ที่ 0.54 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 154 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

10. ตำแหน่งเลข 0 การเดิมพันตำแหน่งเลข 0 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 0 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 150 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 15,100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

11. ตำแหน่งเลข 1 การเดิมพันตำแหน่งเลข 1 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 1 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 215 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 21,600 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

12. ตำแหน่งเลข 2 การเดิมพันตำแหน่งเลข 2 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 2 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 220 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 22,100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

13. ตำแหน่งเลข 3 การเดิมพันตำแหน่งเลข 3 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 3 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 200 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 20,100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

14. ตำแหน่งเลข 4 การเดิมพันตำแหน่งเลข 4 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 4 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 120 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 12,100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

15. ตำแหน่งเลข 5 การเดิมพันตำแหน่งเลข 5 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 5 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 110 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 11,100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

16. ตำแหน่งเลข 6 การเดิมพันตำแหน่งเลข 6 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 6 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 45 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 4,600 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

17. ตำแหน่งเลข 7 การเดิมพันตำแหน่งเลข 7 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 7 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 45 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 4,600 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

18. ตำแหน่งเลข 8 การเดิมพันตำแหน่งเลข 8 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 8 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 80 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 8,100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

19. ตำแหน่งเลข 9 การเดิมพันตำแหน่งเลข 9 เป็นการทายว่าในการเดิมพันรอบนั้น หลังจากที่เปิดไพ่ครบทุกใบแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เล่น (Player) และฝ่ายเจ้ามือ (Banker) จะมีแต้ม 9 แต้ม เท่ากัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 80 เท่า

ตัวอย่างการคำนวณเงินเดิมพัน ลงเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท เมื่อชนะการเดิมพันจะได้รับเงิน 8,100 บาท (เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินลงเดิมพันแล้ว)

และต่อไปผมจะแนะนำเว็บไซต์ Next88 เพื่อเล่น เกมส์ บาคาร่าออนไลน์ ซึ่งเว็บไซต์ที่ผมจะมาแนะนำในวันนี้ เป็นเว็บที่ผมใช้งานเป็นประจำ และได้รับเงินจริง ปลอดภัยอีกทั้งยังสามารถเชื่อถือได้แน่นอนครับ

 

ขั้นตอนการเล่นเดิมพัน เกมส์ บาคาร่าออนไลน์

หากท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิกกับทางเว็บไซต์ให้ท่านสมัครสมาชิกก่อน โดยท่านสามารถศึกษาขั้นตอนในการสมัครได้จากบทความในลิงค์ สมัครสมาชิก Next88 ได้เลยครับ หลังจากท่านสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว สามารถศึกษาขั้นตอนการเข้าเล่นเกมส์บาคาร่าได้จากด้านล่างนี้เลย

1. เมื่อสมัครสมาชิกกับทางเว็บเรียบร้อยแล้วให้ทำการล็อคอินเพื่อ เข้าสู่ระบบ โดยให้กรอก ชื่อบัญชีผู้ใช้ และรหัสผ่าน หลังจากนั้นให้คลิกที่คำว่า เข้าสู่ระบบ (ในกรอบสีแดง) ที่มุมขวาสุดของหน้าเว็บไซต์ ดูรูปภาพประกอบข้างล่างครับ

 

2. หลังจากท่านทำการล็อคอินเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปให้ท่านคลิกคำว่า คาสิโนสด (กรอบสีแดง) ที่อยู่บริเวณเมนูด้านบนของหน้าเว็บไซต์

เกมส์ บาคาร่าออนไลน์

 

3. หลังจากที่เข้าไปที่คาสิโนสดแล้ว ท่านจะสังเกตเห็นว่าทางเว็บ Next88 มี 4 แบรนด์ให้ท่านเลือกเล่นด้วยกัน คือ AE Sexy , CLUB GPI , PLAYTECH LIVE และ MicroGaming LIVE ซึ่งท่านสามารถเลือกเล่นแบรนด์คาสิโนออนไลน์แบรนด์ไหนก็ได้ตามที่ท่านต้องการ แต่ในบทความนี้ผมจะใช้คาสิโน แบรนด์ CLUB GPI (กรอบสีแดง)

เกมส์ บาคาร่าออนไลน์

 

4. เมื่อเข้ามาที่แบรนด์ CLUB GPI แล้ว ท่านจะเห็นว่ามีเกมส์คาสิโนมากมายให้ท่านได้เลือกเล่นเดิมพัน และเพื่อเป็นการเข้าสู่เกมส์บาคาร่าออนลไน์ ให้ท่านเลือกที่คำว่า บาคาร่า (กรอบสีแดง) จากนั้นท่านจะเห็นห้องเดิมพันเกมส์บาคาร่า เพื่อเข้าสู่ห้องเดิมพันเกมส์บาคาร่าให้ท่านเลือกที่คำว่า เข้าสู่เกมส์ (กรอบสีส้ม) จากนั้นเลือก จำนวนเงินขั้นต่ำในการเล่นเดิมพัน (กรอบสีเขียว) ได้เลยครับ

เกมส์ บาคาร่าออนไลน์